เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ในประวัติศาสตร์จีน
ตามปกติแล้วพอสิ้นราชวงศ์เก่า ฮ่องเต้ราชวงศ์ใหม่มักไม่ประหารฮ่องเต้เดิม แต่จะลดฐานันดรลงมา เท่าที่ทราบอย่างสูงสุดลงมาเป็นเจ้าชั้นรอง (อ๋อง) อย่างต่ำทีสุดเป็นพระยา (โหว) อย่างตอนโจผีล้มราชวงศ์ฮั่น ลดพระยศเ...้ยนเต้ลงเป็นเจ้าพระยา (กง) สืบ ทอดเชื้อสายพระวงศ์ฮั่นมาอีก 75 ปี เชื้อวงศ์ก็ถูกกำจัดจนสิ้น หรือพระเจ้าซุนโฮ แห่งง่อก๊ก ถูกพระเจ้าสุมาเอี๋ยนปราบ ลดพระยศลงมาเป็นแค่พระยา (โหว)
ภาพของพระเจ้าซ่งไท่จู่ จ้าวควงอิ้น วาดขึ้นเมื่อค.ศ. 1000
ราชวงศ์ต่อๆ ก็ทำแบบเดียวกันคือไม่ฆ่า แต่ปลดลดชั้น ไม่ตายก็อยู่อย่างอัปยศอดสู บางคนถูกตั้งราชทินนามเหยียดหยามซ้ำเติม เช่น พระเจ้าเฉินโห่วจู่ แห่งราชวงศ์เฉิน ถูกราชวงศ์สุยล้มอำนาจ แต่ไว้ชีวิตแล้วเลี้ยงดูอย่างดีให้เป็นเจ้าพระยา แต่พอสิ้นพระชนม์ พระเจ้าสุยหยางตี้ มอบราชทินนามไล่หลังว่า หยางกง (เจ้าพระยาเหลาะแหละ) แต่เหมือนเวรกรรมมีจริง ภายหลังสุยหยางตี้ ถูกราชวงศ์ถังล้มอำนาจ ก็ถูกคนรุ่นหลังมอบพระนามเดียวกันนี้ให้เป็นการตอบแทน
บางกรณีแม้จะไว้ชีวิตฮ่องเต้ราชวงศ์ก่อน แต่ภายหลังมักพระราช ทานโทษฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ ที่ไม่ฆ่าเสียแต่ทีแรกเพราะราชธรรมค้ำคอ คุณธรรมบังหน้า แม้การผลัดอำนาจในจีนมักไม่ฆ่าตัวขุนกันอยู่แล้ว แต่พอสบโอกาสก็จะค่อยเชือดทีหลัง เช่น พระเจ้าถังอายตี้ ฮ๋องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ถัง ถูกปล่อยตัวไว้พักหนึ่ง ให้พระยศเป็นเจ้า แต่ถูกลอบวางยาพิษสิ้นพระชนม์แล้วตั้งพระนามว่า "เจ้าน่าสมเพช"
ถ้าจะลองหาเชื้อพระวงศ์ที่ยังมีชีวิต ผมตัดตอนแค่ราชวงศ์ถังลงมาเพราะก่อนหน้านั้นคงสาวลำบากเต็มที
เริ่มที่เชื้อพระวงศ์ถังแซ่หลี่ มีข้อมูลว่าอพยพกันไปอยู่ที่หมู่บ้านว่างหลิ่ง แถบเมืองเม่าหมิง มณฑลกวางตุ้ง มาตั้งรกรากแถบนี้มานานกว่า 600 ปีแล้ว สืบวงศ์มาจาก ซีผิงอ๋อง หลี่เฉิงกง ทราบว่าที่มณฑลเหอหนาน ก็มีผู้อ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากซีผิงอ๋อง ถึงรุ่นที่ 46 แล้ว
ต่อมาเป็นเชื้อพระวงศ์แซ่จ้าวของราชวงศ์ซ่งค่อยหาง่ายขึ้น มีอยู่ที่อำเภอหัวอัน เป็นสายของพระเจ้าซ่งไท่จู่ จ้าวควงอิ้น กับที่อำเภอจางผู่ มณฑลฝูเจี้ยนเป็นสายของเว่ยอ๋อง จ้าวถิงเหม่ย พระนัดดาของจ้าวควงอิ้น อพยพมาอยู่ที่นี่ประมาณ 700 ปีที่แล้วในสมัยราชวงศ์หยวน นอกจากนี้ ยังมีสายของซ่งไท่จู่ อพยพไปปักหลักที่เกาหลี เช่นที่เมืองฮึงซอง เป็นคนแซ่จ้าว (เกาหลีเรียกแซ่โจ) สายของซ่งไท่จู่ ที่เมืองแพ็กชอน เป็นสายของพระโอรสองค์โตของซ่งไท่จู่ จ้าวเต๋อเจา ที่เมืองลิมชอน เป็นสายของจ้าวเหวยจี พระราชปนัดดาซ่งไท่จู่
เชื้อพระวงศ์หยวนสายของเป่ยหยวน ถูกกำจัดหมดสิ้นหลังก่อกบฎสมัยราชวงศ์ชิง ผู้ชายถูกประหารหมดไม่ว่าเล็กใหญ่ ผู้หญิงถูกขายเป็นทาส
เชื้อพระวงศ์หมิงในสมัยราชวงศ์ชิง มีคนในราชสกุลจูจำนวนมากเปลี่ยนแซ่ เพราะกลัวการกวาดล้าง ทำให้เชื้อพระวงศ์หมิงไปใช้แซ่อื่นๆ กันมาก แต่ยังมีเหลือเช่น จูจือเหลี่ยน ได้รับพระราชฐานบรรดาศักดิ์จากราชวงศ์ชิงให้เป็นพระยาเหยียนเอิน คอยประกอบพิธีบวงสรวงสุสานราชวงศ์หมิง ทำหน้าที่ต่อๆ กันมา 12 รุ่น มาจบลงที่ จูอวี้ซวิน ในสมัยจักรพรรดิองค์สุดท้าย หลังจากนั้นไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์สายพระยาเหยียนเอินอีก ทราบแต่ว่ายากจนมากแม้แต่ชุดขุนนางก็ต้องยืมมาใส่ แต่ที่น่าสนใจก็คือ จูหรงจี อดีตนายกรัฐมนตรีของจีนอ้างว่ามาจากราชสกุลจู โดยสืบมาจากหมินจวงอ๋อง พระโอรสองค์ที่ 18 ของ จูหยวนจาง ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์หมิง จูหรงจีถือเป็นรุ่นที่ 17
สมัยราชวงศ์ชิงยังเหลืออยู่บานตะไท ขอละไว้ก็แล้วกันครับ แต่มีเกร็ดเล็กน้อย คือราชสกุลอ้ายซินเจี๋ยหลัว สืบสายมาจากราชสกุลจ้าวของราชวงศ์ซ่งที่ถูกพวกกิมก๊กกวาดต้อนไปเป็นเชลย พวกกิมก๊กคือบรรพบุรุษของพวกแมนจู ที่ตั้งราชวงศ์ชิงนั่นเอง