ความจริงเรื่องไข่ๆ
ไข่มีคอเรสเตอรอลสูง จริงหรือไม่ ?
ไข่ไก่เบอร์ 1 หนึ่งฟองมีคอเลสเตอรอลมากถึง 210 มิลลิกรัมก็จริง แต่ผลวิจัยพบว่า คนที่กินไข่สัปดาห์ละ 4 ฟองมีคอเลสเตอรอลต่ำกว่าคนที่กินไข่สัปดาห์ละ 1 ฟองหรือไม่กินไข่เลย ความเป็นไปได้ของผลการทดลองนี้อาจเป็นเพราะ ไข่มีโปรตีนสูงและมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างต่ำ ทำให้อิ่มนาน และความอิ่มนี่เองมีส่วนทำให้กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อ อาหารประเภท “ผัดๆ ทอดๆ” และทานจุบจิบน้อยลง แต่ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้คอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูงคือ ไขมันอิ่มตัวที่มีมากใน กะทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู การกินเนื้อมากเกิน (เนื้อที่เห็นเป็นเนื้อแดงก็มีไขมันแฝงอยู่มาก) ฯลฯ และที่ร้ายที่สุดคือ ไขมันทรานส์หรือไขมันแปรสภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการนำไขมันพืชไปเติมไฮโดรเจน ทำให้เกิดเป็นเนยขาว เนยเทียม ครีมเทียม ที่ใช้ในการทำเบเกอร์รี่ ขนมกรุบกรอบ อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ แนวทางในการลดคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดนั้นก็คือ การลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ และ การออกแรง-ออกกำลังให้มากพอเป็นประจำ และการกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลให้น้อยลงต่างหากที่จะมานั่งกังวลเรื่องการรับประทานไข่
ไข่มีโคลีนสูง
โคลีน (choline) เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะผนังเซลล์ของสมองและเซลล์ประสาท เป็นองค์ประกอบของสารสื่อประสาทที่สมองใช้ในการสื่อสารภายใน (คล้ายๆ จุดเชื่อมหรือ router ของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต) คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งของโคลีนคือ ออกฤทธิ์ในต้านการอักเสบ หรือป้องกันไม่ให้ธาตุไฟในร่างกายกำเริบ ในระดับหนึ่งการอักเสบนี้มีผลมากเป็นพิเศษที่ผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดที่มีการอักเสบจนบวม และสูญเสียความเรียบลื่นไป ทำให้คราบไขมันไปพอก หรือเกล็ดเลือดไปเกาะกลุ่มได้ง่าย ไข่ 1 ฟองให้โคลีนมากประมาณ 30% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน การกินไข่จึงเปรียบคล้ายการซื้อ “ประกันชีวิต” ในเรื่องอาหารคุณค่าสูงว่า โอกาสขาดสารอาหารจะลดลงไปมากมาย
ไข่แดงใช่ว่ามีแต่โทษ
ความจริงแล้วไข่แดงช่วยบำรุงสายตา เพราะมีสารลูทีน-ซีแซนทีน ทำให้ความเสี่ยงเป็นโรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุลดลง ลูทีน-ซีแซนทีนเป็นสารพฤกษเคมีหรือสารคุณค่าพืชผักกลุ่ม “สีเหลือง-แสด” ช่วยปัองกันจอรับภาพเรทินา โดยทำหน้าที่เป็นตัวกรอง แสงสีน้ำเงินหรือฟ้า และรังสี UV ทำให้ความลดเสี่ยงในการเกิดโรคตาเสื่อมสภาพ หรือตาบอดในคนสูงอายุได้
ไข่กินแล้วอ้วนจริงหรือไม่ ?
จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนที่กินไข่เป็นอาหารเช้ามีโอกาสลดน้ำหนักและเส้นรอบเอวสำเร็จมากกว่าคนที่กินขนมปังเป็นอาหารเช้า เนื่องจากไข่มีโปรตีนคุณภาพสูง ทำให้อิ่มนาน และอย่าลืมว่า ไม่ใช่กินอาหารเท่าเดิมแล้วเสริมไข่เข้าไป แต่ต้องใช้หลัก “อาหารทดแทน” ด้วย คือ กินไข่เข้าไป แล้วลดอาหารอย่างอื่นให้น้อยลงจึงจะได้ผล
ข้อแนะนำเกี่ยวกับการกินไข่ที่เหมาะสมตามแต่ละกลุ่มวัยมีดังนี้
- สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถทานไข่แดงต้มสุขผสมกับข้าวบด โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆก่อนแล้วจึงค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้น ส่วนเด็กที่อายุ 1 ปีขึ้นไป จนถึงวัยรุ่น สามารถทานไข่วันละ 1 ฟอง
- วัยทำงานที่มีสุขภาพปกติ ไม่มีโรค สามาถทานไข่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
- นักกีฬาหรือู้ต้องการสร้างกล้ามเนื้อที่ออกกำลังกายสามารถทานได้ตามปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการ โดยคำนวนจาก น้ำหนักตัว ส่วนสูงและอายุ และ อาจลดการทานไข่แดง เพื่อเลี่ยงคอเรสเตอรอลที่มากับไข่แดง
- สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สามารถทานไข่ 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์