ชีวิตผู้หญิงในญี่ปุ่นที่เป็นช้างเท้าหลัง ชายเป็นใหญ่
เรื่องจริง! ชีวิตการทำงานของผู้หญิงญี่ปุ่นในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ “ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง”
ประเทศที่สาวๆ หรือใครหลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะไป อยากใช้ชีวิตอยู่แบบเสรีในประเทศญี่ปุ่น แต่คุณรู้หรือไม่? ในปัจจุบันสิทธิเรื่องความเสมอภาคทางเพศของญี่ปุ่นยังถูกจำกัด เรียกง่ายๆว่าร้านหลังสุดๆ โดยยังยึดคติที่ว่าผู้ชายเป็นผู้นำ ผู้หญิงเป็นผู้ตาม
ถ้าพูดถึงเรื่องความเสมอภาคทางเพศแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 104 จาก 142 ประเทศทั่วโลกที่ทางเวิลด์ อีโคโนมิคส์ ฟอรั่ม ได้มีการจัดลำดับเกี่ยวกับเรื่องความเสมอภาคทางเพศ ถือได้ว่าประเทศญี่ปุ่นมีความล้าหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านเศรษฐกิจก็ตาม
Capture : BBC
ผู้สื่อข่าวบีบีซี มาริโกะ โออิ ได้ออกไปสำรวจดูชีวิตการทำงานของผู้หญิงในประเทศญี่ปุ่นในแวดวงต่างๆว่าพวกเขามีชีวิตเป็นอย่างไร
นางมิตสุ คิมาตะ
Capture : BBC
เริ่มต้นที่ผู้หญิงคนแรก นางมิตสุ คิมาตะ หญิงแกร่งที่ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งในหน่วยงานราชการและภาคเอกชนระดับสูง ซึ่งปัจจุบันเธอมีอายุ 79 ปี (ตามหลักแล้วหญิงที่มีอายุมากขนาดนี้ ควรจะนั่งอยู่ที่บ้านเฉยๆไม่ต้องทำงานอะไรหนักมากมายถูกไหมคะ?) แต่เธอไม่ได้อยู่นิ่งๆนะ เธอยังเดินหน้าทำงานต่อไป โดย คิมาตะ บอกว่าความสำเร็จในอาชีพหน้าที่การงานทุกอย่างของเธอต้องแลกมาด้วยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจพี่หนักกว่าผู้ชายหลายเท่า รวมทั้งต้องสร้างความสมดุลย์ในการทำงานระหว่างการทำงานนอกบ้านและการดูแลครอบครัว เธอบอกว่าปัญหาหนี้สาธารนัดที่สูงเพิ่มขึ้นของญี่ปุ่นส่วนหนึ่งมาจากผู้หญิงในหลายคนในประเทศผันตัวไปเป็นแม่บ้าน (ทำงานบ้านดูแลลูก ดูแลครอบครัว) จนทำให้ผู้หญิงหลายหลายคนไม่ทำงานจ่ายภาษีคืนให้กับภาครัฐของประเทศที่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนด้านการศึกษาให้แก่ผู้หญิงมากมาย
ฮารุกะ ฮามาดะ
Capture : BBC
คนที่ 2 นางฮารุกะ ฮามาดะ อดีตครูประจำ เนอร์สเซอรี่ที่ปัจจุบันได้ลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงดูลูก 3 คนหลังจากแต่งงาน นางฮามาดะ บอกว่าตัวเธอเองเข้าใจนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะที่เขาอยากให้ผู้หญิงได้มีบทบาทเข้าไปช่วยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่ส่วนตัวเธอคิดว่านายอาเบะไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของคนเป็นแม่อย่างจริงจังที่ต้องเลี้ยงดูลูกและต้องทำงานบ้านควบคู่ไปด้วยนั้นเป็นงานที่หนักและเหนื่อยมากแค่ไหน (ส่วนใหญ่แล้วผู้ชายมักจะไม่ค่อยเข้าใจว่างานบ้านเป็นงานที่หนัก ถ้าวันนึงไม่มีคนดูแลเรื่องนี้ให้ผู้ชายถึงจะเข้าใจในส่วนตรงนั้นว่างานบ้านการดูแลส่วนต่างๆในบ้านดูแลครอบครัวมันเป็นงานที่หนัก และมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องทำงานนอกบ้าน เลี้ยงดูลูก รวมถึงการทำงานบ้านอีก ลองคิดดูซิว่าผู้หญิงเหล่านี้เหนื่อยแค่ไหน)
มิเอโกะ นากาตะ
Capture : BBC
ผู้หญิงคนที่ 3 ปัจจุบันอายุกว่า 71 ปีแล้วชื่อนางมิเอโกะ นากาตะ ปัจจุบันเป็นพนักงานทำความสะอาดที่สำนักงาน (ถึงจะอายุมากแต่เธอก็เลือกที่จะไม่อยู่บ้านเฉยเฉยขออนุญาตสามีออกไปทำงานข้างนอก เพราะรักในอาชีพนี้) โดยนางนากาตะ บอกว่าสมัยตอนที่เธอยังสาวๆ นั้นเธอจะช่วยสามีทำธุรกิจส่วนตัวบวกกับเลี้ยงลูกไปพร้อมๆกัน โดยเธอไม่เคยคิดว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสอะไรเลย ไม่เพียงเท่านั้นถ้ายังออกมาสนับสนุนผู้หญิงยุคใหม่ ที่ทั้งต้องทำงานนอกบ้านและเรียกลูกไปพร้อมๆกันด้วย
เอมิริ ไอซาวะ
Capture : BBC
หญิงคนที่ 4 นางเอมิริ ไอซาวะ วัย 27 ปีปัจจุบันเป็นพนักงานต้อนรับ ที่สถานบันเทิงแห่ง 1 ในกรุงโตเกียว เธอบอกว่างานที่เธอทำอยู่นี้สร้างรายได้ให้เธออย่างมากแต่ขณะเดียวกันเธอก็ไม่หยุดนิ่ง หาอาชีพเสริมทำควบคู่ไปด้วย คืนหนึ่ง ซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอ เธอได้รับเงินก้อนโตกว่า 27 ล้านเยน หรือ 7,979,327 บาทในไนท์คลับ ส่วนงานถ่ายแบบเดินแบบของเธอปีหนึ่งเธอมีรายได้กว่า 1 ล้านสหรัฐ โดยการเป็นนางแบบและทำธุรกิจขายเสื้อผ้าควบคู่กันไป โดยเธอมีความเชื่อที่ว่าผู้หญิงทำอะไรได้มากกว่าที่ผู้ชายทำ โดยเธอต้องการพิสูจน์ให้กับคนที่เคยดูถูกได้ให้เห็นว่า “ไม่มีอะไรที่ผู้หญิงอย่างเราทำไม่ได้” (คนที่ชอบดูถูกคนอื่นว่าทำนู่นทำนี่ไม่ได้จริงๆแล้วคนพวกนี้เขามีปมด้อย เนื่องจากตัวเองทำไม่ได้เลยดูถูกคนอื่นว่าทำไม่ได้เช่นกัน)
ซาโอริ อะริโยชิ
Capture : BBC
หญิงคนสุดท้ายคนที่ 5 นางซาโอริ อะริโยชิ นักฟุตบอลหญิงทีมชาติของญี่ปุ่นปัจจุบันทำงานพิเศษเป็นพนักงานต้อนรับที่ศูนย์กีฬาแห่ง 1 ในประเทศ เผยเรื่องราวว่าเธอรู้สึกสนุกและตื่นเต้นที่เธอสามารถแบ่งจัดสรรเวลาทำงานทั้ง 2 อย่างได้ โดยไม่เคยรู้สึกเลยว่าตัวเองเหนื่อยหรือแย่ ในขณะที่นักฟุตบอลหญิงมีรายได้น้อย แต่นักฟุตบอลชายกับมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ ทางที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็มีความเหนื่อยในหน้าที่การงานอาชีพเดียวกันเหมือนกันทุกอย่างแต่ฐานเงินเดือนกับถูกแบ่งแยก โดยนางอะริโยชิ หวังว่าตัวเองจะทำหน้าที่นักฟุตบอลหญิงได้ดีและทำให้ทีมนักฟุตบอลหญิงของตัวเองได้รับความนิยมมากขึ้นจนสามารถหาเลี้ยงชีพได้จากการเล่นกีฬาที่พวกเธอรักเพียงอย่างเดียว
ในปัจจุบันมีหลายประเทศออกมายอมรับเรื่องสิทธิความเสมอภาคของผู้หญิงและผู้ชายให้มีความเท่าเทียมกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังคงยึดหลักความคิดเดิมๆในเรื่องของเพศที่ผู้ชายมีความแข็งแรงกว่าอดทนกว่าเก่งกว่าผู้หญิง แต่จริงๆแล้วพวกคุณจะรู้หรือไม่ว่าผู้หญิงสามารถทำงานหลายหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกันแต่พอเทียบกับผู้ชายผู้ชายสามารถทำงานได้อย่างเดียวในเวลาเดียว ในโลกปัจจุบันผู้หญิงหลายคนมีความสามารถเดียวกับผู้ชายหลายเท่า บางคนได้เป็นผู้นำบางคนได้เป็นผู้บริหาร บางคนเป็นหัวหน้า ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชายบางคนอาจยอมรับมียายในเรื่องนี้แต่ก็มีผู้ชายบางกลุ่มที่ยอมรับในความเก่งและความสามารถของผู้หญิง