หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องลับของ "ของลับสตรี "จากตำราโบราณของไทย

เนื้อหาโดย ลูกสาวอบต

อ่านจากชื่อบทความแล้วเหมือนลามกแต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่เลยครับเป็นตำราโบราณที่คำนวณแบบโหราศาตร์ของไทยที่ตกทอดกันมาน่ะครับ เจ้าตำรานี้มีชื่อว่า "เศษนารี" เป็นตำราว่าด้วยเรื่อง "ขนาดของจิ๋ม"ของหญิงสาวโดยคำนวณจาก วัน เดือน ปีเกิด แล้วทำนายทายทักว่าเหลือเศษเท่าไหร่ จิ๋มมีขนาดแค่ไหนลักษณะใด พร้อมทั้งทำนายทายวาสนาของหญิงเจ้าของจิ๋มไว้ด้วย

    ตำรานี้ลอกมาจากหนังสือเรื่อง "ชีวประวัติ พระสุนทรโวหาร(ภู่ ภู่เรือหงส์)หรือท่านสุนทรภู่ที กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ของเรานี่แหล่ะ 

    หนังสือเล่มนี้เขียนโดย"อาจารย์เทพ สุนทรศารทูล"อาจารย์ท่านนี้ท่านศึกษาค้นคว้าและวิจัยผลงานของท่านสุนทรภู่มามากกว่า ๓๐ปีและตำราเศษนารีที่ค้นพบทำให้อาจารย์เทพวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นผลงานของท่านสุนทรภู่เพราะสำนวนกลอนแปดที่ใช้แปดคำและมีสัมผัสแพราวพราวคล้ายลักษณะผลงานของท่านกวีเอกท่านนี้เพียงแต่ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าใช่หรือไม่

    เพราะเขาว่าเดิมตำรานี้เขียนเป็นร้อยแก้วธรรมดา แต่เอามาแต่งเป็นบทกลอนขึ้นใหม่แล้วแพร่หลายอยู่ในหมู่พวกผู้ชายสมัยก่อน โดยมักแอบคัดลอกกันมาอย่างปกปิดไม่เปิดเผยเหมือนตำราอื่นๆ จึงมีสำนวนแตกต่างกันไปแต่สำนวนที่อาจารย์นำมาเสนอนี้เป็นสำนวนที่ชำระแล้วคิดว่าน่าจะถูกต้องที่สุด

     ท่านใดอ่านแล้วคิดว่าหยาบก็ต้องขออภัย แต่ตามตำรานั้นเขามุ่งเขียนเพื่อบ่งบอกถึงคุณภาพและอุปนิสัย ตลอดจนวาสนาของนารี มากกว่าจะเน้นเรื่องของรูปลักษณะภายนอกอย่างจริงจัง ส่วนจะจริงหรือไ่ม่ก็สุดแต่จะพิจารณากันเองนะครับ

      มาดูกันเลยดีกว่าครับว่าวิชาหาเศษของตำราเศษนารีเพื่อนั้นเขาทำกันอย่างไร เขาให้คำนวณโดยการเอา วัน เดือน ปี เกิดมาบวกกัน แล้วเอาเจ็ดลบ ได้ผลลัพธ์เท่าใด เอาสามคูณ แล้วก็เอาแปดหารอีกครั้ง ได้เศษเท่าใด ก็เท่านั้นแหล่ะครับ "ไซด์ของน้องหนู" ของสตรีทั้งหลาย (อันนี้ตามตำรานะครับ อิอิ)

      การนับวันเกิด ให้นับวันอาทิตย์เป็น ๑, จันทร์ ๒ ,อังคาร ๓, พุธ ๔,พฤหัส ๕,ศุกร์ ๖,เสาร์ ๗

      ส่วนเืดือน ให้นับแบบไทยๆ คือเดือนธันวาคมเป็นเดือน๑ , มกราคมเป็น ๒ , กุมภาพันธุ์ ๓ , มีนาคม ๔ , เมษายน ๕ นับเรื่อยไปจนถึงเดือน พฤศจิกายน เป็นเดือน ๑๒

      ส่วนปีเกิด ให้นับปีชวดเป็น ๑ , ฉลู ๒ ขาล ๓ , เถาะ ๔ , มะโรง ๕ , มะเส็ง ๖  , มะเมีย ๗ , มะแม ๘ , วอก ๙ , ระกา ๑๐ , จอ ๑๑ และกุน ๑๒

ยกตัวอย่างเช่น

      ถ้าเกิดวันจันทร์ เดือนมกราคม ปีจอ ก็เท่ากับ (จันทร์) ๒+(มกราคม) ๑+(จอ)๑๑ เท่ากับ ๑๔ ลบด้วย ๗ แล้ว คูณด้วย ๓ แล้วสุดท้ายหารด้วย ๘ อีกที จะเหลือเศษเท่ากับ ๐ หรือในตำราเรียกว่า เศษสูญ ครับ จากนั้นเราจึงไปดูตำราตรง "เศษสูญ" 

 

                                                       

                                                                           แถลงลักษณ์นารีคัมภีร์โหร

เป็นตำรับลับลี้เป็นที่โลน                                       ทายแล้วโดนเหมือนว่าตำราครู

ในลักษณะที่จะทรงกำหนด                                   ทายถูกหมดไม่พ้นทุกคนผู้

จะโึึคกขาวยาวใหญ่เท่าใดดู                                  ก็คงรู้เที่ยงแท้แน่แก่ใจฯ

หนทางเข้านั้นขยับจะคับไป                                  ขนก็ไม่มีรกปกแคมรู

ทำนายว่าอาภัพอัปภาคย์                                     แต่ขันหมากไม่จนคนไม่สู้

ราคะแรงนักหนาตำราครู                                     มักหาคู่เอาเองไม่เกรงใครฯ

ทั้งโลมาก็ดกรกกระไร                                        เนื่องขึ้นไปจนบนหนอกดูออกดำ

ทำนายว่าอาภัพอัปลักษณ์                                   ทั้งยศศักดิ์เสื่อมทรามแม่งามขำ

ทรัพย์สมบัติต้องหาอุตส่าห์ทำ                              เงินทองทำกว่าจะได้เหงื่อไหลเซาะฯ

ที่ร่องทางจะทำก็จำเพาะ                                     พอเหมาะเจาะไม่สู้กว้างเป็นอย่างดี

อันโลมามีอยู่ไม่สู้มาก                                        เว้นแต่หากดำสนิทดูมิดหมี

แม้นชายใดได้ร่วมรักภัคคินี                                 ต้องคลุกคลีเคล้าเคล้นแล่นร่ำไปฯ

ประการหนึ่งถ้าจะอุปไมย                                     พิเคราะห์ไปแล้วก็ลีบเหมือนกีบกวาง

ทั้งโลมาดำดกดูรกเรี้ยว                                       หนทางเที่ยวทำเลลึกดูกว้างขวาง

ถึงมีคู่คู่คิดนอกจิตนาง                                         มักจะร้างแรมสนุกไปทุกคราวฯ

พอสมกายสมกันไม่สั้นยาว                                 ไม่ห่างหาวเห็นสนิทมิดชิดดี

โลมามีรำไรไม่สู้ดก                                           ด้วยเศษตกเบญจเศษประเสริฐศรี

เป็นมหาสิทธิโชคโฉลกดี                                    ทรัพย์สินมีมากครันด้วยปัญญาฯ

ทั้งโดยยาวขาวล้วนยวนวิญญาณ์                         เส้นโลมาละเอียดคลอดูพอควร

เมื่อรุ่นสาวมีทุกข์ไม่สุขแท้                                 ต่อเมื่อแก่จึงจักวายหายกำสรวญ

สุขสมบัติบริบูรณ์ประมูลมวล                              ประเสริฐส่วนเศษโชคโฉลกงามฯ 

ตัณหามากราคะจัดกำดัดกาม                              มักทำตามใจตัวไม่กลัวใคร

ทั้งก้าวร้าวห้าวหาญในการโลกย์                          สาระโกกเกเรเถลไถล

น้ำจิตรักนักเลงโทงเทงไป                                  มีผัวได้พึ่งพาแต่สามี

ลำพังตัวแล้วต้องเที่ยวซ่องแซ่ง                          ไม่เป็นแหล่งเป็นหลักสิ้นศักดิ์ศรี

แม้นชายใดได้ร่วมประเวณี                                 ก็เป็นที่มัวหมองเหมือนต้องไฟฯ

 โลมารายริมรอบตามขอบไป                             ที่ลานใหญ่มีบ้างแต่บางเบา

น่าสงวนควรสนองประคองคู่                               เป็นคนรู้จักเจียมเสงี่ยมเหงา

มักชิงชังสิ่งชั่วไม่มัวเมา                                     กอปรด้วยเชาวน์ปรีชาปัญญายง

    ใจไม่พาลแต่อาการเมื่อเพ่งพิศ                       เจือนักเลงอยู่สักนิดน่าพิศวง

ตำรับท้าตำราทายที่หมายตรง                            ใช่จะลงเลขผิดประดิษฐ์เดา

ผู้จะเรียนเที่ยงทำจำสังเกต                                ประกอบเศษนารีดังนี้เข้า

เอาวันเดือนปีเกิดกำเนิดเนา                           บวกกันเอาเจ็ดลบหักกลบกัน

เอาสามคูณแปดหารการสำเร็จ                       ย่อมเผด็จรู้จบภพสวรรค์

ทำนายตามเศษเห็นเป็นสำคัญ                           ตำรับอันลับมิดปกปิดเอยฯ

 

    "ตำราดูเศษนารี" นี้นับได้ว่าเป็นตำราเก่าแก่โบราณครับ อย่างน้อยตำรานี้ก็ต้องมีอายุมากกว่า ๒๐๐ปีมาแล้ว เพราะหากท่านสุนทรภู่นำตำราเดิมที่เคยมีแต่งไว้เป็นร้อยแก้วธรรมดาๆ มาแต่งเป็นกลอนในข้างต้น ตำราที่ว่านี้ก็ต้องมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว ท่านสุนทรภู่ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๙ นับถึงมีปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๒ ก็เป็นเวลา ๒๒๓ ปีล่วงมาแล้ว

      ลักษณะ "ตำราดูเศษนารี" นี้จะว่าไปแล้วก็เป็นตำราโหราศาสตร์อีกแขนงหนึ่งส่วนทำนายแล้วจะตรงหรือไม่ตรง ก็คงต้องไปสำรวจตรวจตรากันเอาเอง หรือจะวานคนใกล้ตัวช่วยดูให้ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด อิอิ  แต่ถ้าบวกลบคูณหารแล้วเศษตรงกับอันที่วาสนาดีก็คงยิ้มกันไป แต่้ถ้าหากไปตกกับไอ้ที่เศษไม่ประเสริฐศรีอย่างที่ตำราทาย ก็หวังว่าคงไม่ถึงกับต้องไปตกแต่งให้สวยด้วยแพทย์เสริมโหงวเฮ้งให้"น้องจิ๋ม" กันหรอกนะครับ

     แต่ที่แน่ๆ ที่มีและที่เคยเห็นแล้วก็น่าจะเป็นแฟชั่น "แต่งโลมา" หรือ "แต่งขน" ให้"้น้องจิ๋ม"โดยเฉพาะในหนัง AV นี่หุหุสารพัดทรงชนิดที่ว่าหากมีการนำตำราเศษนารีมาพลิกฟื้นแต่งขึ้นใหม่ให้ทันสมัย อาจจะต้องแต่งเป็นตำราว่าด้วย "ขน" หรือ "โลมา" โดยเฉพาะก็ได้ สมมตินะครับเช่น

ด้วยว่านุ่งกางเกงทีไรเปียมันยับ                          ชอบงอหักติดซิปรูดให้ไม่ถนัด

คลายเปียได้เมื่อใด                                           จะสบายใจเป็นยิ่งนัก

จะนุ่งห่มสิ่งไรไม่ติดขัด                                      ด้วยรูปลักษณ์ธรรมชาติตามเกิดเอยฯ

                                               ....หรือ....

ถือเป็นเสนียดจัญไรให้อัปปรีย์                             เพราะเปิดโยนีเผย...ให้คนชม

เป็นนารีหน้าไม่อายชายดูถูก                               ถ้าเป็นลูกควรตีให้สาสม

อย่าคิดว่าโลกเขาจะชื่นชม                                 คนโง่งมเสียของดีดูฟรีเอยฯ

เนื้อหาโดย: ของกล้วยกล้วย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: namenum, Chawap, ฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อุทยานพระพิฆเนศร้าง จ.ชลบุรี : ความศรัทธาท่ามกลางซากปรักหักพัง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
คันฝ่ามือบอกอะไร? มีโชคลาภจริงหรือคนมีผมขาวหรือผมหงอกได้เฮ เพราะผลการวิจัยล่าสุด มีความหวังให้ผมกลับมามีสีปกติเหมือนก่อนหน้านั้น ได้อีกครั้งเบาหวานอย่าเบาใจ เสี่ยงหัวใจวาย! อันตรายถึงชีวิตมากกว่าคนทั่วไป 3 เท่าCanva อัปเดต 4 feature ใหม่!
ตั้งกระทู้ใหม่