20 เรื่องจริงสุดทึ่งของน้องหมา ไม่รู้ไม่ได้แล้ววววว!
โพสท์โดย ลูกสาวอบต
น้องหมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกได้เต็มปากว่า “เป็นมิตรแท้ของมนุษย์” ที่มีความหลากหลายมากทั้งในแง่สายพันธุ์ ลักษณะนิสัย เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยที่เรียกได้ว่า รู้แล้วต้องทึ่ง ซึ่งแน่นอนค่ะว่าไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งนักวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า เทคโนโลยีก้าวไกล เราก็ยิ่งรู้เบื้องลึกของชีวิตน้องหมามากขึ้นเรื่อยๆ และช่วยเปิดใจของเราให้กว้างมากขึ้น เกิดเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ของมนุษย์....เพราะสำหรับน้องหมา จักรวาลทั้งหมดอยู่ที่คนที่พวกเขารัก.....นั่นก็คือ “คุณ” นั่นเอง!
มาดูค่ะว่า มีอะไรที่ช่วยเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้เรารู้จักน้องหมา....สหายสุดที่รักของเรามากที่สุด!
มาดูค่ะว่า มีอะไรที่ช่วยเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้เรารู้จักน้องหมา....สหายสุดที่รักของเรามากที่สุด!
1. ประสาทรับกลิ่นน้องหมาดมกลิ่นโรคของคนได้!
เรารู้กันมานานแล้วตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าจมูกดีเป็นเลิศ เพราะพวกเขาสามารถรับรู้กลิ่นได้มากกว่าคนถึง 10,000 – 100,000 เท่า เพราะมีขนาดพื้นที่การรับกลิ่นถึง 125 – 150 ตารางเมตร (คนมีเพียง 4 – 5 ตางรางเมตรเท่านั้น) และยังมี ประสาทการรับกลิ่นมาก 100 ล้านเซลล์ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะสามารถได้กลิ่นแปลกปลอมของกลิ่นเหงื่อ กลิ่นกาย ลมหายใจ หรือแม้กระทั่งฮอร์โมนของเรา รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเจ้าของที่เปลี่ยนไปจนพบต้นตอของโรคต่างๆ ได้
2. ทุกครั้งที่น้องหมาดื่มน้ำพวกเขาไม่ได้เลียน้ำ แต่ตักน้ำเข้าปาก !
แต่ก่อนเราคงเข้าใจว่า เวลาน้องหมาดื่มน้ำพวกเขาจะเอาลิ้นแตะน้ำ แบบที่เราชอบทำเลียนแบบกันตอนเด็กๆ จนกระทั่งวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ทำให้เห็นการดื่มน้ำของน้องหมาว่า พวกเขาห่อปลายลิ้นเข้าหาตัวเหมือนเป็นกระบวยตักน้ำใส่ปาก คล้ายๆ กับเวลาช้างใช้ง่วงตักน้ำใส่ปากนั่นเอง เห็นไหมล่ะค่ะ ลิ้นยาวๆ ของน้องหมามีประโยชน์กว่าที่คิด
3. มีเพียงคนเท่านั้นที่น้องหมาสามารถเดาอารมณ์ความรู้สึกกับพวกเขาผ่านดวงตา
ธรรมชาติของน้องหมา (รวมไปถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ) การมองตาเท่ากับการท้าทาย ถ้าฝ่ายใดหลบตาก่อนแสดงว่าสยบยอม (ลองทำกับน้องหมาของตัวเองดูก็ได้นะคะ พวกเขาจะมักหลบตาก่อนเสมอ) ในขณะที่คนเรานั้น ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจเราจึงมักแสดงความรักด้วยการมองตา หรือมองดวงตาเพื่อหาความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่าย....ซึ่งสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันมาเนิ่นนานของเราและน้องหมาก็ได้ทำให้พวกเขาค่อยๆ เรียนรู้ที่จะอ่านดวงตาของเราเพื่อค้นหาความต้องการของเราที่อยู่ลึกภายใจ บางตัวเรียนรู้ที่จะมองตาเพื่อแสดงความรักแก่เจ้าของนั่นเอง ^^
4. น้องหมาโคลนนิ่งพร้อมกันถึง 6 ตัว เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้
น้องหมา 6 ตัว เป็นน้องหมาพันธุ์ลาบราดอร์ เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ช่วงปีช่วงปี 2007 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาเป็นน้องหมานักดมกลิ่นยาเสพย์ติดให้แก่ท่าอากาศยาน และท่าเรือ ซึ่งทั้ง 6 ตัวนี้เกิดจากการก็อปปี้ยีนส์ของลาบราดอร์ นิสัยดี ชำนาญการการดมกลิ่น ชื่อว่า"เชส" ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเจ้า 6 ตัวนี้มีพฤติกรรมที่ต่างจากน้องหมาลาบราดอร์ตัวอื่นตรงที่พวกเขามีนิสัยดีตั้งแต่กำเนิด ฉลาด ตื่นตัวอย่างรู้อยากเห็น ฝึกง่าย ไม่ค่อยเล่นซุกซน และเข้าใจผู้ฝึกสอนได้อย่างดี
5. น้องหมาที่อายุมากที่สุดในโลกอยู่ได้ 29 ปี กับ 282 วัน!
เจ้าแม็กซ์น้องหมาดัชชุนผสมบีเกิ้ลและผสมเทอร์เรีย เป็นผู้ได้รับตำแหน่งนั้นไป ด้วยสถิติ อยู่ได้นานถึง 29 ปี กับ 282 วัน ซึ่งโดยปกติแล้วน้องหมาจะมีอายุขัยเฉลี่ยที่ประมาณ 15 – 18 ปีเท่านั้นเองค่ะ แม็กซ์เกิดในวันที่ 9 สิงหาคม 1983 และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เมื่อปีที่ผ่านมาด้วยโรคลมชัก
6. น้องหมาสามารถฟังคำสั่งได้หลายภาษา
น้องหมาแต่ละตัวก็รับรู้ภาษานั้นๆ จากถิ่นฐานที่พวกเขาเกิดมา แต่ก็มีหลายตัวที่ต้องย้ายถิ่นไปอยู่ที่แปลกภาษาอาจทำให้พวกเขาสับสนบ้างจากคำสั่งที่เสียงต่างออกไปจากเดิม อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาศัยการสังเกตจากภาษากายเป็นหลัก เสียง คำสั่งเป็นสิ่งรองที่พวกเขาจะสนใจ ดังนั้น ไม่ว่าจะสอนพวกเขากี่ภาษา ขอแค่มีภาษากายที่เป็นภาษาหลัก มีการเชื่อมโยงกับการกระทำอย่างชัดเจน และหมั่นฝึกฝนเป็นประจำ จะ 20 ภาษาน้องหมาก็ฟังเข้าใจไม่มีปัญหา แน่นอนค่ะ
7. น้องหมามีกรุ๊ปเลือดถึง 8 กลุ่มหลัก
น้องหมามีกรุ๊ปเลือดถึง 8 กลุ่ม คือ DEA1.1,DEA 1.2,DEA 3,DEA 4,DEA 5,DEA 6,DEA 7,DEA 8 โดยจะประกอบไปด้วยเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และน้ำเลือด มีสารเคลือบผิวเม็ดเลือด แต่จะไม่มี Antibody ในน้ำเลือด (Plasma) เช่นเดียวกับคน ซึ่งหมู่เลือด DEA 1.1 , 1.2 ไม่สามารถเป็นผู้บริจาคเลือดได้แต่สามารถรับเลือดได้ ส่วนกรุ๊ปเลือดอื่นๆ สามารถเป็นผู้บริจาคเลือดหรือรับเลือดกันได้แม้ว่าจะเป็นกรุ๊ปต่างกัน ส่วนกลุ่ม DEA 4 สามารถบริจาคโลหิตให้กับทุกกลุ่มเลือดค่ะ
8. น้องหมามีเหงื่อออกแค่ที่บริเวณอุ้งเท้าและจมูกเท่านั้น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ เห็นน้องหมามีขนขึ้นเยอะๆ ทั่วทั้งตัวแต่พวกเขาไม่มีรูขุมขนที่บริเวณผิวหนังนะคะ จะมีก็แค่ที่อุ้งเท้า และที่จมูก สังเกตได้จากเวลาที่อากาศร้อนมากๆ ที่จมูกและฝ่าเท้าน้องหมาจะชื้น เพื่อที่จะระบายความร้อน ซึ่งแน่นอนค่ะว่า แค่ 2 ตำแหน่งไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้สักเท่าไหร่ จึงต้องอาศัยการหอบ และอาศัยผู้เลี้ยงคอยพาพวกเขาเข้าที่ร่ม เปิดพัดลมให้คลายร้อนนั่นเอง
9. คนสามารถติดต่อเชื้อโรคต่างๆ ของน้องหมาได้โดยเยื่อเมือกสัมผัสกับสารคัดหลั่ง
อันที่จริงแล้วมีเพียงโรคพิษสุนัขบ้า และโรคฉี่หนู ที่สามารถติดต่อจากน้องหมาสู่คนได้ ผ่านการสัมผัสเยื่อเมือกของคนเรา เช่น ปาก ลิ้น แผล เยื่อบุตา เยื่อบุช่องคลอด เป็นต้น การปล่อยให้น้องหมาเลียแขน เลียปาก หรือพวกที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กับสุนัขก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจทำให้ติดเชื้อได้หากน้องหมาตัวนั้นมีเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าอยู่ นอกจากเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้ว คนเราสามารถติดเชื้อโรค หรือ เชื้อแบคทีเรียผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของน้องหมาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย แผลสด หรือ อวัยวะเพศของสุนัข ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเล่นกับน้องหมาเสร็จควรล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อนะคะ
10. น้องหมาสีดำถูกทิ้งให้อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์มากที่สุด
ทั้งในไทยและในต่างประเทศทั่วทุกมุมโลกต่างมีความเชื่อเกี่ยวกับน้องหมาดำว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย เชื่อมโลกมนุษย์ กับปรโลก ทำให้คนเลี่ยงที่จะเลี้ยงน้องหมาตัวสีดำ ซึ่งส่งผลให้น้องหมาสีดำในสถานพักพิงสัตว์ หรือ สถานสงเคราะห์สัตว์ มักไม่มีใครสนใจที่จะรับเลี้ยง แล้วถูกทำการุณยฆาต หรือ ต้องทนทุกข์ รอคอยการมีบ้านอย่างไร้จุดหมายจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
11. ใน ก.ท.ม. มีน้องหมาจรจัดถึงเกือบ 1 ล้านตัว ทั่วกว่า 300 ล้านตัว
น้องหมาจรจัดเป็นปัญหาที่ไม่มีวันลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นมาจากการทอดทิ้งสุนัขให้ออกมาอยู่ตามถนน แล้วเกิดการแพร่พันธุ์ ไม่มีการทำหมัน น้องหมาให้กำเนิดลูกไม่ต่ำกว่า 2 ตัวต่อคอก ยังไม่นับสมาชิกใหม่ที่ถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลงอีก ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลกที่ยังไม่มีหนทางแก้ไข....ยกเว้นความรับผิดชอบของผู้เลี้ยงที่จะคอยดูแลพวกเขาทั้งชีวิตไม่ทอดทิ้ง
12. สหภาพโซเวียตใช้น้องหมามากกว่า 60 ตัว เสี่ยงส่งขึ้นอวกาศ
กว่าจะมียานอวกาศขึ้นไปยังวงโคจร มีนักอวกาศคนแรกชื่อ “ยูริกาการิน” ทางสหภาพโซเวียตในสมัยนั้นก็จำเป็นต้องจับน้องหมาข้างถนนมาเป็นตัวทดลองขึ้นไปพร้อมกับยานอวกาศ พาตัวโชคดีได้กลับลงมา บางตัวก็ต้องเสียชีวิตระหว่างปฏบัติงาน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ตัว ดังนั้น อย่าลืมขอบคุณและให้เกียรติน้องหมาทุกๆ วันที่ยอมสละชีพเพื่อความก้าวหน้าของโลกใบนี้นะคะ
13. น้องหมาสามารถกินบล็อคโคลี่กับมะเขือเทศได้ (แต่ในปริมาณที่จำกัด)
ในความจริงแล้ว น้องหมาสามารถกินผัก 2 ชนิดนี้ได้ เพียงแต่ต้องกินเพียงเล็กน้อย ไม่กินเป็นประจำ เพราะจากประโยชน์อาจกลายเป็นโทษ ซึ่งบล็อคโคลี่ควรต้มให้สุก กินเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่กินในหนึ่งวัน ส่วนมะเขือเทศควรเป็นมะเขือเทศผลสีแดงและต้องปรุงสุกเท่านั้น ไม่ควรเป็นมะเขือเทศสดและกินเพียงสัปดาห์ละครั้งเพียงเล็กน้อยก็พอไม่เช่นนั้นจะระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ
14. น้องหมาเห็นภาพเบลอๆ และ เห็นเพียง 2 เฉดสี
น้องหมาไม่สามารถเห็นภาพชัดเจนได้แบบเรานะคะ แต่จะเป็นภาพเบลอๆ เหมือนคนสายตาสั้นเพราะพวกเขามีเซลล์รับแสงน้อยกว่าเราประมาณ 5 - 6 เท่า นอกจากนี้ยังมองเห็นสีได้เพียง 2 เชดสี คือสีน้ำเงินกับสีเหลือเท่านั้น ไม่สามารถแยกสีเขียวกับสีแดงได้ออกจากกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความสามารถในการจับความเคลื่อนไหลของสิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า แม้ในระยะที่ไกลกว่าและในที่มืด ทั้งๆ ที่ดูไม่ออกว่าเป็นตัวอะไร หากเพียงพอแล้วที่จะเรียกสัญชาตญาณในการไล่ล่าของพวกเขาออกมา
15. น้องหมาขนสั้น มีทั้งแบบชั้น เดียวและ 2 ชั้น เช่นเดียวกับน้องหมาขนยาว
บางคนมีมักคิดว่าน้องหมาขนสั้นคือน้องหมาขนชั้นเดียว อยู่ในอากาศร้อนได้ดี อากาศหนาวทนไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว น้องหมาขนสั้นมีทั้งขนชั้นเดียวและ 2 ชั้นค่ะ อย่างขนชั้นเดียว (Single Coat) ก็เช่น โดเบอร์แมน, มินิเจอร์ พิชเชอร์, อิตาเลียน เกรย์ ฮาวนด์, ไทยหลังอาน เป็นต้นส่วนขน 2 ชั้น มีมีขนชั้นล่าง (Under Coat) ที่เล็กละเอียดคอยทำหน้าที่ปกป้องความหนาว รักษาความอุ่นในร่างกาย อย่างสายพันธุ์ ร็อตไวเลอร์, ออสเตรเลีย แคทเทิล ด็อก, ลาดอร์ รีทรีฟเวอร์, บีเกิล, ปั๊กสีครีมน้ำตาล เป็นต้น ดังนั้น หากอากาศเปลี่ยนแปลง ควรเชคให้ดีก่อนว่าพวกเขาเป็นน้องหมาขนกี่ชั้น เพื่อที่จะดูแลพวกเขาอย่างถูกต้องเหมาะสมค่ะ
16. ขาสั้นของน้องหมา การพัฒนาที่ผิดปกติของยีนส์ เพื่อให้กลายเป็น “หมารู”
น้องหมาสายพันธุ์ขาสั้นเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความบกพร่องทางร่างกาย แปลงยีนส์ผิดปกติชั่วคราวกลายเป็นยีนส์ผิดปกติถาวร จนในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นสุนัขสายพันธุ์ ขาสั้นอย่างที่เราเห็นกัน เพื่อนำพวกเขามาช่วยไล่จับสัตว์ตัวเล็กๆ ที่อยู่ในรูที่คอยกัดแทะกิน หรือ ทำลายเรือกสวนไร่นา ซึ่งถึงพวกเขาจะดูมีคุณค่าแต่ก็ต้องทนกับปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่ตามมาเมื่อพวกเขาเริ่มแก่ตัวลง
17. พี่หมีร็อตไวเลอร์ ติดโผหนึ่งในสายพันธุ์ที่มึนที่สุดในโลก
ปกติแล้วหลายเว็บไซต์ หรือ หลายสมาคมคนเลี้ยงสุนัขจะมีการจัดอันดับ จัดกลุ่ม น้องหมาที่ฉลาดที่สุด และแน่นอนว่าต้องมีน้องหมามึน (ไม่ฉลาด) ที่สุดอีกด้วย ซึ่งมีเกณฑ์การวัดที่ลักษณะนิสัยของสายพันธุ์นั้นๆ ว่าพวกเขาฝึกยากไหม ความจำดีหรือไม่ เชื่อฟังสั่งได้มากน้อยแค่ไหน มีสมาธิหรือไม่.....โดยหนึ่งในนั้นก็มี “พี่หมี” ร็อตไวเลอร์สุดมึนติดกับเขาด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่คนเลี้ยงน้องหมาพันธุ์นี้ต่างมีความเห็นว่า พวกเขาติ๊งต๊อง ขี้อ้อนเหมือนเด็ก วันๆ เอาแต่นอนแต่พอถึงเวลาจะกัดก็กัดมั่วซั่วไม่ดูตาม้าตาเรือเลยว่า....นี่มันเจ้าของนะ! เลยต้องโดนทำโทษไปตามระเบียบ
18. นักศึกษาสัตวแพทย์ก็มี....... “อาจารย์ใหญ่” เหมือนกัน
อาจารย์ใหญ่ของสัตวแพทย์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “อาจารย์ใหญ่ทางสัตวแพทย์” คือเป็นน้องหมาหรือสัตว์ที่เสียชีวิตแล้วมาชุบน้ำยารักษาเนื้อเยื่อเพื่อใช้ศึกษาโครงสร้างของร่างกายที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งน้องหมาที่ได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ใหญ่จะต้องเป็นสุนัขที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลสัตว์ มีระยะเวลาเสียชีวิตไม่เกิน 12 ชั่วโมง มีอายุระหว่าง 2 - 8 ปี น้ำหนักระหว่าง 10 - 20 กิโลกรัม และไม่มีรูปร่างอ้วนหรือผอมมากเกินไป แต่ที่สำคัญต้องไม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โรคมะเร็งและเนื้องอก และโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์สู่คน
19. น้องหมาพันธุ์ยักษ์ใหญ่กว่า 10 สายพันธุ์ เหมาะกับการอยู่ในพื้นที่แคบ!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ น้องหมาพันธุ์ใหญ่หลายสายพันธุ์เหมาะกับการอยู่ในพื้นที่แคบมากกว่าพันธุ์เล็กเสียอีก เพราะน้องหมาพันธุ์ใหญ่มักมีพลังงานต่ำ เหนื่อยง่าย ร้อนง่าย เดินแป๊บๆ ก็ต้องนอนเอาแรง ต่างจากน้องหมาพันธุ์เล็กบางสายพันธุ์ที่ไฮเปอร์ วุ่นวาย ไม่มีเหนื่อย พลังงานสูงมาก พาไปวิ่งเป็นกิโลๆ ยังมีแรงป่วนบ้านอีก สุดยอดเลย
20. การแข่งขันน้องหมาขึ้นคร่อม
อย่างที่รู้กันว่าน้องหมาชอบขึ้นคร่อมนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการทางเพศของพวกเขาอย่างที่เราคิดไปเอง เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกร้องความสนใจ การแสดงอำนาจเหนือ รู้สึกเบื่อหน่าย ตื่นเต้นดีใจ หรือเครียด (อ่านเพิ่มเติม บทความ ไขปริศนา! ทำไมน้องหมาถึงมีพฤติกรรมขึ้นคร่อม)ทำให้ผู้เลี้ยงหลายคนโดยเฉพาะในต่างประเทศเห็นพฤติกรรมขึ้นคร่อมเป็นเรื่องน่าขัน สนุกสนาน จึงนำมาจัดการแข่งขันน้องหมาชอบขึ้นคร่อม ว่าน้องหมาตัวไหนสามารถทำท่าขึ้นคร่อมได้นานกว่ากัน รวดเร็ว และดูทรงพลังมากที่สุด! รับไปเลยถ้วยรางวัล!
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
48 VOTES (4/5 จาก 12 คน)
VOTED: น้ำตาลเผ็ด, Pinksweet, จอมยุทธอินดี้, พูดไปก็เท่านั้น, willbe, ชิวชิว, Tikker, lLuCiFeR, ป้าสวย, I AM THOR
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อ้าวพ่อ! 'พ่อรวยสอนลูก' เป็นหนี้-ล้มละลาย-ฉ้อโกง"เชน ธนา" ยอมรับผิดพลาดในการตัดสินใจ ประกาศขายบ้านหรู 200 ล้าน แต่ยังไร้ผู้ซื้อ พร้อมเปิดใจหลังถูกกล่าวหาฉ้อโกงผู้บริหารโรงเรียนดังโคราช ระดมทุนผ้าป่า สร้างลู่วิ่ง 1 ล้านบาท ใช้งานจริงได้เพียงวันเดียว เละเก๋ชนศwติดรถ อ้างตกใจขับหลบหนีขมคอ! ห้างดังย่านลาดพร้าวส้วมแตก! พ่อค้าแม่ค้าย้ายของจ้าละหวั่น! (คลิป)ทนายพัชถอนตัวจากคดีแอม ไซยาไนด์ เตรียมดำเนินคดีกลับฐานให้การเท็จแห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้วรัฐบาลลาวเตรียมดำเนินคดี ผู้ผลิตเหล้าปนเปื้อนเมทานอลวัยทองผู้ชาย เรื่องที่ชายต้องรู้ วิธีรับมืออย่างเข้าใจขยี้ตาแรง! "นิวเคลียร์" หน้าใหม่เป๊ะเวอร์ ผ่านไป 3 เดือนจำแทบไม่ได้หนุ่มงง หญิงผมยาวมาจากไหน ช่วยดับไฟรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันทีเป็นวันจันทร์ ที่เริ่มมีบรรยากาศวันคริสต์มาส ตามร้านสะดวกซื้อแล้วเด้อHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ้าวพ่อ! 'พ่อรวยสอนลูก' เป็นหนี้-ล้มละลาย-ฉ้อโกงเครื่องบินที่ผลิตในรัสเซียเกิดไฟไหม้ หลังลงจอดที่สนามบินของตุรกีรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันทีเป็นวันจันทร์ ที่เริ่มมีบรรยากาศวันคริสต์มาส ตามร้านสะดวกซื้อแล้วเด้อแห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้วผู้บริหารโรงเรียนดังโคราช ระดมทุนผ้าป่า สร้างลู่วิ่ง 1 ล้านบาท ใช้งานจริงได้เพียงวันเดียว เละ