หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ภาษีรถยนต์ปี 2559 เรื่องที่คนเตรียมถอยรถป้ายแดงควรรู้!!

โพสท์โดย ห่ะไรนะ

ภาษี รถยนต์ใหม่ ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2559 ทำให้คนที่กำลังคิดจะ ซื้อรถ ต้องนั่งคำนวณตัวเลขกันวุ่นกับภาษีที่ต้องเสียเพิ่มขึ้น แต่งานนี้ Eco Car ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ เพราะได้ลดภาษี !

ใครที่กำลังวางแผนซื้อรถใหม่ในช่วงปี 2559 เตรียมเก็บเงินเพิ่มได้เลย เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป รัฐบาลจะทำการปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบ เนื่องจากเห็นว่า การจัดเก็บภาษีในอัตราเดิมนั้นมีการบิดเบือนโครงสร้างทางภาษีสรรพสามิต และก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ จึงได้มีการคลอดเกณฑ์การจัดเก็บภาษีรถยนต์แบบใหม่ โดยพิจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยหวังจะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศนั่นเอง

งานนี้เหล่าผู้ที่กำลังจะควักกระเป๋าซื้อรถประเภทอีโคคาร์ ดูเหมือนจะได้รับอานิสงส์จากภาษีใหม่ไปเต็ม ๆ เพราะเป็นรถประเภทที่ปล่อยไอเสียในอัตราที่ไม่สูงมาก ทำให้อัตราการเก็บภาษีลดลงไปโดยปริยาย ขณะที่รถยนต์ประเภทอื่น ๆ ที่ปล่อยไอเสียในอัตราที่สูง ก็เตรียมก้มหน้ารับรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้นตามปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาได้เลย ซึ่งแบ่งเป็นการคิดภาษีตามประเภทรถยนต์และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนี้

จากตารางที่แสดงอยู่ด้านบนทางด้านกรมสรรพสามิตแบ่งแยกรถยนต์อย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่สามารถจำแยกเครื่องยนต์ออกไปอย่างละเอียดได้ อัตราภาษีจะอย่างในช่วง 10% จนไปถึง 50% เลยทีเดียว เราจะมาแบ่งแยกให้ชัดเจนเพื่อทำควมเข้าใจกับระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่กัน โดยจะแบ่งออกเป็น 8 ประเภท

[thaihiggs]

1. รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)

– ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)

– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 40% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)

รถยนต์นั่งในพิกัดนี้ ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาด มีตั้งแต่ รถยนต์ระดับซับคอมแพคท์ จนถึงรถยนต์ระดับพรีเมียมหลายรุ่น ที่หันมาใช้เครื่องยนต์ความจุน้อยลง รวมทั้งเอสยูวีบางรุ่นด้วย

ในอัตราภาษีเดิม รถยนต์ซับคอมแพคท์ ที่รองรับน้ำมัน E20 เช่น โตโยตา วีออส, เชฟโรเลต์ โซนิค, ฟอร์ด ฟิเอสตา จะเสีย 25 % แต่อัตราใหม่ รถเหล่านี้ถ้าปล่อย CO2 ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีเพิ่มเป็น 30 % ส่วนรถบางรุ่นที่รองรับน้ำมัน E85 เช่น ฮอนด้า แจ๊ซ จะเสีย 25% เท่าเดิม

รถยนต์คอมแพคท์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1,780-2,000 ซีซี และรองรับน้ำมัน E85 เช่น โตโยตา อัลทิส (เฉพาะเครื่อง 1,800 ซีซี), ฮอนดา ซีวิค, เชฟโรเลต์ ครูซ (เฉพาะเครื่อง 1,800 ซีซี), มาซดา 3 อัตราเดิมเสีย 22 % ส่วนอัตราใหม่ รุ่นที่ปล่อย CO2 ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะเสียเพิ่มเป็น 25 % ส่วนรุ่นที่ปล่อยในพิกัด 151-200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียเพิ่มเป็น 30 % ส่วนรถที่รองรับน้ำมัน E20 จากเดิมเสีย 25 % ก็จะต้องเพิ่มเป็น 30 % หรือ 35 % ตามปริมาณการปล่อยไอเสีย

รถยนต์นั่งขนาดกลางและเอสยูวีหลายรุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เช่น โตโยตา แคมรี, ฮอนดา แอคคอร์ด, ฮอนดา ซีอาร์วี, นิสสัน เทอานา, มาซดา ซีเอกซ์-5 ฯลฯ มีทั้งรุ่นที่รองรับน้ำมัน E20 และ E85 ซึ่งถูกคิดภาษีอยู่ที่ 25 % และ 22 % ตามลำดับ รถระดับนี้ ส่วนใหญ่ยังคงปล่อยไอเสียในพิกัด 151-200 กรัมต่อกิโลเมตรอยู่ ดังนั้น จะเสียภาษี 35 % หรือ 30 % ขึ้นกับน้ำมันที่รองรับ

นอกจากนี้ รถยนต์ระดับพรีเมียม ตั้งแต่ขนาดซับคอมแพคท์ จนถึงขนาดกลางหลายรุ่น ก็จะถูกคิดภาษีเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณการปล่อยไอเสีย

ในพิกัดนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์นั่งและเอสยูวีขนาดกลาง รวมถึงรถยนต์ระดับพรีเมียมบางรุ่น ซึ่งเดิมเสียภาษี 30 % และ 27 % ขึ้นอยู่กับว่ารองรับน้ำมัน E20 หรือ E85 ซึ่งเท่าที่สำรวจรถในตลาด พบว่า รถที่ใช้เครื่องยนต์ระดับนี้ จะปล่อยไอเสีย 151-200 กรัมต่อกิโลเมตร ดังนั้นจะถูกเพิ่มภาษีเป็น 35 % สำหรับรถที่รองรับน้ำมัน E20 และ 30 % สำหรับบางรุ่นที่รองรับน้ำมัน E85

2. รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
– ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)

3. รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 10%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 10%
– ปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 20%
– ปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%

4. รถยนต์ Eco Car (เดิมจัดเก็บภาษี 17%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และใช้น้ำมัน E85 ได้ จัดเก็บภาษี 12%
– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 14%
– ปล่อยก๊าซเกิน 100-120 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 17%

5. รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 3%
– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%

6. รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%
– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 7%

7. รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิ้ลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 12%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 12%
– ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 15%

8. รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 20%)

– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
– ปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%

  • รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (PPV) ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 3,250 ซีซี จากเดิมเสียภาษี 20 % ทุกรุ่น ในอัตราใหม่จะเพิ่มเป็น 25 % สำหรับรถที่ปล่อยไอเสีย ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร และ 30 % สำหรับรถที่ปล่อยไอเสียเกิน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ๋นั้นยังมีค่าไอเสียเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร หมายความว่า ในปี 2559 รถพีพีวี จะเสียภาษีแพงขึ้นอีก 10 % แทบทุกรุ่น

จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่ารถยนต์ประเภทอีโคคาร์นั้นมาราคาถูกลง ซึ่งเป็นนโยบายที่ทางกรมสรรพสามิตต้องการสนับรถยนต์ประหยัดพลังงานและรักษ์โลกโดยจะปล่อยก๊าซ CO² ต่ำกว่า 100 g/km

สรุป : ภาษีใหม่ = มาตรฐานใหม่

อัตราภาษีใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในตลาด มีราคาสูงขึ้น เพราะต้นทุนค่าภาษีจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-10 % อย่างไรก็ตาม ภาษีใหม่นี้ จะสร้าง “มาตรฐานใหม่” ให้แก่วงการยานยนต์ไทย โดยจะกระตุ้นให้ผู้ผลิต พัฒนา และสร้างสรรค์รถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน และปล่อยไอเสียต่ำ เพื่อให้อยู่ในพิกัดภาษีที่เหมาะสม ดังนั้น ในระยะยาว คนไทยจะได้ใช้รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา: http://www.thaihiggs.com/21047
ขอขอบคุณที่มา : http://www.ecepost.com/viewtopic.php?id=701789010 ,
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ห่ะไรนะ's profile


โพสท์โดย: ห่ะไรนะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: aRnoNAe, ของกล้วยกล้วย, สุมาอี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568Labubu คอลเลคชั่นใหม่ เปิดขายไทย แต่คนจีนเหมาเกลี้ยง!เด็ก12 พ่อแม่พามาจัดงานวันเกิด พร้อมน้อง6 ขวบ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ น้องออกมาโพสว่า ”ไปไม่ลาเลยน่ะพ่อแม่ ไปสบายแล้วน่ะจากไปไม่มีวันกลับมาฉายาดารา 2567 จากสมาคมนักข่าวบันเทิง 🧑‍🎤👩‍🎤 ชาวเน็ตแห่แซววอดนอน 15 วัน! เล่าเรื่องหลอนเกิดอะไรขึ้นจากการทดลองสุดสยอง?มนต์เสน่ห์แห่งเกาะบอร์ดอร์ย: ความงดงามแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมในหมู่เกาะแฟโรเบนซ์วัย 16 นามสกุลดัง พุ่งชนไซต์งาน แต่โชคดีไร้เจ็บโศกนาฏกรรมบนถนน! รถบัสชนรถบรรทุก ระเบิดไฟไหม้ คร่าชีวิต 38 คนเภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.13" งวดวันที่ 2 มกราคม 2568ภูทับเบิก ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮิตของไทยช่างสักลาย มืออาชีพ แต่ผลงานลายเส้นเหมือนเด็กอนุบาลไม่ตรงปก ขู่ทำร้ายร่างกาย ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ฝีมือ กาก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักไรเดอร์เจอหลวงพี่วัดดังจ.อยุธยา สั่งถุงยๅงกับเจล ฝากมาถามทุกคนว่าคิดว่าหลวงพี่เอาไปทำอะไร คิดไม่ออกจริงๆช่วยทีToxic Relationshipเพื่อนเจ้าสาวจูบเจ้าบ่าวกลางเวที..งานนี้ช็อกกันทั้งงานอดนอน 15 วัน! เล่าเรื่องหลอนเกิดอะไรขึ้นจากการทดลองสุดสยอง?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ซานตาคลอสตำนานสุดลึกลับ เป็นคนหรือผี? มาค้นหาความจริงกัน!ชงเอง ถามเอง ตอบเอง! ชา VS กาแฟ อะไรดีต่อใจและไม่ทำร้ายร่างกาย? (ฉบับคนติดเครื่องดื่ม)ผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักเหล็กในของแตนกระดาษ: อาวุธอันทรงพลังในการป้องกันตัว
ตั้งกระทู้ใหม่