น่าชื่นชมจริงๆ!! สาว ม.ปลาย ขอเงินพ่อแม่ 3พันบาท ลงทุนทำงานจนมีเงินล้าน ปลดหนี้ให้พ่อกับแม่ได้สำเร็จ
การจะประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องมีอายุเยอะ หากคนเราคิดที่จะทำ รู้จักวางแผนและตั้งใจทำ สุดท้ายก็จะประสบความสำเร็จได้ วันนี้เราได้หยิบยกเรื่องราวดีๆเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ เด็กสาวม.ปลาย วัย 18 ปี น้องมิ้ว รัญชิดา กมลฉัตรนิธิเธอเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่หาเลี้ยงชีพจากสื่อออนไลน์ กระทั่งปัจจุบันเธอสามารถช่วยครอบครัวปลดหนี้เป็นล้านได้สำเร็จ แถมยังมีเงินเก็บและหมุนเวียนในธุรกิจอีก 5-6 ล้านบาท เธอทำได้อย่างไรกัน ไปดูกันเลย
"หนูขายของตั้งแต่อยู่มอ 2 ขายทางเฟสบุค ตอนนั้นยังไม่มีไอจี เริ่มแรกขายเสื้อผ้า ใช้ไอพอดหน้าจอแตกถ่ายกล้องหน้า วางไอพอดบนตะกร้าผ้ากลับด้านพิงกับกล่องกระดาษทิชชู่ พี่ลองนึกภาพนะ 555555 แล้วใช้กล้องหน้าตั้งเวลาถ่าย แอคไปเกือบ 100 ภาพ เสื้อผ้าที่ขายหนูรับมาจากจากประตูน้ำ ต้องตื่นแต่เช้านั่งรถเมล์ไปเองคนเดียว แบกคนเดียวเดินขึ้นสะพานลอย ข้ามมาขึ้นรถเมล์ บอกเลยหนักมากๆ แบกถุงเกือบ10 ถุง มือแดงแบกคนเดียวประมาณ 70-100 ตัว/อาทิตย์ จากนั้นหนูก็เอามาโพสลงเฟสบุค ลูกค้าเห็นก็เริ่มเม้นใต้ภาพกันไวมากๆ หนูเองก็เริ่มจากขายเสื้อผ้าในเฟสนี่แหละที่ทำให้เรามีฐานลูกค้าจนถึงวันนี้”
“พอมีเงินก็อยากสวย เลยไปหาซื้อครีมใช้ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบซื้อครีมในเน็ตมากๆ แบบคำโฆษณาชวนเชื่อ แบบทาผิวกายขาว 3 วัน สิวหาย 1 คืน อะไรแบบนี้ ถึงมันจะดูโอเว่อแต่มันก็จูงใจคนอ่าน อะไรดีหนูก็ซื้อหมด ถึงกระทั่งนั่งจดว่าอยากได้ครีมอะไร แล้วก็ไปเจอตัวครีมมาร์คหน้าตัวหนึ่งดีมากๆ แบบมันแค่มาร์คก่อนนอน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ต้องใช้บ่อย หน้าก็ใส เพราะมันมีสารสกัดเข้มข้น ฟื้นฟูไวมาก หนูก็เลยไปรับเค้ามาขาย จนแบบอยากทำเองก็หาโรงงานเลยจ้า บอกอยากได้สูตรแบบนี้ หนูก็เริ่มลงทุนทำจาก 50 กระปุกต่อเดือน ตอนแรกยังขายไม่หมด แบบเคยมีช่วงหนึ่งขนาด 1 กระปุกยังขายไม่ได้เลย แต่หนูก็ไม่ท้อนะ พยายามหาคนช่วยโพส ลงโปรโมตต่างๆ เม้นฝากร้านใต้ภาพดารา ไอจีดารา ทำทุกอย่าง บางคนเห็นพวกแม่ค้าไปเม้นฝากร้านคงรำคาญ ก็พวกหนูนี่แหละ 55555 ถ้าเราไม่ทำเราก็ขายของไม่ได้ พูดเลยตอนนั้นเม้นใต้ภาพ ฝากร้านพิมพ์จนมือหงิก แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่ หนูก็เริ่มมีตัวแทนช่วยขาย ช่วยโปรโมตตั้งแต่ตอนนั้น ของก็เริ่มพัฒนาทุกๆอย่างมีกล่องแพ็คเกจเป็นของตัวเอง ทำทุกอย่าง จากเคยขายได้ 50กระปุก กลายเป็น 100 เป็น 500 เป็นพัน เป็นหมื่นกระปุกต่อเดือน”
" โดนคนรอบข้างต่อว่าวัยอย่างเราไม่ควรไปทำงาน น่าจะตั้งใจเรียนมากกว่า คือหนูไม่กล้าบอกอายุเวลาคุยกับลูกค้า กลัวเขาไม่เชื่อเรา เพราะส่วนใหญ่จะมองว่าเฮ้ย เป็นแค่เด็กมอปลาย ยังไม่จบมอหกด้วยซ้ำ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนมากกว่าดีมั้ย เขาบอกว่าวัยอย่างมิ้ว ยังไม่เหมาะทำงาน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มิ้วก็ไม่รู้จะตอบเขายังไงเพราะมิ้วจำฝังใจว่าครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวย พ่อแม่ต้องทำงานหนัก มิ้วยังจำภาพได้เลยว่าครอบครัวมิ้วทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง รับซ่อมไฟฟ้าประปา แต่มีช่วงหนึ่งที่บ้านประสบปัญหา คือไม่มีงานเลย หนูก็แบบช่วยทุกทาง แบบโพสลงเน็ตว่ารับซ่อม ไปหาแจกใบปลิว แบบเอาใบปลิวไปเสียบตามบ้าน นั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์ตากแดดดำๆ ไปแปะตามเสาไฟฟ้าเพื่อช่วยให้ครอบครัวที่บ้านมีงาน มิ้วเข้าใจถึงความลำบาก แต่คนอื่นที่มองเขาไม่เข้าใจ ใครจะไปคิดละว่าจากงานเล็กๆที่หนูลองผิดลองถูกทำมาคนเดียวจะพาครอบครัวมาถึงจุดนี้ได้”
"ไม่เคยขอเงินหรือรบกวนเงินจากพ่อแม่ซื้อมือถือหรือไอโฟนแพงๆทุกอย่างได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จากแต่ก่อนตอนยังไม่ขายครีม ยังไม่ขายเสื้อ หนูคิดว่าแค่ไอโฟน 1 เครื่อง หนูไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ แต่จากเงินทุน 3,000 ของพ่อที่ให้หนูไปซื้อเสื้อที่ประตูน้ำและเอากำไรลงทุนทำครีมขายต่อทำให้ มิ้วเข้าใจคุณค่าของเงินว่ากว่าจะได้มามันยากแค่ไหน เวลาเห็นเพื่อนใช้มือถือแพงๆ เราเนี่ยไม่อยากได้เลยถ้าเราไม่ได้หาเงินเอง เพราะแบบสงสารพ่อแม่ไหนจะหาเงินมาให้เราเรียนแล้ว ยังต้องมาผ่อนมือถือให้ลูกอีก มิ้วว่ามันไม่ใช่ นี่แหละถึงคิดว่าอยากได้อะไรก็ต้องหาเอง ขอบคุณพ่อแม่ที่ไม่ตามใจมิ้ว รู้สึกโชคดีที่เกิดมาในครอบครัว กมลฉัตรนิธิ แม่บอกว่า มิ้วทำให้ครอบครัวเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ทุกคนมีความสุข สำหรับมิ้ว ใครจะว่าเงินไม่ใช่ปัจจัย4 ก็ช่างแต่ทุกอย่างก็ต้องใช้เงินซื้อ โชคดีที่เราเริ่มไวและจับธุรกิจถูกตัว ตอนนั้นแม่ค้าออนไลน์ก็ยังไม่เยอะแบบตอนนี้ อยากจะแนะนำว่าคนที่คิดจะขายของ ต้องคิดก่อนว่าเราจะขายอะไร จะขายใคร มีจุดเด่นกว่าแบรนด์อื่นตรงไหนและที่สำคัญต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าค่ะ ใจแลกใจถึงจะประสบความสำเร็จค่ะ ยังไงเป็นกำลังใจสำหรับคนสู้ชีวิต ไม่เริ่มต้นสร้างชีวิตวันนี้แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ ไม่มีคำว่าสายหากเรายังไม่ได้ลอง”
สามารถติดตามเรื่องราวของน้องมิ้ว ได้ที่ IG @milkyrunchida และเฟสบุค รัญชิดา กมลฉัตรนิธิ