10 เรื่องจริงของคนเกาหลี ที่ไม่มีในซีรีย์
เว็บไซต์ toptenthailand เว็บไซต์จัดอันดับชื่อดัง ได้จัดอันดับ10 เรื่องจริงของคนเกาหลีที่ไม่มีในซีรีย์!! เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ และตอนนี้ก็ด้วย! ต้องบอกเลยว่าประเทศเกาหลี เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาว ๆ ยิ่งวัยรุ่นล่ะก็กระแส K-POP ถือว่ามีอิทธิพลมากเลยทีเดียว ทั้งศิลปินดารานักร้อง รวมไปถึงซีรีย์ที่เราติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ชีวิตจริงของพระเอกนางเอกเหล่านั้นจะเหมือนกับในซีรีย์ที่เราดูหรือไม่ สงสัยกันล่ะซิ??? งั้นไปดูกันเลย!
10. คนเกาหลีชอบเดินชน
ขอบคุณรูปจาก www.huffingtonpost.com
คนเกาหลีส่วนมากเวลาเดินไปไหนจะชอบชนคนด้วยกันเอง ยิ่งย่านที่คนเยอะๆ หรือเวลาเร่งรีบ มันจะเดินชนกันชนิดได้ยินเสียง พลึ่กพลั่กๆ ตามทางตลอด และเค้าจะไม่ขอโทษกัน อาจจะเป็นเพราะคนประเทศนี้เป็นคนรีบๆก็ได้จึงไม่มีเวลามาขอโทษขอโพยกันแบบคนไทยใจดี และคนพวกนี้เดินชนกันเป็นปกติจริงๆ!! มิน่าทำไมแฟชั่นเกาหลีถึงไม่มีแจ็คเก็ตหนามชูชันแบบพวก punk ฝรั่ง
9. อวัยวะที่ 33 ของคนเกาหลีคือ มือถือ
ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดงขอทานคนขายพวกมาลัยก็ต้องมีมือถือทั้งนั้น หากได้ไปในไปที่ต่างๆผมเห็นเด็กๆในเมืองอายุราวๆ 4-5 ขวบก็ควักมือถือกันมาโทรเป็นเรื่องปกติกันแล้ว ทั้งๆที่ shop มือถือของเกาหลีหาได้น้อยมาก(มีอยู่ร้านเดียวแถวๆ ทงแดมุน) ซึ่งเมืองไทยกว่าจะมีโทรศัพท์กันก็คงสักประมาณ 13ขวบ หรือช่วงขึ้น ม.1
8. คนเกาหลีชอบย้ำ
ขอบคุณรูปจาก www.japantimes.co.jp
ย้ำในที่นี้คือพูดถามหรือบอกอะไรซ้ำๆ จากประสบการณ์ของใครหลายๆคนที่ไม่รู้ภาษาเกาหลี เพราะฉนั้นเวลาไปซื้อของอะไรแล้วคนเกาหลีจะถามย้ำนักย้ำหนาด้วยคำถามอะไรที่เรามักจะฟังไม่รู้เรื่อง ก็เลยใช้วิธีแก้ปัญหากันโดยพูดว่า " No!! " แต่คนพวกนี้ก็ไม่ค่อยจะหยุด ซ้ำยังก้มหน้าก้มตาถามอะไรซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันต่อไปประมาณ5-6รอบ บางรายถึงขั้นเดินไปจับมือแล้วก็ทวนคำถามแบบช้าๆชัดๆให้ฟังอีกรอบแบบไม่จบไม่สิ้น
7. นักเรียนเกาหลีแทบทุกคนต้องเรียนพิเศษ
ขอบคุณรูปจาก www.economist.com
ที่ประเทศเกาหลีจัดว่าการแข่งขันในด้านวงการการศึกษาสูงประเทศหนึ่ง ทำให้เด็ฏๆที่นั่นต้องเรียนหนักเพื่อการสอบ การเรียนพิเศษเลิก 4 ทุ่มทุกวัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา ช่วงสอบ ปลายภาคอาจมีคอร์สพิเศษเปิดสอนถึงตี 2 โดยเฉพาะวิชาเลขเป็นวิชาที่ วัยรุ่น เกาหลีทุ่มเทมากๆๆ
6. โทรศัพท์มีไว้กดมากกว่าโทร
ขอบคุณรูปจาก www.technology.inquirer.net
คนเกาหลีจะนิยมส่งเมสเสจหากันมากกว่าโทรไปหาโดยตรง และคนเกาหลีตัวจริงจะกดแป้นโทรศัพท์กันไวมาก โดยปีล่าสุดคนเกาหลีใต้เคยไปแข่งกดส่ง sms และได้รางวัลที่ 1 ระดับโลก
5. คนเกาหลีโรแมนติกมากกว่าที่คิด
ขอบคุณรูปจาก www.crunchyroll.com
เป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยนประเทศเกาหลีว่าไม่ว่ามุมไหนก็จะมีสิ่งต่างๆที่เร้าความรู้สึกไปทางเรื่องรักๆใคร่ๆ เพราะจะพบเห็นพฤติกรรมกุ๊กกิ๊กของหนุ่มสาวแทบจะทุกที่ ร้อยละ95 จะต้องเดินจูงมือ หอมแก้ม จูจุ๊บกันให้อิจฉาเล่นๆ
4. คนเกาหลีชอบเคาะประตูก่อนเข้าห้องน้ำ
ขอบคุณรูปจาก www.dramabeans.com
อันนี้ก็เรื่องแปลกก็ว่าได้ เวลาที่คนกาหลีจะเข้าห้องน้ำสาธารณะจะต้องเคาะประตูก่อน 3-4 ครั้ง ถ้าไม่มีสัญญาณตอบรับจากเป้าหมายปลายทางที่ท่านเรียกแล้วจึงเปิดประตูเข้าไป หลายคนสงสัยว่าทำไมเค้าไม่ผลักประตูเข้าไปเลย หรือคนข้างในก็ล็อคกลอนประตูซะ
3. คนเกาหลีต่อราคาง่าย
ขอบคุณรูปจาก flashpackatforty.com
คนเกาหลีขายของง่ายมากกว่าที่เราคิด เช่น กางเกงยีนราคาเริ่มต้นที่ 54000W ก็ต่อมาถึง 28000W ได้ ตีเป็นเงินไทยราวๆจาก 1800 บาทต่อมาเหลือ 930 บาท!แต่เพราะที่นี้คือ เกาหลี เราจึงสามารถต่อราคาแบบคอหักได้ไม่ยากโดยอาศัยเวลาแค่ 5นาทีในการทำเป็นเดินยักแย่ยักยันจะออกจากร้านก็ได้แล้ว เพราะที่เกาหลีเหมือนร้านมือถือบ้านเราคือจะเปิดติดๆๆๆกันไปหมด ซึ่งใครขายถูกก็ขายได้นั่นเอง (ยกเว้นผลิตพันธ์ชั้นนำของเกาหลีที่เค้าไม่ง้อลูกค้าจำพวก Skin food , ETUDE)
2. คนเกาหลีชอบเสียงดัง
ขอบคุณรูปจาก randomsoju.wordpress.com
อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยในบ้านเรา เพราะที่เกาหลีเวลาไปไหนก็ตามไม่ว่า กินข้าว เดินช็อปปิ้ง เข้าห้องน้ำ คนเกาหลีจะพูดจาเสียงดังซะบางทีก็สะดุ้ง ผู้ไปเยือนบางรายเคยบอกว่าบางทีกินๆข้าวอยู่นึกว่ามียากูซ่ามาเรียกเก็บค่าคุ้มครองในร้านซะแล้ว กินๆอยู่เกือบหมอบก็มี!
1. คนเกาหลีไม่พูดภาษาอื่น
ขอบคุณรูปจาก www.hoteliermiddleeast.com
ไม่ว่าคุณจะพูดประโยคเบสิกคลาสสิคแค่ไหน เค้าก็จะยืนเอ๋อๆเหมือนไม่รับรู้อะไร จะมีแค่ไม่กี่% ที่สามารถฟัง พูด ภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และแม้ว่าคนเกาหลีนี้ถึงเค้ารู้ว่าเราไม่รู้ภาษาเกาหลี เค้าก็จะคงพูดเกาหลีต่อไป พบได้บ่อยมากๆในแหล่งช๊อปปิ้ง เช่น " This jean for male or female" เป็นที่รู้กันว่าผู้ถามเป็นคนต่างชาติ แต่คนขายกลับโวยวายชี้นู้นชี้นี้อะไรก็ไม่รู้แล้วพูดภาษาเกาหลีต่อไปอย่างมันปาก ด้วยความงงจึงบอกไปว่า " I'm sorry but I don't understand you " แต่คนขายก็ไม่รับรู้อะไรพร้อมพูดภาษาบ้านเกิดต่อไป
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก www.toptenthailand.com