ความถูกต้องเป็นสิ่งที่หลอกให้คนดีเป็นทุกข์ หลอกให้คนดีสร้างกรรม
"ความถูกต้อง"
วันหนึ่งมีโยมมาเล่าให้ท่านว่ายทวนน้ำฟังว่า
โยม : ผมชอบกินบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงอยู่ร้านนึงครับ กินร้านนี้มานานมากแล้วร่วม 10 ปี ผมจะสั่งบะหมี่ 2 ก้อน เกี๊ยว 10 บาท ตลอด ทุกครั้งจะได้เกี๊ยวมา 10 ตัว
ว่ายทวนน้ำ : อื้ม
โยม : แต่พอมาช่วงหลัง ๆ เกี๊ยวบางทีได้แค่ 6 ตัว บางที 7 ตัว บางที 8 ตัว ผมเลยงงว่าตกลงพี่ขายยังไงกันแน่ ทำไมปริมาณเกี๊ยวมันลดลง ปกติ 10 บาท ได้ 10 ตัวนี่
ว่ายทวนน้ำ : แล้วไงต่อ
โยม : ก็เลยมีวันนึงเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนสั่งผมถามคนขายว่า "พี่บะหมี่ 2 ก้อน เกี๊ยว 10 บาท ได้เกี๊ยวกี่ตัวครับ?" พี่เขาตอบว่า "ได้ 10 ตัวครับ" ผมก็โอเคเดี๋ยวจะคอยดู ปรากฏว่ามื้อนั้นเขาให้มา 10 ตัวครบ ผมก็ เอ้อ ให้มันได้งี้สิ
ว่ายทวนน้ำ : อื้ม
โยม : ยังไม่จบแค่นั้นครับ อาทิตย์ถัดมาผมอยากทดสอบความซื่อสัตย์ของเขา ผมสั่งเหมือนเดิมปรากฏว่าได้เกี๊ยวมาแค่ 8 ตัว ตอนจ่ายเงินผมก็เลยไปท้วงว่า "พี่ผมได้เกี๊ยว 8 ตัวเองนะวันนี้" แล้วพี่เขาก็โวยบอกว่า "เนี่ยจริง ๆ 10 บาท ได้ 6 ตัวนะ แต่นี่เห็นน้องเดินมาไกลพี่เลยแถมให้เป็น 8 ตัว" ผมก็งง อะไรวะ อาทิตย์ที่แล้วยังบอกว่า 10 บาท ได้ 10 ตัว จำคำพูดตัวเองไม่ได้รึไง หลังจากนั้นผมก็ไม่เข้าร้านเขาอีกเลยครับ ที่ผมท้วงเขาก็เพื่อรักษาความถูกต้อง หวังเห็นความซื่อสัตย์ในการทำงานของเขา พระอาจารย์เห็นว่ายังไงครับ?
ว่ายทวนน้ำ : ความถูกต้องอยู่ตรงไหน? ช่วยเอาออกมาให้ดูหน่อย
โยม : ความถูกต้องก็มาจากคำพูดของเขาเมื่อคราวก่อนไงครับว่าเกี๊ยว 10 บาท ได้ 10 ตัว
ว่ายทวนน้ำ : เมื่อเขาพูดแล้วมันก็จบไปแล้ว คำพูดคำนั้นเป็นอดีตไปแล้ว แต่โยมไปยึดมั่นในคำพูดของเขา ไปยึดอดีตที่ผ่านไปแล้วมาเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน จึงทำให้โยมจิตไหว ไหวติงไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุที่โยมเฉยไม่ได้ ต้องท้วงติงเขาเพราะโยมยึดมั่นอยู่กับอดีตและสร้างความถูกต้องขึ้นมาในความคิด
โยม : งั้นจริง ๆ แล้วผมควรทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ครับ?
ว่ายทวนน้ำ : ต่อให้โยมจะได้เกี๊ยวแค่ 1 ตัว ถ้าโยม "ไม่คิดอะไร" มันก็จบ แต่นี่โยมคิดมันเลยไม่จบ โยมไปยึดมั่นคำพูดในอดีตของเขาจึงทำให้โยมเกิดความคิดขึ้นมา ความถูกต้องน่ะมันไม่มีหรอก มันมีอยู่ในความคิดของโยมเท่านั้นแหละ ความคิดของโยมสร้างความถูกต้องขึ้นมา พอสร้างแล้วโยมไปยึดในสิ่งที่สร้าง เมื่อมันไม่เป็นไปตามความคิดของโยม จึงทำให้โยมบ้ากับมัน จิตไหวไปกับมัน ถ้าโยมไม่คิด ความถูกต้องก็ไม่มี ก็ไม่ต้องบ้ากับความถูกต้อง ไม่ต้องทุกข์กับความถูกต้อง ไม่ต้องคอยรักษาความถูกต้อง ไม่ต้องสร้างกรรมเพราะความถูกต้อง
สำหรับนักภาวนาผู้หาทางพ้นทุกข์ถ้าเหตุการณ์แค่นี้ยังเฉยไม่ได้ เรื่องใหญ่กว่านี้อย่าหวังว่าจะเฉยได้ นักภาวนามีหน้าที่อย่างเดียวคือรักษาความปกติของจิต ทิ้งเหตุที่ทำให้จิตเสียความปกติออก เหตุแห่งทุกข์ (ความวุ่นวายของจิต) ของโยมในครั้งนี้ เพราะโยมไปยึดมั่นคำพูดในอดีตของเขา ไม่ปล่อยให้อดีตเป็นเรื่องของอดีต แล้วโยมก็สร้างมาตรฐานความถูกต้องในปัจจุบันขึ้นมาจากคำพูดในอดีต
โยมอย่าเอาความคิดแบบโลก ๆ มาใช้กับทางธรรม "ทางโลกต้องรักษาความถูกต้อง แต่ทางธรรมต้องรักษาจิตที่ปกติ" ความถูกต้องทำให้จิตเสียความปกติ จงใช้ทุกเหตุการณ์ในชีวิตที่เกิดขึ้นเป็นการฝึกยกระดับจิต ถ้าเป็นคนแบบโลก ๆ ก็จะทำแบบโยมคือรักษาความถูกต้อง รักษาความยุติธรรม แต่สำหรับนักภาวนาคือไม่คิดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รักษาความปกติของจิตอยู่ตลอดเวลา
ส่วนในเรื่องของกรรมขอให้โยมเข้าใจว่า "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" ที่โยมถูกโกงเกี๊ยวเพราะในอดีตโยมเคยทำคนอื่นแบบนี้ไว้ ดีแล้วได้ใช้วิบากตัวนี้เสีย การปล่อยชีวิตไปตามลิขิตกรรมจะช่วยยกระดับจิตได้เร็วมาก มีกรรมเจ็บตัวต้องเจ็บ มีกรรมโดนโกงต้องโดน ดีแล้วใช้ซะดีกว่าไปเกิดเป็นทาสเขา เป็นวัวควายให้เขาใช้ ส่วนคนขายที่โกงเกี๊ยวโยมเขาได้สร้างกรรมที่เขาจะต้องได้รับคืนในอนาคตแล้ว สิ่งที่โยมเคยทำมาจากอดีตไม่มีฟรี การกระทำของคนขายในครั้งนี้ก็ไม่มีฟรี มันมีผลลัพธ์ตามมาหมด จงปล่อยให้วิบากเป็นตัวจัดการ ส่วนโยมรักษาความเป็นปกติของจิตไว้
"ความถูกต้องเป็นสิ่งที่หลอกให้คนดีเป็นทุกข์ หลอกให้คนดีสร้างกรรม" จำเอาไว้