เงินเก็บเป็นแสนภายใน 2 ปีใครก็มีได้!!
การมีเงินแสนใน 2 ปี...หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ
แต่กับหลายๆคนก็เป็นเรื่องที่ยากนักที่จะทำให้ตัวเองมีเงินแสนได้ในระยะเวลาแค่ 2 ปี
โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือน(ชนเดือน) ไหนจะค่าใช้จ่ายสารพัด ต่างๆนานา บางคนตรากตรำทำงานหนักอดหลับอดนอน
แต่ผลที่ได้กลับไม่คุ้มค่า?
แต่!! ถ้ามีทางเลือกที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือมีเงินเก็บ มาลองกัน...
วิธีที่ 1 แยกบัญชีอัตโนมัติ – ออมเป็นระบบ
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำทุกอย่างให้เป็นอัตโนมัติ โดยตั้งระบบตัดบัญชีโอนเงินออกไปไว้ตามบัญชีรายจ่ายต่างๆที่ตั้งระบบไว้ หากจะใช้วิธีนี้ก็จะต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายแต่ละส่วนให้แน่นอนว่าเรามีรายจ่ายอะไรบ้าง เราแบ่งรายจ่ายอย่างง่ายออกเป็น 3 ส่วน ตามนี้เลยจ๊ะ
- เงินออม
- รายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน
- เงินรายได้(เงินเหลือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน)
เมื่อได้รับเงินเดือนแล้วก็จะถูกตัดอัตโนมัติไปใส่ไว้ที่ “บัญชีเงินออมและบัญชีรายจ่าย” ตามสัดส่วนที่เรากำหนดไว้ ควรปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบวิธีการใช้ชีวิตของตนเอง บางคนอาจจะมีรายจ่ายน้อยก็อาจจะออมมากกว่า 30% ก็ได้ ตัวอย่างการแบ่งสัดส่วน
วิธีที่ 2 แบ่งเงินใช้วันละ 200 บาท – เป้าหมายชัดเจน
เมื่อได้รับเงินเดือนะใช้วิธีตัดรายจ่ายทั้งหมดออกไปก่อน เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศํพท์ เหลือเท่าไหร่ก็จะใช้วิธีหารเฉลี่ยต่อวัน โดยตั้งใจไว้ว่าใช้ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน แล้วก็แลกแบงก์ 100 มาเก็บใส่ถุง
หากทำแบบนี้ต่อไปรับรองเงินเก็บเติบโตขึ้นแน่นอน
วิธีที่ 3 การฝากประจำ ที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่าออมทรัยพ์ทั่วไปถึง 5 เท่า!
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่าต้องมีเงินเก็บเหมือนคนอื่นๆ ลองใช้วิธีนี้ดูสิ!
แค่คุณมีวินัยในการฝากเงินเข้าบัญชีเดือนละประมาณ 4,000 ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี คุณก็จะได้เป็นเจ้าของเงินแสนแล้วล่ะ!! และยิ่งหากคุณเลือกออมกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูง แถมยังมีความคล่องตัวในช่วงระหว่างที่คุณออมเงิน คุณก็ยิ่งมีโอกาสได้เงินเพิ่มจากดอกเบี้ยที่คุณได้ออมเงินอีกด้วย
ผลลัพธ์ที่คุณฝากเงินมาตลอด 2 ปี ทำให้คุณมีเงินเก็บซึ่งคุณสามารถนำไปต่อยอดให้งอกเงยผ่านการลงทุน หรือนำไปใช้ทำตามความฝันหรือเป้าหมายที่คุณตั้งเอาไว้ได้อย่างแน่นอน และ ME พร้อมเป็นผู้ช่วยในการออมเงินของคุณด้วยดอกเบี้ยที่มากกว่าออมทรัพย์ทั่วไปถึง 5 เท่า ให้คุณสัมผัสกลิ่นความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
เป็นยังไงบ้างคะ ลองค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดู ยังไงเงินเก็บไม่หนีหายไปไหนแน่นอนค่ะ :)