10 เหตุผลของการเลือกให้อภัย
เมื่อหลายปีก่อนสามีได้ทิ้งฉันไป ไม่สินะเรียกว่าหายตัวไปน่าจะเป็นคำที่ดีกว่า อนาคตที่เคยวางแผนไว้ก็หายไปหมดสิ้น ฉันจึงเขียนคำอธิษฐานนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด
“ฉันอธิษฐานทุกวันว่าจะค้นพบการให้อภัย ฉันจะไม่ใช้ความเกลียดชัง ฉันจะก้าวไปข้างหน้าด้วยใจที่เปิดกว้างและเปี่ยมไปด้วยความรัก ฉันขออธิษฐานให้เขาได้รับความช่วยเหลืออย่างที่เขาต้องการ”
ฉันอธิษฐานประโยคเหล่านั้นซ้ำๆทุกวันจนผ่านไปเกือบ 4 ปีและฉันก็สามารถให้อภัยเขาหรือตัวเองได้อย่างแท้จริง การให้อภัยเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตใหม่และจะดีขึ้นหลังการสูญเสียเหล่านั้น และนี่คือความจริงเกี่ยวกับการให้อภัย 10 ข้อซึ่งหวังว่าจะช่วยคุณให้สามารถเดินทางต่อไปได้
ไม่มีทางลัดใดที่นำไปสู่การให้อภัยที่แท้จริงและฉันมองว่าการให้อภัยเร็วเกินไปนั้นดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่
2. การให้อภัยไม่ได้หมายความว่าคุณยอมรับในการกระทำดังกล่าว
การให้อภัยคือการปลดปล่อยความโกรธและความแค้นใจที่มีต่อคนที่ทำร้ายคุณ คุณยกโทษให้กับผู้กระทำผิดแต่ไม่ใช่กับการกระทำผิด
3. การให้อภัยทำให้คุณสวยงาม
ต้องการเคล็ดลับความงามที่ทรงอานุภาพมากกว่ายาอายุวัฒนะใดๆในโลกไหม? ปลดปล่อยความแค้นใจไปสิ
4. เราควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมตามสนอง
การทำดีหมายถึงคุณสร้างสวรรค์อยู่ในอก แต่หากทำชั่วนั่นหมายถึงคุณกำลังสร้างนรกอยู่ในใจเช่นกัน คุณไม่จำเป็นต้องสอนบทเรียนให้แก่ผู้กระทำผิด ดังนั้นจงปล่อยวางความโกรธแค้นและอาฆาตลง นอกจากนี้ไม่ควรมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นหรือดีใจในความเจ็บปวดของผู้อื่น เนื่องจากเป็นการส่งเสริมพลังงานเชิงลบ สุดท้ายแล้วการแก้แค้นที่ดีที่สุดคือการใช้ชีวิตให้มีความสุขและประสบความสำเร็จ
5. เชื่อว่าจักรวาลส่งมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับคุณ
คิดเสียว่าอดีตสามีไม่ใช่คู่แท้สำหรับคุณ หรือคู่แท้อาจกำลังรอคอยคุณอยู่ในอนาคตก็ได้ ไม่ว่าจะอ้างว้างเพียงใดคุณควรหาโอกาสพัฒนาตัวเองให้มีศักยภาพสูงสุด
6. การให้อภัยหว่านเมล็ดสำหรับการเห็นใจ
การเห็นใจผู้ที่ทำร้ายเราเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและฝึกความท้าทาย การนึกถึงประสบการณ์ของคนอื่นเพื่อที่จะเข้าใจความทุกข์ของพวกเขาอย่างเต็มที่มีส่วนผลักดันให้ฉันยอมยกโทษให้กับอดีตสามี ในช่วงแรกฉันลังเลที่จะแผ่เมตตาให้เขาเพราะฉันเป็นผู้ถูกกระทำ! ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจนั่งสมาธิวันละ 2 นาทีซึ่งแต่ละครั้งก็ต้องอาศัยความอดทนอย่างสูง เมื่อฉันเข้าใจเจตนาของเขา ความโกรธก็ค่อยๆลดลงและให้อภัยในที่สุด
7. การให้อภัยเปรียบเสมือนทางสองแพร่ง
หลายคนยังรู้สึกเจ็บปวดและต้องต่อสู้กับการที่จะให้อภัยตัวเองในเรื่องการตัดสินใจที่ผิดพลาด เราควรยกโทษให้ตัวเองและสำรวจทุกแง่ทุกมุมของเหตุแห่งความโศกเศร้านี้ หลังจากนั้นก็หาทางเยียวยารักษามัน
8. การให้อภัยคือความอิสระ
4 ปีหลังการหายตัวไปของอดีตสามี ฉันเขียนถึงเขาว่า “เกือบปีมาแล้วที่คุณยื่นข้อเสนอแต่ฉันไม่พร้อมที่จะฟังและยังอยากแก้ไขอดีตที่ผ่านมา ฉันได้แต่ภาวนาว่าเราจะสามารถลืมและยกโทษให้กันได้แม้ว่ามันอาจจะยากก็ตาม” หลังจากที่เขียนจดหมายฉบับนี้ฉันก็รู้สึกราวกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอกไปแล้ว และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันรู้สึกเป็นอิสระจากอดีตและพร้อมที่จะก้าวต่อไปในอนาคต
9. การให้อภัยเป็นโรคติดต่อ
การให้อภัยจะลุกลามไปอย่างรวดเร็วดุจดังไฟไหม้ป่า ครอบครัวและบรรดาเพื่อนๆของฉันต่างรู้สึกโกรธแค้นอดีตสามีของฉัน ความเกลียดชังไม่ต่างจากเนื้อร้ายซึ่งฉันกลัวว่ามันจะบั่นทอนความสุขและสุขภาพของพวกเขาไป ถ้าฉันไม่มีความทุกข์ร้อนและเริ่มเห็นอกเห็นใจอดีตสามีของตัวเองแล้ว พวกเขายังจะรู้สึกโกรธแค้นต่อไปไหม? ฉันโน้มน้าวให้พวกเขาปลดปล่อยความโกรธออกไปและมองไปข้างหน้าด้วยความหวังและมีความคิดในแง่บวกแทน
10. การให้อภัยคือหนทางไปสู่ความรักอย่างแท้จริง
ประมาณ 1 เดือนหลังจากที่ฉันให้อภัยอดีตสามีกับตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้ว ฉันก็ได้พบกับผู้ชายที่เชื่อว่าเป็นคู่แท้และในที่สุดฉันก็พร้อมที่จะสานความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอีกครั้ง หากคุณไม่สามารถปลดปล่อยความโกรธแค้นก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินหน้าต่อไป ความสัมพันธ์ที่ดีจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีสุขภาพจิตดี ฉันจึงมักแนะนำให้หลายๆคนตัดขาดความสัมพันธ์ในด้านลบซึ่งจะทำให้คุณเอาแต่จมปลักอยู่กับอดีต
Blogger : Monica Parikh
Source : mindbodygreen.com