18+ ซาดิสต์ vs มาโซคิสต์ คู่แท้…พิสดาร ?
“…ผู้หญิงคนอื่นๆ อาจใช้เวลาถึงหนึ่งหรือแม้กระทั่งสองชั่วโมงในการทำให้ผู้ชายพวกนี้รู้สึกว่าตนเองได้รับการบำบัด แต่ฉันทำได้ในเวลาเพียงแค่ ๒๐ นาที…จงจำไว้ว่า คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจ และพวกเขาไม่ได้แค่ซื้อเวลาของฉัน แต่ยังต้องกลับไปทำงาน (ให้ทัน) ดังนั้นเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ” และ “ฉันทำสิ่งที่ได้ผลดีและรวดเร็ว เช่น เสียบเข็มหมุดที่หัวนม หรือปักเข็มที่ลูกอัณฑะ บางคนต้องเห็นเลือดตัวเองถึงจะรู้สึกเร้าอารมณ์…” (อูยยยย…แค่นี้ก็พอเห็นภาพนะครับ)
ส่วนในบ้านเราจะมีธุรกิจแนวนี้หรือไม่ ผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ตรง (และไม่คิดอยากจะมีอีกด้วย – ขอยืนยัน ๑,๐๐๐ เปอร์เซ็นต์ !) …แหะ…แหะ
พฤติกรรมซาดิสม์-มาโซคิสม์มีตั้งแต่เบาๆ ไปจนถึงหนักหนาสาหัส เช่น บังคับให้คลาน จับขังกรง ผูกมัดมือเท้า ปิดตา ทุบตี เฆี่ยน เผา ข่มขืนจนถึงฆ่า
อ่านถึงตรงนี้ หลายคน (เกือบทุกคน ?) อาจเกิดทัศนคติว่า ซาดิสต์หรือมาโซคิสต์จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยจิตแพทย์ แต่ในทางจิตเวชมีเกณฑ์วินิจฉัยว่า ซาดิสต์หรือมาโซคิสต์ควรจะเข้าข่ายรับการรักษาเมื่อใด กล่าวคือ ในกรณีของซาดิสต์ เขาหรือเธอได้กระทำต่อผู้ที่ไม่ยินยอม หรือว่าเกิดอาการหดหู่เศร้าหมอง มีปัญหาสัมพันธภาพกับผู้อื่น ส่วนในกรณีของมาโซคิสต์นั้น เขาหรือเธอเกิดรู้สึกหดหู่เศร้าหมอง รู้สึกว่าตนเองบกพร่องทั้งในสังคม อาชีพการงานหรือกิจกรรมอื่นๆ
สมมุติกรณี “ดี” สุดๆ คือสามีเป็นซาดิสต์ และภรรยาเป็นมาโซคิสต์ ทั้งคู่ก็จะสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมพิสดารโดยไม่เดือดร้อนใคร ขณะที่หน้าที่การงานและพฤติกรรมอื่นๆ ของทั้งคู่ก็ปรกติดี แบบนี้จิตแพทย์จะไม่เข้าไปก้าวก่าย และอาจถือเป็นบุพเพสันนิวาสที่ทั้งคู่ได้ “ครองรัก” กันด้วยซ้ำ !
พฤติกรรมของคู่ซาดิสต์-มาโซคิสต์เช่นนี้ มักเรียกว่า sadomasochism แปลว่า พฤติกรรมความเจ็บปวดนิยม และน่ารู้ไว้ด้วยว่าทั้งคู่มักเล่นบทบาทสมมุติที่สอดคล้องกับพฤติกรรมในเรื่องราวหลัก (theme) เช่น ซาดิสต์เล่นเป็นนาย มาโซคิสต์เป็นทาส ซาดิสต์เป็นครูจอมเฮี้ยบ มาโซคิสต์เป็นเด็กดื้อที่ต้องถูกลงโทษ กล่าวคือซาดิสต์เล่นบทบาทความเหนือกว่า (domination) ส่วนมาโซคิสต์เล่นบทบาทความยอมรับ (submission)
บทบาทในพฤติกรรมทางเพศลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับคู่ที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรม เช่น โซ่ แส้ ปลอกคอ สายจูง ฯลฯ ไม่ได้ใช้ทำให้เจ็บปวดจริงๆ จังๆ แต่ใช้ในเชิงสัญลักษณ์เป็นหลัก ในทางจิตเวชจึงระบุว่าต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมซาดิสม์-มาโซคิสม์ (sadomasochistic behavior) แบบเบาะๆ สมยอมกันเช่นนี้ (ซึ่งไม่ต้องเข้ารับการตรวจรักษา) กับพฤติกรรมซาดิสม์ หรือมาโซคิสม์ ที่มีแนวโน้มทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
อะไรหนอเป็นสาเหตุของพฤติกรรมซาดิสม์และมาโซคิสม์ ?
ในปัจจุบันยังไม่มีแนวคิดใดๆ ที่ได้รับการยอมรับว่าอธิบายครอบคลุมได้ทุกกรณี แต่มีมุมมองต่างๆ จากสำนักจิตวิทยา ตัวอย่างเช่น นักพฤติกรรมนิยมเสนอว่า พฤติกรรมซาดิสม์อาจเกิดจากทั้งการที่ผู้นั้น (โดยเฉพาะเด็กหรือวัยรุ่น) เห็นตัวอย่างพฤติกรรมจากสื่อแล้วปฏิบัติตาม เรียกว่า การมีตัวแบบ (modeling) หรืออาจเกิดจากความบังเอิญพ้องกันของการทำให้ผู้อื่นรู้สึกเจ็บปวดกับการกระตุ้นทางเพศ ทำให้ต่อมาเมื่อทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดอีก ก็เกิดรู้สึกเร้าอารมณ์ได้ เรียกว่า การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก (classical conditioning)
น่าสนใจว่า ในกรณีของพฤติกรรมมาโซคิสม์นั้น มีหลายกรณีอธิบายได้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกนี้ เช่น เด็กวัยรุ่นแขนหักได้รับการประคองไว้โดยพยาบาลสาวแสนเซ็กซี่ ขณะที่แพทย์กำลังรักษาแขนของเขาโดยไม่ได้ใช้ยาสลบ ต่อมาเด็กคนนี้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นเมื่อตนเองได้รับความเจ็บปวด เป็นต้น
ภาพจาก google