Blue Light แสงสีฟ้า ภัยร้ายต่อดวงตาคุณ
เชื่อว่าทุกวันนี้สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่เราจะต้องเจอะเจอกับมันมากที่สุด ซึ่งเจ้าแสงจากหน้าจอเหล่านั้นก็ไม่ได้หวังดีต่อดวงตาและสุขภาพของเรานัก เพราะฉะนั้นแล้วเราควรที่จะทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับมันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที ก่อนที่จะสายเกินไป
Blue Light หรือ แสงสีน้ำเงิน มีอยู่ในอุปกรณ์ใกล้ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แท็บเลต ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาใกล้เคียงกับแสงยูวี แสงสีฟ้ามีช่วงความยาวคลื่นต่ำ 400-500 นาโนเมตร สามารถทะลวงได้ถึงจอประสาทตา ทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์จอประสาทตาให้เสื่อมได้
เมลาโทนินที่หลั่งออกมาในเวลากลางคืน เกี่ยวข้องกับประสาทตา จะช่วยควบคุมระบบการทำงานของอวัยวะภายในและต่อมไร้ท่อต่างๆ ในร่างกาย ให้เป็นไปตามธรรมชาติ หากมีแสงสีฟ้ามากระทบจอประสาทตา เมลาโทนินจะหลั่งน้อยลงกระทบถึงระบบไหลเวียนโลหิต
ปัญหาของแสงสีฟ้า เกิดจากการสะสมไปเรื่อยๆ ทำให้มีอาการนอนไม่หลับอย่างเห็นได้ชัด พอพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนแอ ก็เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต เช่น หลอดเลือดหัวใจ โลหิตจาง โรคในกลุ่มเมตาบอลิคซินโดรม และเบาหวาน
ผลกระทบจากแสงสีฟ้าต่อดวงตา หากสว่างมากๆ จะทำให้ตาล้าได้ง่าย ถ้าหรี่แสงให้สว่างน้อย ดวงตาก็จะต้องเพ่งมากขึ้น ยิ่งเพ่งมองนานก็จะกะพริบตาน้อยลง อาการที่เกิดกับจอรับภาพ กระจกตา เลนส์ตา จอประสาท ที่ตามมา คือ แสบตา มองเห็นไม่ปกติ เห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด ปวดตา กล้ามเนื้ออ่อนล้า ถึงขั้นร้ายแรงจอประสาทตาทะลุ และลืมตาไม่ขึ้น
วิธีป้องกันคือ ใช้แว่นกรองแสงติดฟิล์มที่สามารถตัดแสงสีฟ้า ก็สามารถช่วยป้องกันอันตรายได้ หรือตรวจเช็คดวงตาปีละ 1 หน ที่สำคัญที่สุดคือการปรับพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในระยะเวลาที่เหมาะสม เลือกใช้โหมดปรับลดอุณหภูมิสี หรือปรับความสว่างภาพได้ตามความเหมาะสมกับผู้ใช้ ครับ