ควรดื่มน้ำตอนไหน
ควรดื่มน้ำตอนไหน
การดื่มน้ำนอกจากจะทําให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สดใสแล้วยังทําให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย
ทํางานได้ดีอีกด้วย ใน 1 วัน ควรดื่มเท่าไหร่ ?
ในทุก ๆ วัน ร่างกายจะต้องสูญเสียน้ำผ่านทางการหายใจและการขับถ่าย
จึงเป็นสิ่งที่จําเป็นมากที่จะต้องรับน้ำเข้าไปเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป
และโดยปกติเราจะเสียน้ำจากการปัสสาวะเฉลี่ยวันละประมาณ 1.5 ลิตร
และอีกเกือบถึง 1 ลิตรสำหรับ การหายใจและเหงื่อ ซึ่งถ้าคุณดื่มน้ำให้ได้วันละ
2 ลิตร (ประมาณ 8 แก้ว) ก็จะช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำในส่วนนี้ได้
แต่สําหรับปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ภายใน 1 วัน
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองแล้ว
ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ควรดื่มให้ได้วันละ 3
ลิตร (ประมาณ 13 แก้ว) ส่วนสาว ๆ วันละ 2.2 ลิตร (ประมาณ 9 แก้ว)
สําหรับสาว ๆ สปอร์ตี้เกิร์ล
จะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เยอะกว่าคนปกติ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกิจกรรมที่ทําด้วย ถ้าคุณออกกําลังกายในช่วงสั้น ๆ
ก็ควรจะดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปครั้งละ 1-2 แก้วหลังจากออกกําลังกายแล้ว
แต่ถ้าเป็นช่วงยาว ๆ ละก็เพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 แก้วก็ น่าจะเพียงพอแล้ว
ดื่มตอนไหน เวิร์กสุด ๆ
ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซี.ซี.)
เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
ตอนสายๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า)
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางานไประยะหนึ่งแล้ว
ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชําระของเสียเหล่านั้นออกไป
ตอนบ่ายๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง)
ตอนเย็น 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม)
ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว
เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลําไส้และกระเพาะอาหาร
และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น