9 สุดยอดที่เที่ยวฝาแฝดเมืองไทย ที่ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก
เมืองไทยถือว่าโชคดีมากๆ ที่ต่างประเทศเค้ามีที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอะไรสวยๆ เด่นๆ เมืองไทยเราก็ไม่น้อยหน้า เราก็มักจะมีที่เด่นๆสวยๆเหมือนของต่างชาติอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย,ฟูจิเมืองไทย,มัลดีฟส์เมืองไทย หรืออีกหลายๆที่ สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินหรืออยากจะไปสัมผัสว่าเหมือนจริงมั้ย ก็มาลองดู 9 ที่เที่ยวเมืองไทย ที่ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก ก็ได้บรรยากาศเหมือนไปชมต้นแบบแท้ๆเลย จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ
1.เกาะนามิเมืองไทย สวนสนบ่อแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
เกาะนามิ เกาหลี
คอซีรีส์เกาหลีที่ติดใจความงามและความเป็นธรรมชาติของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง “เกาะนามิ” วันนี้ไม่ต้องตีตั๋วไปไกลก็สัมผัสความงามแบบ “นามิเมืองไทย”ได้ที่ “สวนสนบ่อแก้ว เชียงใหม่” หรือชื่อแบบเต็มๆว่า “สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว” สวนสนแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนสาย 108 ภายในสวนเต็มไปด้วยต้นสนสูงใหญ่ปลูกเรียงอย่างเป็นระเบียบสวยงาม มีถนนทอดผ่านนำสายตาเข้าไปในดงสนสูงใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากๆ ภาพแสงแดดอ่อนๆ ที่ค่อยๆทาบทอลงมากระทบกับต้นสน และทิวสน เกิดเป็นภาพสวนสนสุดโรแมนติก ชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี ก็ได้บรรยากาศ “เกาะนามิ” ไปแบบเต็มๆ
.
2. ทะเลสาบอินเลเมืองไทย สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ทะเลสาบอินเล พม่า
ทะเลสาบอินเลเมืองไทย
ภาพบรรยากาศอันสวยงาม และ สงบเงียบของ ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบสวยท่ามกลางหุบเขาที่สวยงามของรัฐฉาน ประเทศพม่า เป็นอีกหนึ่งภาพงามที่หลายคนติดตาต้องใจ แต่รู้หรือไม่ ที่ สังขละบุรี จังหวัด กาญจนบุรี ก็มีบรรยากาศสวยงามและสงบ ร่มรื่น ไม่ต่างกัน หากมาเยือน สังขละบุรี ภาพวิถีชีวิตริมน้ำ การปลูกสร้างบ้านในทะเลสาบ ไปจนถึง ความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อม ทำให้ใครหลายต่อหลายคน ต่างยกนิ้วให้ที่นี่เป็น อีกหนึ่งสถานที่ฝาแฝดของ ทะเลสาบอินเล อยากรู้ว่าจะสวยงาม และ เหมือนกันมากแค่ไหน ต้องลองไปชมด้วยตาตนเอง บอกเลยว่าที่นี่เที่ยวได้ตลอดปี แต่ล่ะฤดูก็มีความงดงามแตกต่างกัน รับรองว่ามาแล้วต้องประทับใจอย่างแน่นอน
.
3.คุนหมิง เมืองไทย สวนหินผางาม จังหวัดเลย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดใจบรรยากาศเขียวชอุ่ม มีภูเขาสูงอุดมสมบูรณ์และแม่น้ำลำธารห้อมล้อม บริเวณโดยรอบมีหุบเขาอันลึกลับ ป่าหิน ถ้ำหิน และถ้ำหินย้อยมากมาย ที่สำคัญอากาศดีมากๆ อย่างคุนหมิน ประเทศจีนล่ะก็ วันนี้ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองจีน พี่ไทยของเราก็มีทัศนียภาพแบบนี้ให้ได้ชื่นชมกัน ที่สำคัญ อากาศดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว นั่นคือที่ “สวนหินผางาม จ.เลย” หรือที่ใครๆพากันเรียกว่า “คุนหมิงเมืองไทย” ณ ที่นี่ จะได้พบกับ แนวผาหินปูนสูงใหญ่ทอดตัวเป็นแนวยาว โดดเด่นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี ภายในมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายาก และต้นไม้ยักษ์ อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี อากาศภายในเย็นสบาย ถ้ามีเวลาไม่มาก แนะนำมาที่นี่รับรองจะรู้สึกเหมือนไปเยือนคุนหมิงในเวลาอันรวดเร็ว
.
4. กุ้ยหลินเมืองไทย เขาสก เขื่อนรัชชประภา จังหวัด สุราษฎร์ธานี
ตกหลุมรักในความงามแบบถอนตัวไม่ขึ้นกันไปเลยทีเดียว กับ กุ้ยหลินเมืองไทย ที่ เขื่อนรัชชประภา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ยิ่งละคร “ลมซ่อนรัก” พาคู่พระนาง แต้ว – ณเดชน์ ไปสวีตหวาน พาให้ “ขาจิ้น” ได้ “ฟิน” กันทั่วหน้า ยิ่งทำให้ใครๆก็อยากไปสัมผัสความงามของกุ้ยหลินเมืองไทยกันแทบทั้งสิ้น ภาพบรรยากาศน้ำสีฟ้าเขียวสดใส ท่ามกลางหุบเขาที่อุดมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี และสายหมอกที่คละคลุ้มปกคลุมท้องน้ำ และความงดงามทางธรรมชาติของเขาสามเกลอที่วางเรียงราย ดูอย่างไรก็ละม้าย “กุ้ยหลิน” ที่เที่ยวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของจีนเป็นอย่างยิ่งด้วยแล้ว ทำให้ที่นี่เป็นอีก 1 สถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ ที่สักวันอยากให้คุณได้ไปสัมผัสด้วยตาตนเอง
.
5. จิ่วจ้ายโกว เมืองไทย สระมรกต คลองท่อม จังหวัด กระบี่
จิ่วจ้ายโจวจีน
จิ่วจ้ายโจวเมืองไทย
หากพูดถึง “ จิ่วจ้ายโกว” พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน หลายคนคงจะนึกถึงความสวยงามของน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบน้ำใส ปกคลุมไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกที่ “จีน”ภาคภูมิใจ และมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่องตลอดปี แต่เชื่อหรือไม่ว่า ความงามใกล้เคียงกันกับ “ จิ่วจ้ายโกว” มีอยู่แล้วที่เมืองไทย กับ “สระมรกต คลองท่อม จังหวัดกระบี่” ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “จิ่วจ้ายโกว” เมืองไทย สาเหตุเป็นเพราะความงดงามของธารน้ำใส มีผืนป่าขนาดใหญ่โอบล้อม ที่สำคัญบริเวณต้นกำเนิดของตัวสระมรกต ยังเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มาเยือนที่นี่นอกจากจะได้รับความสุขจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ และความร่มรื่นจากธรรมชาติ ยังทำให้เย็นสบาย ผ่อนคลายจากภารกิจการงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
.
6.มัลดีฟท์เมืองไทย เกาะพยาม จังหวัด ระนอง
ถ้าหนึ่งในความฝันของคุณ คือ การได้ไปเยือน เกาะที่สวยงามอย่าง “มัลดีฟส์” แต่เวลาและเงินในกระเป๋าตังส์ไม่เอื้ออำนวย ลองแวะมาที่ “เกาะพยาม จังหวัดระนอง” ดูสักครั้งสิ รับรองคุณจะติดใจ เพราะที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็น “มัลดีฟท์เมืองไทย” ที่มีทั้งความสวยงาม เป็นธรรมชาติ มีความสงบร่มรื่น น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาว ทิวมะพร้าวเป็นแนวยาว ที่สำคัญที่นี่ยังเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะ มีความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิม ตอนกลางของเกาะเป็นภูเขา มีป่าไม้และสัตว์ป่า ประเภท นก ลิง และหมูป่า พื้นที่บางส่วนเป็นสวน ชาวบ้านบนเกาะมีอาชีพทำสวน มะพร้าว สวนยาง และสวนกาหยู ลักษณะรอบ ๆ ชายฝั่งเป็นอ่าวสลับกับโขดหิน และหาดทราย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความเจริญเพื่อมาพักใจอย่างแท้จริง รู้แบบนี้แล้วจะรออะไรอยู่ มัลดีฟท์เมืองไทย อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นเอง
.
7.ไนแองการ่าเมืองไทย น้ำตกแก่งโสภา จังหวัดพิษณุโลก
น้ำตกไนแองการ่า อเมริกา – แคนาดา
น้ำตกไนแองการ่าเมืองไทย
อากาศร้อนๆแบบนี้ หลายคนอยากไปกระโดดน้ำให้ชุ่มฉ่ำ ที่น้ำตกไนแองการ่า น้ำตกใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างแคนาดากับสหรัฐอเมริกากันอยู่ใช่มั้ยล่ะ แต่กว่าจะทำวีซ่า ขอพาสปอร์ต เก็บตังส์ คงใช้เวลานาน สู้ไปใกล้ๆ แค่พิษณุโลกก็สามารถสัมผัสกับความสวยงาม และชุ่มฉ่ำของ “ไนแองการ่าเมืองไทย” กันได้แล้ว ที่ น้ำตกแก่งโสภา อำเภอ วังทอง จังหวัด พิษณุโลก นี่เอง ที่น้ำตกแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “ไนแองการ่าเมืองไทย” สาเหตุมาจากการที่มีขนาดใหญ่ สูงประมาณ 40 เมตร ภายในน้ำตกประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ ทั้งหมด 3 ชั้น บริเวณด้านบนมีลักษณะเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่วางขวางอยู่กลางทางน้ำ ส่วนด้านล่างมีโขดหินขนาดย่อมกระจายตัวอยู่ทั่วไป ช่วงที่ดีที่สุดแนะนำให้มาเล่นในฤดูหนาว – ฤดูร้อน เพราะสายน้ำจะอยู่ในระดับกำลังดี ไม่ไหลแรงจนเกินไป ทั้งยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพของน้ำตกได้ถึง 3 ชั้นอีกด้วย บอกเลยความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนกันเลยจริงๆ
.
8. ภูเขาไฟฟูจิเมืองไทย ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
ภูเขาไฟฟูจิ ญี่ปุ่น
ฟูจิเมืองไทย
อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติในไทย ที่สวยงามละม้ายต่างชาติ ต้องยกให้ที่นี่ “ฟูจิเมืองเลย” หรือ ภูป่าเปาะ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเลย ที่ว่ากันว่าทัศนียภาพและบรรยากาศของที่นี่สวยงามประหนึ่งเทือกเขาฟูจิ สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ภาพภูเขาสูงโดดเด่นตระหง่าน มีทะเลหมอกปกคลุม เผยให้เห็นส่วนยอดโผล่จากไอหมอก มองดูคล้ายส่วนบนของยอดภูเขาไฟฟูจิ จนหากมองเผินๆ หรือ เปรียบเทียบจากภาพถ่าย หลายคนอาจจะแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ยิ่งได้มามองหรือสัมผัสความงาม ณ จุดชมวิวด้วยแล้ว ภาพงามตรงหน้าจะทำให้คุณลืมไปเลยว่า ยังอยู่ในเมืองไทย
.
9. ซาฮาร่า เมืองไทย หาดหงส์ จังหวัดอุบลราชธานี
ทะเลทรายซาฮาร่า
ซาฮาร่าเมืองไทย
หากพูดถึงทะเลทรายซาฮาร่า หลายคนคงคิดว่าเป็น 1 ในที่เที่ยวที่อยากไป แต่ติดตรงที่ทั้งร้อน แห้งแล้งและอยู่ไกล ต้องไปถึงดินแดนตะวันออกกลางถึงจะได้สัมผัส จึงอาจจะมีน้อยคนนักที่จะไปเยือน แต่เชื่อหรือไม่ไม่ต้องไปไกลก็สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ แค่ จังหวัดอุบลราชธานี นี่เอง กับที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ซาฮาร่าเมืองไทย อย่าง หาดหงส์ จังหวัดอุบลราชธานี อีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่จะได้พบกับเนินทรายริมแม่น้ำโขงขนาดมหึมา เกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกันจนเกิดเป็นพื้นทรายขนาดกว้างใหญ่ คล้ายทะเลทราย ช่วงเวลาสวยงามเหมาะกับการมาเยี่ยมชม ยกให้กับช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า แสงทองของดวงอาทิตย์จะกระทบกับทรายสีขาวระยิบระยับสวยงามแปลกตา หากได้มารับรองว่าจะต้องประทับใจ
ที่เที่ยวสวยงามในเมืองไทยยังมีมาให้คุณได้ชื่นชมอีกมากมาย ไม่ต้องไปไกลถึงต่างแดนเราก็มีสถานที่สวยงามเหลือแสนรออยู่ แล้วจะช้าอยู่ไย วันหยุดครั้งต่อไปแพ็คกระเป๋าไว้ให้พร้อม แล้วลุยกันเลย!!!