ความผูกพันธ์
เรื่องราวของผมกับเขา มันเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ หรือความตั้งใจของพรหมลิขิตกันนะ
ผมจำได้ วันแรกที่เราได้พบกัน เป็นวันหนึ่งของฤดูหนาวเมื่อ 7 ปีก่อน ผมกับเขานัดเจอกันที่ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ผมไปถึงก่อนเขาสักพักได้
ก่อนเขาจะโทรมาบอกว่า ตอนนี้เขามาถึงแล้วเหมือนกันกำลังลงบันไดเลื่อนมาหาผมที่ชั้น G วินาทีแรกที่ผมได้เห็นเขา มันเหมือนมีแค่ผมกับเขาสองคนอยู่ตรงนั้น ภาพที่เขาค่อย ๆ ลงบันไดเลื่อนมาช้า ๆ สะกดผมให้นิ่งมองไปที่ใบหน้าได้รูปของเขา นัยน์ตาหวานฉ่ำพร้อมกับรอยยิ้มพรายที่ส่่งให้ผม ราวกับมีเวทมนต์สะกดผมให้มองเขาอยู่อย่างนั้น จนเขาเดินมาถึงตัวผม พร้อมกับสะกิดที่แขนผม ด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย พร้อมกับถามว่า
" เป็นอะไรหรือครับ ยืนยิ้มอยู่คนเดียว ไม่เคยเห็นคนน่ารักหรือ "
ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ เพราะทำตัวไม่ถูก ทันใดนั้นเขาก็คว้าที่ข้อมือผม พร้อมเอ่ยชวนไปทำธุระของเขาด้วยกัน ทันทีที่มือเขาสัมผัสผม หัวใจผมเต้นแรงมาก ไม่รู้เพราะความน่ารักของเขา หรือเพราะรอยยิ้มละมุนนั้น บวกกับความสดใสเป็นกันเอง หรือทุกอย่างรวมกันกันแน่.....
หลังจากเสร็จธุระแล้ว เราสองคนก็ข้ามไปเดินดูของในตลาดฝั่งตรงข้าม ไม่ได้จะหยิบจับอะไรจริงจังเพียงแค่อยากใช้เวลาด้วยกันแค่นั้น เดินไปสักพักจนถึงโซนอาหาร พวกเราจึงเลือกหาร้านนั่งเพื่อจะได้คุยกันด้วย การสนทนาเป็นไปอย่างไหลลื่น ตัวจริงของเขาไม่ต่างกับที่คุยกันในโซเชียลเลย ผมรู้สึกผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเอง เขาก็เช่นกัน ผมเห็นความจริงใจส่งผ่านแววตาที่เขามองมาที่ผม....
หลังจากจ่ายค่าอาหารเสร็จ ผมก็พาเขาไปนั่งเล่นที่ป้อมพระสุเมร แถวถนนพระอาทิตย์ซึ่งตอนนั้นเริ่มโพล้เพล้แล้ว. อากาศกำลังดี เราหาที่นั่งแถวริมแม่น้ำ เพื่อมองภาพพระอาทิตย์ตกดิน ที่ฝั่งสะพานพระราม 8 เขาชี้ให้ผมดูอะไรบางอย่างผมหันไปตามปลายนิ้วของเขา แต่ไม่เห็นมีอะไรจึงหันจะถามว่าอะไร ตรงไหน จังหวะที่ผมไม่ทันตั้งตัว เขาก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด ใช่ละครับ เขามาหอมแก้มผม เหมือนฉากในละครยังไงยังงั้น หน้าผมร้อนผ่าว ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าผมเขินแค่ไหน แต่คนที่ทำกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พร้อมกับยักคิ้วให้ผมกับยิ้มกวน ๆ มันทำให้หัวใจผมพองโต อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ได้แต่ยิ้มแล้วหันหน้าหนีแก้เขิน ฮา ๆๆๆๆๆ คิดถึงตอนนั้นแล้วก็ตลกตัวผมเอง หน้าคงเหวอมาก.......