คนไหน คือ พระแท้ คนไหน คือ พระเทียม ช่วย ตอบกันหน่อยครับ
"พระแท้มีแต่ให้ สติ ไม่เอาสตางค์. พระเทียมจ้องเอา สตางค์ และ ทำให้ขาด สติ อยู่เสมอๆ"
จะขายของยังต้องศึกษา ว่า อันไหนแท้อันไหนเทียม จะซื้อของ ยังต้องแยกเป็นว่าของเลียนแบบหรือของจริง.เดินวนหลายรอบหลายร้านสอบถามราคากว่าจะจ่ายเงินซื้อของ แล้วเวลาจะนับถือฟังคำใคร ทำไมไม่ลองศึกษาเปรียบเทียบ ว่าคนไหน ดีคนไหนไม่ดี
เค้าพูดเค้าทำเพื่อหลอกเอาเงินเราหรือเพื่อประโยชน์ของเราจริงๆ อย่าสนับสนุนมิจฉาชีพที่เอา ศพหรือเอาชื่อเสียงของภิกษุบางรูป และ ของพระพุทธเจ้ามา สร้าง รูปหล่อ สร้างพุทธรูปเพื่อหาเงิน เค้า หลอกลวงเราเพราะเค้าจะเอาเงินของเราไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม แล้วมันก็จะวนมาลงที่ครอบครัวของเราลูกหลานของเรามาถึงตัวเรา. ในที่สุด.
ก่อนจะจ่ายเงินทำบุญไม่ว่า กี่บาท ต้องคิดก่อน อย่ามักง่าย เดี๋ยวจะกลายเป็นเปรต เพราะไปร่วมทำบาปกับเปรต ปลอดภัยที่สุดคือ ทำบุญกับตัวเอง มีสติกับลมหายใจเข้าออกอยู่เสมอ เหมือนที่ พระพุทธเจ้า สอนไว้พยามยามพาตัวเองนิพพานหรือขึ้นสวรรค์ ทำบุญกับคนในบ้าน คนรอบข้าง ให้ทุนการศึกษา เด็กๆ ให้โอกาสเด็กกำพร้า ผู้พิการ คนป่วย ผู้ยากไร้ มูลนิธิโรงพยาบาลใกล้บ้าน มูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์ สัตว์ที่ลำบาก ปลูกต้นไม้ ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต รู้คุณค่าของสิ่งของ
จะเห็นได้ว่า ทำบุญทำได้หลายวิธีมากมาย "ถ้าทำบุญเอาหน้า หวังเอาบุญ ยิ่งทำบุญกับพวกใจเป็นเปรตแต่งกายเป็นภิกษุ อย่าไปทำ เด็ดขาด เปรตยังเอาตัวไม่รอด จะหวังพาให้ขึ้นสวรรค์เป็น นางฟ้า เทพบุตร มันเป็นไปไม่ได้ เปรตมีแต่อยากให้เราเป็นแค่สาวกของมัน เอาเปรียบ หลอกลวงเราอย่างสม่ำเสมอ
คอยพร่ำบอกสาวก ว่าอย่าไปเชื่อ พระแท้ ให้เชื่อ เปรต" ดังนั้น ต้องใช้สติ ฟังมากเรียนรู้มากใช้สติให้มากๆ จำไว้ว่า พระดีพระแท้ไม่ต้องการเงินทองของมีค่า ถ้าญาติโยมยัดเยียดให้พระมีกิเลส ต้องการใช้สิ่งของ มีทรัพย์เหมือนตัวของญาติโยม อันนี้ บาป มหันต์ เมื่อตายไป อย่าหวังขึ้นสวรรค์ เอาให้รอดจากขุมนรกที่18 ยังยากเลย "อย่าโง่ ชักชวน คนอื่น หรือ ซื้อ ความเป็นเปรต ให้ตัวเองหรือคนใกล้ชิด"