หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สาระน่ารู้[แชร์สูตรนักธุรกิจมือใหม่] วิธีการคำนวณต้นทุนและจุดคุ้มทุนในการทำธุรกิจส่วนตัว

โพสท์โดย ห่ะไรนะ

ใครก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะมันเป็นอาชีพเดียวที่สามารถปั้นฝันให้เป็นเงินได้ ทำอะไรก็ได้ดั่งใจไปทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย มันต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านที่จะบ่งบอกได้ว่ามันจะเจ๋งหรือเจ๊งในพริบตา

ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดทำธุรกิจ มีเงินทุน มีธุรกิจในใจแล้ว แต่ไม่เก่งด้านการคำนวณ
หรืออยากจะเป็นนักธุรกิจบ้าง แต่กลัวว่าคิดบัญชีไม่เก่ง จะทำธุรกิจไม่ได้
Thaijobsgovมีหลักการคิดต้นทุนและจุดคุ้มทุนง่ายๆ เอาใจนักธุรกิจหน้าใหม่ให้ราบรื่นขึ้น

ภาพประกอบจาก en.aectourismthai.com

การทำธุรกิจทุกประเภท ผู้ทำธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจSME
ต่างก็ต้องการที่จะมีกำไรทั้งนั้น ซึ่งกำไรจะได้มาจาก
กำไร = รายได้ – ต้นทุน

ดังนั้นนอกจากเราจะคำนึงถึงการเพิ่มรายได้ เพิ่มกำไรแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ทำธุรกิจส่วนตัวควรให้ความสำคัญก็คือ ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

ต้นทุนในการทำธุรกิจ หลักๆ แล้วแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1.ต้นทุนคงที่ ( Fixed cost) ต้นทุนคงที่คือต้นทุนที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่าย ไม่ว่าจะขายได้มาก หรือขายได้น้อย เช่น ร้านขายก๋วยเตี๋ยว คุณจะมีต้นทุนคงที่คือ ค่าเช่าที่ร้าน เงินเดือนลูกจ้าง เป็นต้น

2. ต้นทุนผันแปร ( Vaiable cost) ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่จะแปรผันไปตามยอดขาย เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว จะมีค่าใช้จ่ายพวกวัตถุดิบในการทำก๋วยเตี๋ยว เส้นบะหมี่ เนื้อหมู เป็นต้นทุนผันแปร เพราะยิ่งคุณขายดีเท่าไหร่ คุณก็ต้องจ่ายต้นทุนผันแปรมากขึ้นเช่นกัน

ขอยกตัวอย่างการคำนวนต้นทุนของร้านก๋วยเตี๋ยวนะครับ
ถ้าร้านก๋วยเตี๋ยวต้องเสียค่าเช่าร้าน เสียค่าเช่าที่เดือนละ 10,000 บาท
เสียค่าจ้างเด็กในร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อช่วยบริการในร้าน ช่วยล้างจาน เดือนละ 9,000 บาท
ดังนั้นร้านก๋วยเตี๋ยวจะมีต้นทุนคงที่ 19,000 บาท

ส่วนต้นทุนผันแปร สมมติว่าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไปจ่ายตลาด ซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้น ผักต่างๆ รวมแล้ว 1,200 บาท จะผลิตก๋วยเตี๋ยวได้ 100 ชาม
ดังนั้น 1,200 หาร 100 = 12 บาท ดังนั้นต้นทุนผันแปร เท่ากับ 12 บาท ต่อชาม

ถ้าร้านก๋วยเตี๋ยวขายก๋วยเตี๋ยวได้ 100 ชามต่อวัน ขายได้ชามละ 30 บาท
เดือนนึงจะขายได้ประมาณ 3000 ชาม ขายได้เงิน 90,000 บาท
ซึ่งจากสูตร กำไร = รายได้ – ต้นทุน( เกิดจาก ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร) คำนวณคร่าวๆ จะได้ดังนี้ = 90,000 – (19,000 + (12*3,000))
= 90,000 – (19,000 + 36,000)
ดังนั้น ร้านก๋วยเตี๊ยว จะมีกำไรประมาณ 35,000 ต่อเดือน
(คิดคร่าวๆ แบบยังไม่รวมเงินเดือนของผู้ประกอบการเอง)

ผู้ที่ต้องการจะเปิดร้าน หรือเปลี่ยนสถานที่เปิดร้านควรที่จะใช้สูตรนี้ในการคำนวณรายได้ กำไร ต้นทุนต่างๆ ครับ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาว่าทำแล้วธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจSME ของคุณจะได้กำไรประมาณเท่าไหร่ต่อเดือน

 

ในกรณีที่คุณอยากจะย้ายทำเลค้าขายของคุณไปยังสถานที่ใหม่ คุณก็สามารถใช้สูตรนี้ช่วยพิจารณาว่าจะย้ายทำเลดีหรือไม่ เช่น มีตึกแถวว่าง ทำเลดีมากๆ ใกล้ตลาดที่มีคนพลุกพล่าน เจ้าของตึกคิดค่าเช่า เดือนละ 20,000 บาท ซึ่งแพงกว่าทีปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวมีค่าเช่าที่ 10,000 บาท ถ้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวคาดคะเนว่าถ้าย้ายร้านไปที่ใกล้ตลาด จะขายได้ประมาณวันละ 150 ชาม หนึ่งเดือนจะขายได้ประมาณ 4500 ชาม ราคาขายชามละ 30 บาท รายได้ต่อเดือนประมาณ 135,000 บาท ดังนั้นลองคำนวณกำไร ในกรณีถ้าย้ายร้านไปที่ตึกว่างใกล้ตลาด

สูตร กำไร = รายได้ – ค่าใช้จ่าย(ต้นทุนคงที่ +ต้นทุนผันแปร)
คำนวณคร่าวๆ จะได้ดังนี้ = 135,000 – ((20,000+9,000) + (12*4,500))
= 135,000 – (29,000 + 54,000)
= 135,000 – 83,000
= 52,000

ดังนั้นถึงแม้ว่าทำเลใหม่ค่าเช่าตึกแถว จะแพงกว่าค่าเช่าเดิมเท่าตัว (จาก 10,000 เป็น 20,000) แต่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ก็ควรที่จะย้ายร้านไปที่ตั้งใหม่ครับ เพราะว่าจะมีกำไรที่มากกว่า (กำไรถ้าเช่าที่เดิม 35,000 แต่ถ้าเช่าที่ใหม่ จะกำไร 52,000 บาท)

และถ้าจะเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวต้องการหาว่าจะต้องขายก๋วยเตี๋ยวอย่างน้อยได้เดือนละ กี่ชาม ถึงจะถึงจุดคุ้มทุน
ให้ใช้สูตรคำนวณจุดคุ้มทุนตามนี้ครับ
จุดคุ้มทุน = ต้นทุนคงที่รวม / (ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย)

จากตัวอย่างร้านก๋วยเตี๋ยวนี้ก็คือ จุดคุ้มทุน = 19,000 / ( 30 – 12 )
ดังนั้นจุดคุ้มทุนของร้านก๋วยเตี๋ยวก็คือ 1,055 ชาม นั่นเอง
ถ้าร้านก๋วยเตี๋ยวขายก๋วยเตี๋ยว 1 เดือนได้น้อยกว่า 1,055 ชาม ร้านก๋วยเตี๋ยวจะขาดทุนครับ
แต่ถ้าขายได้ตั้งแต่ 1,055 ชาม เป็นต้นไปก็จะเริ่มได้กำไร

นอกจากนี้ถ้าคุณมีพื้นที่เป็นของตัวเอง เช่น คุณมีตึกแถว และคุณใช้ตึกแถวนั้นทำธุรกิจส่วนตัว ถึงคุณจะไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณเวลาคำนวณกำไร ให้ใส่ค่าเช่าร้านของคุณไปเป็นต้นทุนด้วย (อาจจะเทียบกับค่าเช่าบริเวณใกล้เคียง) ที่ให้ใส่ค่าเช่าร้านเป็นค่าใช้จ่ายไปด้วยเพราะว่าถึงคุณจะไม่ทำธุรกิจที่ตึกแถวของคุณเอง คุณก็อาจจะปล่อยตึกแถวของคุณให้คนอื่นเช่าก็ได้ครับดังนั้นเพื่อการคำนวณกำไรอย่างละเอียดจึงควรใส่ค่าเช่าร้านเป็นต้นทุนด้วย (ถึงแม้ว่าคุณไม่ต้องจ่ายค่าเช่าก็ตาม)

หวังว่าบทความนี้จะช่วยผู้อ่านประเมินต้นทุนในการทำธุรกิจส่วนตัวได้ดีขึ้นครับ 

ที่มา: lมาชิกมังกรซ่อนกาย เว็บไซต์http://pantip.com/topic/30110503
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ห่ะไรนะ's profile


โพสท์โดย: ห่ะไรนะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: zerotype, riddle, พี่ใหญ่ ใจดี, Pop, aRnoNAe
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ครูไพบูลย์ เจ้าของฉายากงยูเมืองไทย อวดหล่อโชว์ซิกแพก กล้ามแน่น ทำเอาสาวแห่กรี๊ด!!สเปกหนูรัตน์ ชอบรวย หล่อแบบเกาหลีซูเปอร์สตาร์ที่ไม่มีงานแสดง แต่เป็นเศรษฐีระดับพันล้าน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
Sex ดีขึ้น!! ขริบหนังหุ้มปลายน้องชาย ช่วยให้หลั่งช้าลงจริงหรือ??5 วิธี สละโสด5 สิ่งที่คุณมีอยู่แล้วน่าอิจฉาแต่คุณอาจไม่รู้ตัวอาการคันน้องสาวเกิดจากอะไร? แก้ไขอย่างไร?
ตั้งกระทู้ใหม่