เจอร์ราร์ด เชฟเฟอร์ (Gerard Schaefer) ฆาตกรโหดที่โลกไม่ค่อยรู้จัก
เจอร์ราร์ด เชฟเฟอร์ (Gerard Schaefer)
ฆาตกรโหดที่โลกไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่
มันฆ่าเหยื่อไป 2-30ราย
สภาพเหยื่อที่มันฆ่าเต็มไปด้วยความทารุณและความวิปริต เสมือนกับของเล่นที่ใช้แล้วทิ้งเพราะเบื่อ มันชอบเล่นจิตวิทยากับเหยื่อ ถ่ายรูปเหยื่อตอนมีชีวิต ก่อนที่ฆ่าแบบสนุกสนาน เอกลักษณ์ของมันไว้ นั้นก็คือรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร แต่แฝงไปด้วยความโรคจิตและความน่ากลัวเอาไว้มันไม่ได้ชดกรรมที่ก่อไว้ตามกฎหมาย มันตายอย่างผู้มีชัย จากสาเหตุการตายที่ลึกลับ
และเรื่องราวของมันถูกทำเป็นนิยายหลายเรื่อง
เจอร์ราร์ด จอห์น เชฟเฟอร์ (25 มีนาคม 1946 – 3 ธันวาคม 1995) เป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันจากฟลอริด้า อดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาออกอาละวาดในปี 1969-1973 สังหารเหยื่อไป 30 ราย และถูกจับเมื่อ 7 เมษายน 1973 โดยเขาจะทำตัวเป็นคนดีช่วยเหลือรับผู้หญิงที่โบกรถ จากนั้นก็พาไปข่มขืน, ทรมาน และสังหาร เขาชอบคาเหยื่อไว้กับต้นไม้ และเอาชอบเอาของที่ระลึกของเหยื่อ จำพวก ฟันของเหยื่อ, เครื่องประดับ และเสื้อผ้า เอากับบ้าน และที่บ้านของเขามีการพบหญิงสาวในหีบในห้องเพดานของแม่ของเขา
เจอร์ราร์ด จอห์น เชฟเฟอร์เกิดที่แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในปี 1960 เขาและครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ฟอร์ต ลอเดอร์เดล ฟลอริด้า แต่เขาไม่ค่อยลงรอยกับพ่อเท่าไหร่นัก ในช่วงวัยรุ่นเขาเริ่มหลงใหลกางเกงในผู้หญิงจนกลายเป็นพวกถ้ำมอง (โดยเฉพาะการแอบดูกามกิจที่ผู้อื่นกระทำ) ต่อมาก็เริ่มพฤติกรรมชอบฆ่าทารุณสัตว์(และร่วมเพศสัตว์)และแต่งหญิง สำหรับแต่งหญิงนั้นเขาอ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในสงครามเวียดนาม เคยมีคนทดสอบไอคิวเขาพบว่า ไอคิวเขานั้นอยู่ที่ 130 นับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง จนมีคนจากหลายสถาบันติดต่อให้เขาเข้าไปเรียนเลยที่เดียว
หลังจากเจอร์ราร์ด จอห์น เชฟเฟอร์จบจาก เซนต์ โทมัส อากวีนัส (St. Thomas Aquinas High School) ในปี 1966 เขาได้เข้าเรียนมหาลัยและแต่งงาน ในปี 1969 เขาเป็นครูแต่โดนไล่ออกอย่างรวดเร็วเพราะพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลักจากนั้นเขาก็ทำอาชีพตำรวจเมื่อปลายปี 1971 ในขณะที่เขาอายุ 25 ปี และนั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่สุดจะหรรษา
เพราะเชฟเฟอร์เป็นตำรวจ เขาเลยสามารถล่อลวงเหยื่อได้ง่ายดาย เนื่องจากแค่เห็นผู้หญิงบนท้องถนน เขาก็แสดงตัวเป็นตำรวจ ยัดข้อหาอะไรสักอย่าง จากนั้นพาขึ้นรถ และไปหาที่ฆ่าที่ไหนสักแห่งมันง่ายเหมือนปลอกกล้วย
วิธีฆ่าของเชฟเฟอร์นั้นจะคล้ายๆ เขาจะรับเหยื่อขึ้นรถ จากนั้นก็ไปที่ไกลๆ เป็นป่าด้วยยิ่งดี จากนั้นเขาก็ผูกเหยื่อและอุดปากที่ต้นม้า ข่มขืนและทรมานจนกว่าพวกเขาจะตาย จากนั้นอาจปล่อยทิ้งไว้หรือลากขึ้นต้นไม้ ซึ่งวิธีการจะคล้ายๆ กับ เท็ด บัดดี้ในการสังหารเหยื่อ
ในช่วงระหว่างปี 1969-1973 เกิดคดีผู้หญิงหายสาปสูญ และมีการพบศพพวกเธอในเวลาที่ต่างกัน ทำให้การเชื่อมโยงฆาตกรรายนี้เป็นไปได้ยาก แต่เจอร์ราร์ด จอห์น เชฟเฟอร์ ถูกจับได้ง่ายๆ เมื่อ 21 กรกฎาคม 1972 ในขณะที่เขากำลังลาดตระเวณเลือกเหยื่อ เขาได้เลือกเด็กสาววัยรุ่นอายุ 18 และ 17 ขึ้นมารถเขา และเขาก็ขู่เธอด้วยปืนแล้วพาสองสาวไปป่าละเมาะและมัดตัดกับต้นไม้พันธการมือและผ้าและเอาเชือกผูกคอเตรียมที่จะฆ่าอยู่แล้ว หากมีโทรสายวิทยุตำรวจเรียกให้เขาเดินทางกลับ ซึ่งทำให้เชฟเฟอร์หมดอารมณ์ทันใด(บ้ามากๆ) เขาเลยตัดสินใจปล่อยเหยื่อทั้งสอง พร้อมพูดว่ารออยู่ที่นี้แหละนะ เดี๋ยวจะมาจัดการพวกเธอนะ
เหยื่อสองคนเห็นเชฟเฟอร์จากไป ก็พยายามแก้เชือก(อยู่ไปก็โง่สิ) แล้ววิ่งไปแจ้งสถานตำรวจที่ใกล้สุด พร้อมแจ้งลักษณะรูปพรรณสัณฐานคนร้ายชนิดหน้าตาหน้า ส่งผลให้เชฟเฟอร์โดนจับกุม แต่ก็ขังคุกไม่นานหรอก แค่สองเดือนเท่านั้นก็ประกันตัวออกมา เพราะข้อหาที่โดนคือกล่าวหาเท็จและทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นวันที่ 27 กันยายน 1972 เชฟเฟอรร์ก็ฉลองการออกจากคุกโดยทรมานและฆ่า Susan Place อายุ 17 และจอร์เจีย (Georgia Jessup) และฝังพวกเขาใน Hutchinson Island ซึ่งการฆาตกรรมนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการแก้แค้นในกรณีสองสาวก่อนหน้า ที่ตนเองอุตส่าห์บอกแท้ๆ ว่าจะกลับมาฆ่า พวกเธอดันหนีไปซะงั้น มันแค้นซะจริงๆ เลยฆ่าเม่งสองคนเหมือนคราวก่อนซะเลย
ในเดือนธันวาคม เชฟเฟอร์ปรากฏตัวในศาล เรื่องคดีสองสาวหนีรอดจากเงื่อมมือเขาคราวก่อน เนื่องจากเชฟเฟอร์ใช้วิธีต่อรองในชั้นศาล ทำให้เขาโดนลดโทษจำคุกเพียง 1 ปี โดยรอทัณฑ์บน
ในเดือนเมษายน 1973 มีการพบซากผู้หญิงที่หายไป รวมไปถึง สองสาวรายก่อนหน้า ศพของเด็กหญิงเหล่านั้นเชื่อมโยงไปกับคดีพบเหยื่อค้างต้นไม้ก่อนหน้า เนื่องจากปมมัดของบ่วงเชือกมีลักษณะคล้ายกัน และสิ่งเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงไปยังเชฟเฟอร์ ตำรวจนำหมายค้นไปบ้านของเขาและภรรยา(ปัจจุบันอยู่กับมารดา)
ในห้องห้องนอนของเชฟเฟอร์ตำรวจพบเรื่องราวต่างๆ มากมายเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเหยื่อบนต้นไม้ ตำรวจพบภาพเขียนหลายภาพที่เหมือนศพในที่เกิดเหตุ สมุดบันทึกที่เขาเขียนการพรรณนาการทรมาน, ข่มขืน และฆ่าผู้หญิงที่เชฟเฟอร์เรียกพวกเธอว่า “โสเภณี(Whores)” และ “นังเพศยา(Sluts)” พร้อมทรัพย์สินส่วนตัวของเหยื่อของเขา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ, ฟัน, เสื้อผ้า ระบุได้ว่าเป็นของผู้หญิงแปดคนและรายล่าสุดที่หายไปในปีล่าสุด
เชฟเฟอร์โดนจับกุมในข้อหาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เมื่อตุลาคม 1973 เจ้าหน้าที่เริ่มขยายผล พบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับหญิงสาว 30 คนที่หายตัวไปและพบศพบางส่วน
Place และ Jessup ไม่ใช้เหยื่อรายสุดท้ายที่เชฟเฟอร์ฆ่าตาย เพราะเด็กหญิง Mary Bisccolina อายุ 14 ปี หายตัวไปในขณะเดินในป่าละเมาะในวันที่ 23 ตุลาคม 1972 ไม่กี่สับดาห์หลังจากสองสาวถูกฆ่า ตำรวจพบเครื่องประดับของเธอในบ้านของเชฟเฟอร์
ส่วนเรื่องคดีในศาลบนั้นดูเหมือนว่า เจอร์ราร์ด จอห์น เชฟเฟอร์จะต่อสู้คดีอย่างดุเดือดมาก มีการพิจารณาคดีหลายครั้ง จนกระทั่งมันก็ไม่จบ จนกระทั้งเขามาเสียชีวิตลงเสียก่อน
วันที่ 3 ธันวาคม 1995 เชฟเฟอร์ถูกฆ่าตายโดยผู้อยู่ร่วมอาศัยที่ชื่อ Vincent Rivera ซึ่งเขาอ้างว่าเขาฆ่าเชฟเฟอร์เพื่อเป็นการแก้แค้น เป็นอันปิดฉากตำรวจนักฆ่าในที่สุด