Lottery Mystery ล็อตเตอรี่อาถรรพ์

ฟราโน  ซีเล็ค  ชาวโครเอเชีย  อดีตครูสอนดนตรีวัย ๘๔ ผู้เป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง  เมื่อค.ศ.๒๐๐๕ 
เขาถูกล็อตเตอรี่มูลค่า ๖๐๐,๐๐๐ ปอนด์ หรือเกือบสามสิบล้านบาท  แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก 
เพราะก่อนหน้าที่จะถูกล็อตเตอรี่ก้อนโตนั้น  เขาเคยรอดตายมาจากอุบัติเหตุหลายครั้งซึ่งดูราวกับเป็นเรื่องแต่ง ครั้งแรกสุด
เกินขึ้นในปี ๑๙๖๒  ขณะที่เขานั่งรถไฟจาก ซราเจโว ไป ดูโบรฟนิค  รถไฟขบวนนั้นเกิดตกรางและพุ่งลงไปในแม่นำที่เย็นยะเยือก 
มีคนจมน้ำตายไป ๑๗ คน  เขาเป็นคนหนึ่งที่รอดมาได้แต่ก็แขนหักและเป็นปอดบวมเกือบตาย   

ปีถัดมาเขาเครื่องบินที่เขานั่งก็ตกอีก เพราะอยู่ๆประตูเกิดหลุดออก  แม้เครื่องจะตกลงไปบนกองฟางกลางทุ่งนา  แต่มีคนตายไป ๑๙ คน
เขารอดตายมาได้เพราะกระเด็นออกจากเครื่อง ปี ๑๙๖๖  รถบัสที่เขานั่งอยู่เกิดลื่นและตกลงไปในแม่น้ำ  ผู้โดยสารจมน้ำตายไป ๔ คน 
แต่เขาก็รอดมาได้  ร่างกายมีเพียงรอยถูกบาดจากของมีคม  และรอยฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น  ปี ๑๙๗๐  รถยนต์ที่เขากำลังขับอยู่บนทางหลวง
เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ  เขาหนีออกมาจากรถได้ทันก่อนที่ถังน้ำมันจะระเบิดหลังจากนั้นไม่กี่วินาที   สามปีต่อมา
ขณะที่กำลังเติมน้ำมันรถที่ปั้มอยู่  หัวจ่ายน้ำมันเกิดสะบัดจนน้ำมันพุ่งใส่เครื่องยนต์ที่รถของเขา  เกิดเปลวไฟพุ่งเขาไปตามท่ออากาศในรถ 
จนทำให้ผมบนหัวไหม้เกือบหมด ค.ศ.๑๙๙๕  เขาถูกรถบัสชนที่เมืองซาเกรป  แต่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 

อีกหนึ่งปีต่อมา  ขณะที่กำลังขับรถอยู่บนภูเขา  เมื่อเขาเลี้ยวที่โค้งหักศอกโค้งหนึ่ง  ก็มีรถบรรทุกของ UN คนหนึ่งพุ่งเข้ามา 
เขาหักหลบจนรถพุ่งชนแผงกั้นทางซึ่งข้างล่างเป็นเหวลึกราวหนึ่งร้อยเมตร  เขากระโดดออกทันและติดอยู่บนต้นไม้ใกล้แผงกั้นที่ถูกรถชนนั้น 
แม้เขาจะรอดตายอย่างหวุดหวิด  แต่รถของเขาก็ร่วงลงไประเบิดที่ข้างล่าง

แล้วในที่สุดเขาก็ถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่  ทั้งที่เป็นการซื้อล็อตเตอรี่ครั้งแรกในชีวิต

ฟราโน  ซีเล็ค  แม้จะรอดตายมาได้หลายครั้งและถูกล็อตเตอรี่ก้อนโต  แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกแย่คือเรื่องชีวิตคู่  เพราะเขาผ่านการแต่งงาน
มาแล้วถึง ๔ ครั้ง  และหลังจากถูกรางวัลก็แต่งงานอีกเป็นครั้งที่ ๕  ซึ่งเขาก็หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย  ชายวัยแปดสิบกว่าปีผู้ผ่านชีวิต
มาได้อย่างน่าอัศจรรย์บอกว่า  ชีวิตคนเราจะมีความสุขได้ไม่ใช่เพราะมีเงินมากหรอก   แต่การได้อยู่กับคนที่เรารักต่างหากคือความสุข 
คุณปู่จึงขายบ้านหรูบนเกาะส่วนตัวทิ้งไปแล้วไปใช่ชีวิตคู่ที่เรียบง่ายกับภรรยาคนใหม่ในบ้านหลังเล็กๆที่ธรรมดา

ที่เขียนมานั้นคือเรื่องจริงของคนที่เจอกับเรื่องร้ายมามากครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ  แต่ก็โชคดีอย่างไม่คาดฝันในที่สุด 
บนโลกเราคนแบบนี้อาจมีแค่หนึ่งในพันล้านคนก็ได้   ต่อไปนี้เป็นเรื่องของคนโชคดีอีกหลายๆคน  แต่ในที่สุดกลับไม่ได้ใช้เงินนั้น 
จะว่าเป็นความโชคร้ายของคนโชคดี หรือเป็นอาถรรพ์ของรางวัลที่ไม่คู่ควรกับคนบางคนกันแน่???

 

อูรูจ  ข่าน / ๑ ล้านดอลล่าห์



รายแรกนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปี ๒๐๑๒ นี่เอง  เมื่อ อูรูจ ข่าน ชาวเมืองชิคาโกเชื้อสายอินเดีย วัย ๔๖ ปี
เขาหมดเงินไปกับการซื้อล็อตเตอรี่มานานหลายปี  สาบานว่าจะเลิกซื้อมาแล้วก็หลายครั้ง  จนครั้งสุดท้ายที่ร้านเซเว่นฯแห่งหนึ่ง  ข่านก็อดไม่ได้
ยอมเสียคำสาบาน เขาควักเงินในกระเป๋าซื้อล็อตเตอรี่แบบขูดดูเลขรู้ผลได้ทันทีหนึ่งใบ  ครั้งนี้โชคเป็นของเขา  เพราะล็อตเตอรี่ใบที่เขาซื้อนั้น
ถูกรางวัลแจ็คพอตได้เงิน ๑ ล้านดอลล่าห์ (แต่หลังจากหักภาษีแล้วจะได้รับเพียง ๔๒๕,๐๐๐ ดอลล่าห์)  ล็อตเอตรี่แบบที่เขาซื้อนั้นเป็นของรัฐ
ที่ทำออกมาขาย  ผู้ถูกรางวัลมีสิทธิ์เลือกว่าจะรับรางวัลเป็นเงินก้อนเดียว  หรือจะให้ทยอยเอาเงินเข้าบัญชีให้เพื่อจะได้มีเงินใช้ไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต 
ซึ่งข่านเลือกเอาแบบแรก  แต่หลังจากรับเงินรางวัลมาได้เพียงวันเดียว ยังไม่ทันจะได้นำเงินไปใช้จ่ายอะไรๆ  อูรูจ ข่าน ก็กลายเป็น
ข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อพบว่าเขาตายเสียแล้ว

เดิมแพทย์วินิจฉัยว่าเขาเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจวายกระทันหัน  ซึ่งเป็นการตายโดยธรรมชาติ  แต่ภายหลังครอบครัวก็ขอให้ทำการชันสูตร
อย่างละเอียดอีกครั้ง  ซึ่งครั้งนี้พบว่ามีสารไซยาไนด์ในตัว แต่ยังไม่สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกวางยา

จนถึงปัจจุบันนี้คดีของ อูรูจ ข่าน ยังคงต้องสืบสวนกันต่อไป



แจ็ค  วิทเทเกอร์ / ๓๑๕ ล้านดอลล่าห์



บนโลกเรานี้จะหาคนที่โชคดีถูกล็อตเตอรี่ก้อนโตขนาดนี้ได้สักกี่คนในรอบศตวรรษ   แต่แจ็ค  วิทเทเกอร์คือคนๆนั้น 
โดยฐานะแล้วเขาไม่ใช่คนหาเช้ากินค่ำ  ที่หวังฟลุ๊กจากการซื้อล็อตเตอรี่  เพราะเขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เคยมีพนักงานร่วมหนึ่งร้อยคน 
แต่เมื่อโชคชะตากำหนดให้ถูกรางวัลในปีค.ศ.๒๐๐๒ มันก็ต้องถูก  แถมเป็นรางวัลก้อนโตที่สุดเท่าที่เคยมีคนได้มาจนถึงเวลานั้น โดยการซื้อล็อตเตอรี่
แค่ใบเดียว  แจ็คเลือกที่จะรับเงินสดไปเลย  ซึ่งหลังจากหักภาษีแล้ว  เขาได้รับสุทธิที่ราวๆ ร้อยเจ็ดสิบล้านดอลล่าห์

แจ็คบริจาค ๑๐% ของเงินรางวัลให้มูลนิธิการกุศล   ซื้อบ้านและรถยนต์ให้กับพนักงานร้านขายของสะดวกซื้อ  ซึ่งเป็นคนขายล็อตเตอรี่ใบนั้นให้เขา 
นอกจากนั้นก็กันเงินอีก ๑๔ ล้านตั้งเป็นมูลนิธิการกุศลในชื่อของตัวเอง  เพื่อช่วยเหลือคนยากจนในรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ที่เขาอาศัยอยู่ 
นั่นคือการเริ่มต้นใช้เงินที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง 

แต่หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มใช้เงินไปกับอบายมุขนานาชนิด  เช่น  เข้าไปดื่มเหล้าตามบาร์เปลื้องผ้าเป็นประจำ  นอกจากนั้น
ก็จ่ายเงินให้ลูกสาวและหลานสาวอย่างไม่อั้น   ปี ๒๐๐๓  เขาถูกโจรงัดรถแล้วขโมยเงินสดในรถไปประมาณห้าแสนกว่าดอลล่าห์   
ปลายปี ๒๐๐๔  หลานสาวของเขาถูกพบเป็นศพทิ้งไว้ข้างทาง  สาเหตุการตายเนื่องจากเสพย์ยาเกินขนาด  ปีต่อมาเขาถูกฟ้อง
โดยบ่อนคาสิโนแห่งหนึ่ง  ข้อหาติดหนี้จากการใช้เครดิตเล่นการพนันไปประมาณ ๑.๕ ล้านดอลล่าห์  ปี ๒๐๐๗  บัญชีในธนาคาร
ทุกแห่งของเขาถูก หักเงินไปจนเกลี้ยง  เพื่อจ่ายหนี้ที่เขาถูกฟ้องโดยผู้หญิงคนหนึ่ง ปี ๒๐๐๙  ลูกสาวของเขาก็เสียชีวิตไปอีกคน

ในวันที่จัดงานศพลูกสาว  เขาบอกกับนักข่าวพร้อมน้ำตาว่า  ถ้ารู้ว่าชีวิตจะมีปัญหาถึงขนาดนี้ 
เขาคงจะฉีกล็อตเตอรี่ใบนั้นทิ้งไปแล้ว

 

“การถูกรางวัลเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผม”  นั่นคือคำพูดของ บิลลี่ บ็อบ  ที่พูดกับเพื่อนคนหนึ่ง 
หลังจากที่เขาถูกรางวัลแจ็คพอตของล็อตเตอรี่ Texas Lotto ที่เท็กซัส  เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.๑๙๙๗
ขณะนั้นเขาอายุ ๔๗ ปี

ก่อนที่จะถูกรางวัลเขาเคยเป็นนักเทศน์ที่เคร่งศาสนามาก่อน  จากนั้นก็ไปทำงานเป็นพนักงานบริษัท  ชีวิตตอนนั้นลำบากมากเพราะมีภรรยา
และลูกถึงสามคน  ครั้นเมื่อถูกรางวัลและได้รับเงินก้อนแรกมาจำนวน ๑.๒ ล้านดอลล่าห์แล้ว  ชีวิตก็เปลี่ยนไปทันที  มันเป็นจุดเริ่มต้นของ
ประสบการณ์ที่เขาไม่อยากจะพบเจออีกเลย บิลลี่ประเดิมชีวิตใหม่ของการเป็นเศรษฐีด้วยการลาออกจากงานที่บริษัท  พาครอบครัวไปเที่ยวฮาวาย 
บริจาคเงินหลายพันดอลล่าห์ให้กับโบสถ์ที่เขาไปประจำ  ช่วยเหลือญาติและเพื่อนๆด้วยการซื้อรถให้  บริจาคเงินเป็นค่าอาหารให้คนจน 
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์จำนวนมากจากคนแปลกหน้าเข้าไปหาเขาเพื่อขอเงิน  จนบิลลี่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หลายต่อหลายครั้ง 
ทั้งที่มีเงินให้ใช้จ่ายมากขึ้น และเขาไม่ได้ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา แต่ชีวิตครอบครัวที่น่าจะมีความสุขกลับแย่ลง  แย่จนถึงขั้นที่ต้องเลิกกับภรรยา
ที่อยู่กินกันมานาน  เคราะห์ร้ายซ้ำเติมเข้าไปอีกเมื่อเขาตัดสินใจผิดพลาดด้วยการรับข้อเสนอจากบริษัทผู้ออกล็อตเตอรี่  ที่จะจ่ายเงินเป็นก้อน
ให้เขาแทนการจ่ายเช็คเป็นงวดๆให้ตามที่ตกลงไว้ในครั้งแรก  เพราะเงินก้อนที่ได้รับมานั้นหมดไปอย่างรวดเร็วกับภาระต่างๆที่ไปก่อไว้ก่อนหน้านั้น

แล้ววันหนึ่งในปี ๑๙๙๙  ลูกชายของบิลลี่เองก็ไปพบว่าเขายิงตัวตายในบ้าน   ในห้องนอนตำรวจพบข้อความที่เขียนทิ้งไว้ว่า
“ผมไม่ต้องการอะไรแบบนี้เลย  ผมต้องการคุณเท่านั้น” ซึ่งน่าจะหมายถึงภรรยาที่บิลลี่พยายามขอกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่นั่นเอง

 

คาลลี่  โรเจอร์ส / ๑.๙ ล้านปอนด์



เดือนกรกฎาคม ๒๐๐๓  เป็นปีที่สาวน้อยวัย ๑๖ ปี จากเมืองคัมเบรีย  ประเทศอังกฤษ  ผู้นี้ถูกล็อตเตอรี่ก้อนโต
เธอใช้เงินที่ได้มาด้วยการซื้อของขวัญให้คนในครอบครัวเพื่อนๆ  เป็นรถยนต์  บ้าน  และพากันไปท่องเที่ยว  จากนั้นเธอก็ใช้เงินที่เหลือ
ไปกับการจัดปาร์ตี้ ทำศัลยกรรมหน้าอกและซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นราคาแพง

แล้วในปี ๒๐๐๙  สาวน้อยคาลลี่ผู้โชคดีก็เป็นข่าวอีกครั้ง  เมื่อหนังสือพิมพ์ Daily Mail ของอังกฤษลงข่าวว่าเธอหมดตัวแล้ว 
ตามข่าวเธอให้สัมภาษณ์ว่า  ทุกคนมาหาเธอเพราะเธอมีเงิน  และเธอก็พยายามเอาใจพวกเขาด้วยการใช้เงินไปในสิ่งที่ทำให้ทุกคนพอใจ 
ทั้งที่เธอไม่ชอบเลย  เธอเครียดมากจนพยายามจะฆ่าตัวตายถึงสองครั้งหลังจากถูกรางวัลนั้นมา  คาลลี่บอกว่าวันนี้เธอคิดตกแล้ว 
และพร้อมจะเผชิญหน้ากับความลำบากแบบที่เคยเป็นตอนไม่มีเงิน  เธอเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานทำความสะอาดถึงสามที่ 
และย้ายกลับไปอยู่กับแม่  เธอรู้ตัวว่าที่ผ่านไปนั้นเธอก้าวพลาดไปอย่างสิ้นเชิง  มันแทบจะทำลายชีวิตไปจนหมดสิ้น
ทุกวันนี้เธอมีความสุขมากขึ้นแล้ว



นอกจาสาวน้อย คาลลี่แล้ว ที่อังกฤษเช่นกัน ยังมีหนุ่มน้อย ไมเคิล คาร์โรล อีกคนที่เป็นกรณีคล้ายกัน  ไมเคิล นั้นอายุ ๑๙ ปี
เมื่อเขาถูกรางวัลถึง ๙.๗ ล้านปอนด์  เมื่อค.ศ.๒๐๐๒  จากนั้นเพียงแปดปี  เงินทั้งหมดก็สลายไปกับยาเสพย์ติด  ผู้หญิง  และการพนัน 
พร้อมกับครอบครัวที่แตกแยกไปหมด 



ในปี ๒๐๑๐  ที่นักข่าวไปสัมภาษณ์  ไมเคิลนั้นอยู่ด้วยเงินสงเคราะห์จากรัฐเพียงสัปดาห์ละ ๔๒ ปอนด์ 
และพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง



เจฟฟรีย์  แดมเพียร์ / ๒๐ ล้านดอลล่าห์



ด้วยการซื้อล็อตเตอรี่ Illinois Lottery เมื่อปี ๑๙๙๖  เจฟฟรีย์ วัย ๓๐ ปี โชคดีที่ถูกรางวัลแจ็ตพอต
มูลค่าถึง ๒๐ ล้านดอลล่าห์  เขาต่างจากผู้ถูกรางวัลคนอื่นๆที่ใช้เงินไปแบบไม่สร้างสรรค์  จนหมดเนื้อหมดตัวกลับไปจนแบบเดิมในที่สุด 
เจฟฟรีย์สร้างความเป็นอยู่ให้ครอบครัวของเขาใหม่ด้วยการซื้อบ้านและรถยนต์  จากนั้นเพื่ออนาคตของทุกคนในครอบครัว 
เขาก็ใช้เงินจำนวนหนึ่งลงทุนเปิดร้านขายป็อปคอร์นขึ้นมาชื่อว่า Kassi’s Gourmet Popcorn



ชีวิตของเจฟฟรีย์ทำท่าจะไปได้ด้วยดี  แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในปี ๒๐๐๕  เมื่อจู่ๆเจฟรีย์ก็ถูกจับตัวไป และพบกลายเป็นศพ
ในเวลาต่อมา  หลังจากตำรวจสืบสวนจนตามจับผู้ร้ายได้  จึงทราบว่าผู้ร้ายคือ วิคทอเรีย น้องสาวภรรยาของเขาและ นาธาเนียล แฟนหนุ่ม
ของเธอนั่นเอง  เธอให้การว่าเธอเรียกให้เขาไปพบที่อพาร์ทเมนต์ของเธอ ซึ่งแฟนของเธอดักคอยอยู่ที่นั่นด้วย  เมื่อไปถึงแฟนของเธอก็ใช้
ปืนจี้แล้วมัดมือของเขา  พาขึ้นรถออกไปนอกเมือง  จนไปถึงจุดที่พบศพของเขา  เธอถูกแฟนของเธอบังคับให้เป็นคนยิงเขาที่ด้านหลังของศรีษะ 

ส่วนสาเหตุของการสังหารนั้นมาจากความหึงหวง  เพราะ เจฟฟรีย์ เคยแอบมีความสัมพันธ์กับวิคทอเรียมาก่อน 
นอกจากนั้นหลังจากถูกรางวัลมา  เขาก็ซื้อของให้หลายอย่างรวมทั้งจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ให้ด้วย



เอเวลีน  อดัมส์ / ๕.๔ ล้านดอลล่าห์



คนโชคดีที่ถูกรางวัลล็อตเตอรี่นั้นมีจำนวนไม่มาก  แต่ก็มีอยู่เรื่อยๆ แต่จะมีกี่คนที่ถูกรางวัลใหญ่ถึงสองครั้ง 
เอเวลีน  สาวใหญ่จากเมืองนิว เจอร์ซี่ ผู้ทำงานเป็นผุ้จัดการร้านสะดวงซื้อคือคนๆนั้น  ในปี ๑๙๘๕ เธอถูกรางวัล ๓.๙ ล้านดอลล่าห์ 
และถูกอีกครั้งมูลค่า ๑.๔ ล้านดอลล่าห์ในอีกห้าเดือนต่อมา  ซึ่งเมื่อคำนวนดูแล้ว  โอกาสที่จะเกิดขึ้นแบบนั้นมีเพียง ๑ ใน หนึ่งล้านล้านครั้ง

หลังจากได้เงินจำนวนมากนั้นมา  เธอบอกว่า  เมื่อรู้ว่าเธอถูกรางวัลใหญ่มา  ใครๆก็เข้าไปหา  ทุกคนที่ไปก็ล้วนแต่แบบมือขอทั้งสิ้น 
นอกจากนั้นเธอยังใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย  และแก้ไม่ได้กับนิสัยชอบเล่นการพนัน  โดยเฉพาะตู้สล็อต 

ปี ๒๐๐๐ มีนักข่าวจากนิตยสารการเงินฉบับหนึ่งไปขอสัมภาษณ์เธอ  พบว่าเธอไม่มีบ้านเป็นหลักเป็นแหล่ง  ต้องอาศัยอยู่ในบ้านรถ 
และยังแก้นิสัยชอบเสี่ยงดวงอยู่ไม่หาย 

ทุกวันนี้เธอยังซื้อล้อตเตอรี่เป็นประจำ  เพราะหวังว่าปาฏิหารย์จะเกิดขึ้นอีกครั้ง




จานิต  ลี / ๑๘ ล้านดอลล่าห์

สาวใหญ่วัย ๕๒ เชื้อสายเกาหลีผู้นี้ทำงานในร้านทำวิกผม  เมื่อเธอถูกล็อตเตอรี่ที่อิลลินอย  เมื่อปี ๑๙๙๓ 
หลังจากย้ายครอบครัวไปอยู่ในคฤหาสก์  ที่เป็นย่านเศรษฐีแล้ว  เธอก็ใช้เงินรางวัลเหล่านั้นไปกับการบริจาคทั้งเพื่อการศึกษาและเข้าพรรคการเมือง 
เธอเคยมีโอกาสร่วมโต๊ะอาหารกับประธานาธิบดีคลินตัน  และรองประธานาธิบดีอัลกอณ์  ในฐานะของผู้บริจาคเงินรายใหญ่ 

นอกจากนั้นชื่อของเธอยังปรากฎอยู่ในอาคารหลังหนึ่งของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน  แต่ต่อมาเธอก็ตัดสินใจที่จะรับเงินรางวัล
ที่เหลือเป็นก้อนแทนเช็ครายปี  และจากนั้นไม่นานเธอก็ถูกฟ้องล้มละลาย  จากเศรษฐีนีกลายเป็นคนมีหนี้ต้องรับผิดชอบอยู่ถึง ๒.๕ ล้านดอลล่าห์ 

นับจากวันที่เธอถูกรางวัลจนถึงถูกฟ้องล้มละลายเป็นเวลาราวแปดปี




วิลเลี่ยม โพสต์ / ๑๖.๒ ล้านดอลล่าห์



ปัญหาและความยุ่งยากที่สุดในชีวิตเริ่มขึ้นในปี ๑๙๘๘ เมื่อวิลเลี่ยมโชคดีเป็นผู้ที่ถูกรางวัลของ Pennsylvania lottery
มูลค่า ๑๖.๒ ล้านดอลล่าห์  ก่อนที่จะถูกแจ็คพอตนี้  เขาเป็นคนถังแตกที่สุดคนหนึ่ง  แต่จากการยืมเงินจำนวน ๔๐ ดอลล่าห์ไปซื้อมา 
ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นถูกรางวัลดังกล่าว  เงินรางวัลจะแบ่งจ่ายเป็นรายปี  รวม ๒๖ งวด  แต่เพียงสองสัปดาห์หลังจากรับเงินก้อนแรก
จำนวนเกือบห้าแสนดอล่าห์มา  ชีวิตก็เหมือนถูกพระเจ้าแกล้ง  เขาถูกพี่ๆน้องๆหลอกให้ใช้เงินนั้นซื้อภัตตาคารเพื่อทำธุรกิจ 
ซื้อเต้นท์ขายรถยนต์มือสอง  และซื้อเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่ง 

ในเวลาเพียงสามเดือนหลังจากถูกรางวัล  จากคนที่มีเงินสดเกือบห้าแสนกลายเป็นคนมีหนี้มากกว่าห้าแสนดอลล่าห์  ธุรกิจต่างๆ
ที่ถูกหลอกให้ไปลงทุนก็ไม่ทำเงินตามที่คาดไว้  แต่เมื่อคิดว่ายังมีเงินที่จะได้รับในปีต่อๆไปอีกมากมาย   ปีต่อมาเขาจึงไปซื้อห้องพัก
อย่างหรูราคาเกือบสี่แสนดอลล่าห์  แต่ภายหลังก็ไม่ได้อยู่เพราะทะเลาะกับภรรยา(คนที่ ๖) และศาลสั่งไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ 
จากนั้นเขาถูกฟ้องเพื่อขอส่วนแบ่งจากคนที่เขาขอยืมเงินไปซื้อล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลนั้น  ศาลตัดสินให้เขาแบ่งเงินรางวัลหนึ่งในสามให้คนนั้น 
แต่เมื่อเขาไม่มีเงินจ่าย  ศาลจึงสั่งอายัติเงินรางวัลที่เขายังไม่ได้รับทั้งหมด  จนกว่าจะตกลงกันได้

ปี ๑๙๙๖ เขาตัดสินใจประมูลรางวัลที่เหลือทั้งหมดออกไปและขายทรัพย์สินที่มีทั้งหมดเพื่อใช้หนี้  อีกสองปีต่อมาเขาถูกจับข้อหา
พยายามฆ่าชายคนหนึ่งด้วยการยิงปืนเข้าใส่  ขณะที่ชายคนนั้นเข้าไปหาของในบริเวณบ้านของเขา   

ปี ๒๐๐๖ หลังจากรับโทษในคุกออกมาในสภาพของคนสิ้นเนื้อประดาตัว  ต้องอาศัยเงินสงเคราะห์จากรัฐเดือนละ ๔๕๐ ดอลล่าห์เลี้ยงชีพ 
แต่เขาบอกว่า  ชีวิตมีความสุขมากกว่า

“ทุกคนฝันที่จะถูกรางวัล  แต่ไม่มีใครรู้ว่าฝันร้ายสุดๆกำลังตามมาด้วย” เขาบอกกับนักข่าวหลังจาก
ชีวิตประสบกับสารพัดปัญหาอันเนื่องมาจากเงินรางวัล


ที่เขียนมาทั้งหมดนั้น  เป็นเพียงตัวอย่างของคนจำนวนไม่น้อยที่พบกับโอกาสดีๆในชีวิต  แต่นิสัยที่ไม่ดี  การตัดสินใจที่ผิดพลาด 
การไม่รู้เท่าทันคน  แม้กระทั่งความคิดที่จะให้แก่ผู้อื่นมากเกินไป  กลับทำให้โอกาสที่ดีนั้นเปลี่ยนเป็นปัญหาและความยุ่งยาก
อย่างที่ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะเกิดขึ้นได้ถึงขนาดนั้น

หลังจากอ่านเรื่องของคนทั้งหมดแล้ว  หวังว่าท่านผู้อ่านคงพอตอบตัวเองได้บ้างว่า
ถ้าเป็นเราถูกรางวัลก้อนโตขนาดนั้น  จะใช้มันอย่างไร ?!!?