12 สิ่งที่ควรตัดทิ้งไปซะ..แล้วชีวิตจะดีขึ้นทันตา
พ่อแม่มักจะปลูกฝังความคิดให้เราว่าไม่ควรหนีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าปัญหานั้นจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์แค่ไหนก็ตาม เนื่องจากในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหนีปัญหานั้นเพียงเพราะว่าเราไม่ชอบมัน พ่อแม่พยายามสอนลูกๆของตัวเองให้มีความคิดแบบนั้นมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เราโตพอที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองแล้ว และได้ลองพิจารณาใคร่ครวญถึงปัญหาอย่างจริงจัง บอกได้เลยว่ามีบางอย่างที่พวกพ่อแม่ของเราก็คิดผิดอยู่บ้างเหมือนกัน
บางครั้งเราต้องเลิกทำบางอย่างหรือถอยออกมา บางครั้งลองพยายามแล้วแต่มันไม่ได้ผลก็จะเสียเวลาทำไปทำไมล่ะ! มองหาหนทางใหม่ๆจะดีกว่าไหม ผู้คนอาจจะฉุดรั้งคุณ งานจะทำให้คุณเป็นบ้า และความเสียใจจะคอยทำร้ายคุณทั้งภายในและภายนอก หากมีอะไรที่อยู่ในชีวิตเราตอนนี้แล้วไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นเลย หรือไม่ตอบสนองความต้องการของเรา แล้วเราจะเก็บมันไว้ทำไมล่ะ ทิ้งมันไปซะ!
ความสัมพันธ์ที่เหมือนไม่ใช่ความสัมพันธ์ มีแค่เซ็กส์ห่วยๆกับบทสนทนาขยะ เลิกๆไปซะ
2. งานที่คุณไม่ชอบ
การลาออกไม่เหมือนกับการถูกไล่ออก การลาออกไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การไม่พยายามหางานที่เหมาะกับคุณต่างหากที่น่าอายกว่า ถ้าคุณไม่ชอบก็ลาออกเลย หากคุณขี้เกียจทำงาน งั้นก็หางานที่สร้างรายได้โดยที่คุณไม่ต้องลุกจากเตียงสิ แต่ยังไงก็ควรมีเหตุผลในการลาออกเสมอ
3. เพื่อนที่เกาะติดคุณเป็นปลิง
ไม่มีกฎข้อบังคับเรื่องมิตรภาพ การเป็นเพื่อนกันมานาน 10 ปีไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นหนี้เพื่อน 10 ปีสักหน่อย หากทุกครั้งที่เพื่อนคนนี้ชวนคุณไปเที่ยวแต่คุณมักหาข้อแก้ตัวเสมอ ก็เลิกคบไปเถอะ การที่ต้องคอยปฏิเสธคนๆหนึ่งนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าการที่เราจริงใจกับเขา
4. เพื่อนที่คุณต้องคอยเอาใจ
บางครั้งคนเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองก่อนที่จะสร้างความสัมพันธ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นความรักหรืออะไรก็ตาม หากคุณรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง ก็ได้เวลาที่จะต้องทบทวนความคิดใหม่ซะแล้ว ใช่บางครั้งเพื่อนคุณก็อาจมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ อย่าทอดทิ้งเขา แต่ถ้าเพื่อนคนนี้ต้องการความช่วยเหลือทุกวัน มันก็ไม่ใช่แล้วนะ ว่ามะ?
5. เพื่อนร่วมห้องเห่ยๆ
มีความเชื่อมโยงกันระหว่าง “คุณเข้ากับเพื่อนร่วมห้องได้ดีไหม” กับ “บ่อยแค่ไหนที่คุณคิดอยากจะกระโดดหน้าผา” หากคุณไม่ชอบคนที่คุณต้องอาศัยอยู่ด้วย ชีวิตของคุณก็อาจน่าเบื่อไปเลยก็ได้ จะเสียเวลากับคนที่ไม่เคารพคุณทำไมล่ะ ไล่พวกเขาไปเลยอย่าไปแคร์
6. เมืองที่พรากความเป็นตัวตนของคุณไป
หากเมืองนี้ไม่ทำให้คุณมีความสุขหรือต้องสูญเสียความเป็นตัวตนของคุณไป ก็ยังมีอีกตั้งหลายล้านเมืองในโลกที่รอคุณไปใช้ชีวิตนะ
7. อนาคตที่คุณไม่ต้องการ
คุณมีสิทธิ์หนีจากความฝันที่ไม่ใช่ของคุณ การปฏิเสธความฝันที่คนอื่นสร้างให้คุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย เรียกได้ว่าคุณเข้มแข็งและซื่อสัตย์ต่อตัวเองต่างหาก การใช้ชีวิตเพื่อตัวเองคือชีวิตที่มีเกียรติที่สุด อย่ากลัวที่จะวิ่งหนีหากเป้าหมายต่อไปคือสิ่งที่ดีกว่า และมันเป็นความสุขของคุณมากกว่า
8. ความคิดเห็นที่ฉุดคุณต่ำลง
จะไปสนใจความคิดของคนอื่นทำไม เนื่องจากความคิดเหล่านั้นทั้งไร้เหตุผลและไม่สำคัญต่อชีวิตของคุณเลย อย่าปล่อยให้ความคิดของคนอื่นมามีอิทธิพลต่อตัวคุณ
9. ตัวตนเก่าๆของคุณ
ใครบอกว่ามนุษย์เรามีแค่เวอร์ชั่นเดียว ใน 1 ปีเราสามารถอัพเดทตัวเองได้บ่อยพอๆกับผลิตภัณฑ์ Apple เลยล่ะ คนเรามักมีหลายเวอร์ชั่นอยู่ในตัวเอง รวมทั้งความคิดที่เติบโตขึ้นด้วย ดังนั้นอย่าอายที่จะสลัดตัวตนเก่าๆของตัวเองทิ้งไป
10. คนที่คุณไม่กล้าปฏิเสธ
คุณต้องกล้าปฏิเสธสักครั้ง หรือถ้ามีพลังมากพอก็กำจัดคนเหล่านี้ออกจากชีวิตของคุณไปเลยได้ยิ่งดี เพราะคุณกำลังทำงานให้กับคนที่ไม่มีวันจะตอบแทนอะไรดีๆคืนกลับมาให้คุณเลย
11. ความล้มเหลวทั้งปวง
คุณควรหนีให้พ้นจากความล้มเหลว หากทำไม่ได้แล้วคุณจะพบกับความสำเร็จได้อย่างไร เก็บความล้มเหลวไว้ในอดีตก็พอ คุณควรเรียนรู้จากความล้มเหลวและเติบโตจากสิ่งนั้น แล้วค่อยเขวี้ยงมันทิ้งไปให้ไกลๆ
12. การเปรียบเทียบ
ทำไมคุณต้องละทิ้งตัวเองและวิ่งเข้าหาคนอื่นล่ะ? นั่นหมายถึงคุณกำลังถอยหลังลงคลองนะ คุณควรค้นหาตัวเองให้เจอ อย่ามัวแต่ตามหาสิ่งที่คุณไม่มี นี่คือตัวคุณ ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรอก ยิ่งคุณหนีจากการเปรียบเทียบเหล่านั้นได้เร็วเท่าไร ผู้คนก็จะยิ่งเริ่มหันมาเปรียบเทียบตัวเองกับคุณได้เร็วเท่านั้น
Source : elitedaily.com/life/motivation/quit-win-12-things-perfectly-okay-run-away/909419/