หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลัทธิกินมะพร้าว

โพสท์โดย ห่ะไรนะ

ลัทธิกินมะพร้าว

โพสนี้ สิบนำบทความ ของ คุณ ศิลป์ อิศเรศ มาให้อ่านนะคะ

ชายหนุ่มมีศรัทธาความเชื่อว่าการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ ทำให้เขาอัปเปหิตัวเองไปใช้ชีวิตบนเกาะเล็กๆกลางมหาสมุทร นุ่งลมห่มฟ้ากินแต่ผักหญ้าโดยเฉพาะมะพร้าวเป็นอาหารหลักที่ขาดไม่ได้

ตลอดระยะเวลา 17 ปี นับตั้งแต่ปี 1902 ถึงปี 1919 ออกุสต์ เอนเจลฮาร์ดต์ อดีตทหารเยอรมัน ใช้ชีวิตตามลำพังอาศัยอยู่กับชนพื้นเมืองบนเกาะเล็กๆกลางมหาสมุทรแปซิฟิก เขาดำรงชีพด้วยการกินมะพร้าวเพียงอย่างเดียวเพราะมีความเชื่อว่ามะพร้าวเป็นยารักษาสารพัดโรค

ออกุสต์ เอนเจลฮาร์ดต์ เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 1875 บิดาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสีและน้ำมันชักเงา เมื่อโตขึ้นเขาศีกษาวิชาฟิสิกส์และเคมีที่มหาวิทยาลัยเออร์ลังเกน ประเทศเยอรมัน หลังจากจบการศึกษาก็ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเภสัชกร ช่วงเวลานี้เองที่ออกุสต์เริ่มสนใจการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพ

ออกุสต์ศึกษาปรัชญาการดำเนินชีวิตของกลุ่มปฏิรูปการใช้ชีวิตจากหลายกลุ่มซึ่งล้วนแล้วแต่เน้นเรื่องการบริโภคผักและผลไม้ จนกระทั่งในปี 1899 ออกุสต์ไปสะดุดกับแนวคิดของกลุ่มจังบอร์น (Jungborn) ที่เน้นหลักการใช้ชีวิตนุ่งลมห่มฟ้าและบริโภคมะพร้าวเป็นอาหารหลัก

แต่แล้วเจ้าลัทธิจังบอร์นก็ถูกตำรวจจับในข้อหาโน้มน้าวผู้คนให้เป็นชีเปลือยซึ่งผิดทั้งข้อกฎหมายและผิดศีลธรรม ด้วยเหตุนี้เองออกุสต์จึงต้องเก็บงำความเชื่อและศรัทธาไว้ในใจ ไม่กล้าเปิดเผยให้ใครๆได้ล่วงรู้

ผลไม้บริสุทธิ์

ปี 1902 ออกุสต์ถูกเกณฑ์เป็นทหารรับใช้ชาติ เขาถูกส่งตัวมายังฐานทัพที่อาณานิคมหมู่เกาะนิวกินี ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ออกุสต์จะได้ทดลองการใช้ชีวิตสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดตามความเชื่อเดิมที่มีอยู่

ออกัสต์ทุ่มเงิน 41,000 มาร์ค ซื้อที่ดิน 750,00 ตารางเมตรบนเกาะคาบาคอน ซึ่งอยู่ห่างจากฐานทัพเยอรมันออกไปในทะเลราว 28 ไมล์ เพื่อใช้ปลูกกล้วยและมะพร้าว เตรียมพร้อมสำหรับการทดลองใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ บริโภคแต่พืชผักโดยเฉพาะมะพร้าว

ออกัสต์ปลูกบ้านบนเกาะอาศัยอยู่ท่ามกลางชนพื้นเมืองที่มีอยู่ราว 40 ชีวิต จากความเชื่อที่ว่าแสงอาทิตย์ให้กำเนิดชีวิตและให้พลังงาน แสงอาทิตย์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต ดังจะเห็นได้ว่าอวัยวะที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือสมอง หากไม่มีสมองอวัยวะส่วนอื่นก็จะทำงานไม่ได้ และที่สมองมีความสำคัญที่สุดก็เพราะมันอยู่สูงที่สุดในอวัยวะทั้งหมด เมื่อมันอยู่สูงที่สุดก็หมายความว่ามันอยู่ใกล้กับพระอาทิตย์มากที่สุดนั่นเอง ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าแสงอาทิตย์มีคุณประโยชน์กับร่างกาย

เช่นเดียวกันกับต้นมะพร้าว มันเติบโตสูงชะลูดกว่าต้นไม้พันธุ์อื่นๆทำให้มันอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากที่สุด ดังนั้น ผลมะพร้าวจึงเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุด มีประสิทธิภาพสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด ขณะที่ผลไม้ชนิดอื่นอยู่เตี้ยต้อยต่ำไม่บริสุทธิ์เท่ากับผลมะพร้าว ดังจะเห็นได้ว่าเนื้อมะพร้าวมีสีขาวและน้ำมะพร้าวมีลักษณะใสไร้สี ต่างกับผลไม้ชนิดอื่นๆโดยสิ้นเชิง

สร้างอาณาจักร

ปี 1903 นักเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ ออกุสต์ ฟอน เบธแมนน์-อัลส์เลเบน เดินทางมากที่เกาะคาบาคอน เขาศรัทธาการใช้ชีวิตสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแบบที่ออกุสต์ทำอยู่ จึงปวารณาตัวเป็นสาวกติดตามและใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแบบเดียวกัน

พฤติกรรมนุ่งลมห่มฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว แต่ในหมู่เกาะกลางมหาสมุทรที่แทบจะไม่มีคนอาศัยอยู่เป็นเรื่องไม่แปลก ใครใคร่ทำอะไรก็ทำไปไม่มีคนสนใจ เพราะจริงๆแล้วบนเกาะนี้ก็แทบจะไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่

การใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีโดยไม่มีกฎหมายและข้อบังคับห้ามทำโน่นทำนี่ ทำให้ผู้ที่มาเยือนเกาะคาบาคอนหลายคนไม่ยอมกลับ จนกระทั่งมีสาวกลัทธินุ่งลมห่มฟ้า ใช้ชีวิตอาบแสงแดดบริโภคมะพร้าวเป็นอาหารหลักเกือบ 30 คน หนึ่งในนั้นคือ แม็กซ์ ลุตโซว์ คอนดักเตอร์ นักไวโอลินและนักเปียนโนชาวเยอรมัน

ไร้ภูมิคุ้มกัน

ปี 1906 ออกุสต์ ฟอน เบธแมนน์-อัลส์เลเบน เกิดลังเลว่าเขาตัดสินใจถูกหรือไม่ที่จะใช้ชีวิตบนเกาะกลางมหาสมุทร นุ่งลมห่มฟ้า บริโภคมะพร้าวเพียงอย่างเดียว เขาจึงติดต่อให้เรือมารับกลับเยอรมัน แต่สุดท้ายเขาก็เสียชีวิตเสียก่อนที่ได้กลับบ้าน

แอนนา ชวับ ภรรยาของออกุสต์ ฟอน เบธแมนน์-อัลส์เลเบน ซึ่งรู้จักกันบนเกาะและเพิ่งแต่งงานกันเมื่อกลางปี 1906 เคยเตือนให้ออกุสต์ ฟอน เบธแมนน์-อัลส์เลเบน บริโภคผลไม้อื่นนอกจากมะพร้าวเพียงอย่างเดียว แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป แอนนาต้องเดินทางกลับเยอรมันเพียงคนดียว

เมื่อกลับมาถึงเยอรมัน เธอได้ทำเรื่องร้องเรียนให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาจัดการกับเรื่องนี้ ส่งผลให้รัฐบาลอกคำสั่งห้ามคนเยอรมันเดินทางมาที่เกาะคาบาคอน แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มไม่เชื่อฟัง เดินทางมาที่เกาะเพื่อไขว่คว้าหาอิสรภาพในการดำเนินชีวิต

หลายคนที่เดินทางมากลับต้องพบจุดจบในช่วงเวลาอันสั้น ความเชื่อที่ว่าการอาบแสงตะวันและบริโภคแค่เพียงมะพร้าวจะช่วยรักษาสารพัดโรคกลับกลายเป็นตรงกันข้าม เฮนริช ยูเกนส์ นักศึกษาวัย 24 ปี จบชีวิตลงหลังจากอาศัยอยู่บนเกาะเพียงแค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น

เฮนริชป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา เขาขึ้นเรือเพื่อไปรักษาตัวที่เกาะใหญ่ แต่วันนั้นมีพายุฝนทำให้อาการป่วยยิ่งกำเริบ เป็นไปได้ว่าการกินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการทำให้ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้เฮนริชเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สาวกลัทธิอาบแสงแดด-กินมะพร้าว เกิดความลังเลและย้ายออกจากเกาะกลับสู่ถิ่นฐานเดิม

อวสานค์เกาะสวรรค์

สาวกลัทธิกิน(แต่)มะพร้าวล้วนแล้วแต่ประสบกับปัญหาเป็นแผลที่ขา นิ้วบวม ผิวหนังเป็นผื่น มีไข้และหน้ามืด สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้พวกเขาต้องอพยพกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่ ปล่อยทิ้งให้เจ้าสำนักอยู่เฝ้าเกาะตามลำพัง

ปี 1914 เกิดเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 เกาะคาบาคอนถูกฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดครอง ออกุสต์ถูกจับตัวส่งเข้าค่ายกักกันเชลยสงครามในออสเตรเลีย แต่ได้รัยการปล่อยตัวในเวลา 3 สัปดาห์ต่อมาด้วยเหตุผลว่าเป็นคนไม่เต็มบาท

ออกุสต์เดินทางกลับมาที่เกาะคาบาคอน แต่บัดนี้มันถูกออสเตรเลียยึดครองไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ออกุสต์ยังคงดำเนินชีวิตตามความเชื่อด้วยการนุ่งลมห่มฟ้า บริโภคแต่เพียงมะพร้าว จนกระทั่งเสียชีวิตลงตามลำพังเมื่อราวต้นเดือนพฤษภาคม 1919

ความเชื่อที่ว่าการใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้วยการนุ่งลมห่มฟ้าปฏิเสธเสื้อผ้าอาภรณ์และบริโภคมะพร้าวเป็นอาหารหลักจะทำให้สุขภาพดีมีอายุยืนยาวกลับกลายเป็นตรงกันข้าม ออกุสต์เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียงแค่ 44 ปี ก่อนเสียชีวิตเขามีสัดส่วนความสูง 166 เซนติเมตร น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ซึ่งนับกว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก

เรื่องราวของออกุสต์อาจฟังดูสุดโต่งจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่หากเรามองดูรอบๆตัวจะพบว่าแม้ในปัจจุบันก็ยังมีคนบางคนที่มีความเชื่อผิดๆเพราะขาดความรู้ทางด้านโภชนาการที่ถูกต้อง

ที่มา:ที่มา ดีดี คอลัมน์ : ร้ายสาระ ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

http://www.lokwannee.com/web2013/?p=194380
นู๋คืนสิบ เดือนสยอง‎เรื่องลี้ลับของโลก'
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1537546719896803&set=gm.1707282442842397&type=3&theater
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ห่ะไรนะ's profile


โพสท์โดย: ห่ะไรนะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: ท่านฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง, Teangmodog, njack, aRnoNAe
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เขมรโป๊ะแตก! สั่งออนใลน์เอาผ้าปูโต๊ะจากไทยมาทำเป็นสะไบ คิดได้ไงเนี่ย?ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆเขมรยกทัพโชว์ลีลาไหว้ครูมวย "กุนขแมร์" เพื่อประกาศศักดาให้ชาวโลกรู้ว่า สามารถปราบมวยไทยได้!อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกHuawei ทวงคืนบัลลังก์! ขึ้นแท่นอันดับ 1 ตลาดสมาร์ทโฟนจีนอีกครั้งเขมรเคลมอีก? อ้าง ข้าวเหนียวทุเรียน คือขนมดั้งเดิมของเขมรโบราณ!สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว พฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกสื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้เขมรโป๊ะแตก! สั่งออนใลน์เอาผ้าปูโต๊ะจากไทยมาทำเป็นสะไบ คิดได้ไงเนี่ย?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
smolder: คุกรุ่นรีวิวหนังสือ กฎ 21 ข้อที่ไม่มีผู้นำคนไหนปฏิเสธได้ (The 21 Irrefutable Law of leadership)erosion: การกัดเซาะ การทำให้สึกกร่อนโทษ-ประโยชน์ของการช่วยตัวlอง ผู้ชายควรรู้
ตั้งกระทู้ใหม่