วิธีเลิกคิดถึงใครบางคน จิตวิทยาแห่งการปล่อยวาง
บางครั้งทุกคนก็ดิ้นรนที่จะปล่อยวาง แต่โชคดีที่มีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์และเรามีข้อแนะนำเกี่ยวกับการเลิกคิดถึงใครบางคน คุณควรตั้งเป้าให้น่าตื่นเต้นเพื่อสร้างความกระตือรือร้นในอนาคต ความสนใจของคุณจะถูกเบี่ยงเบนไปจากอดีตขณะที่คุณกำลังต้อนรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ความโกรธเปรียบเสมือนดาบสองคม ต่อให้คุณชี้ไปทางใคร คุณก็จะรู้สึกเจ็บปวดมากไม่แพ้กัน พยายามเปิดใจให้กว้างเพื่อที่คุณจะได้ให้อภัยและลืมทุกอย่างทิ้งไป บ่อยครั้งที่ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งจะได้รับบททดสอบสุดหิน สถานการณ์ความเจ็บปวดทำให้จิตใจของเราแข็งแกร่งขึ้นและก้าวผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ เราสามารถยื่นมือให้คนอื่นที่กำลังโศกเศร้าและพูดว่า “ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว เธอจะต้องผ่านมันไปได้ เพราะว่าทุกคนทำได้”
การเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เราประหยัดเวลาไปได้ ลองอ่านบทความนี้ดูแล้วคุณจะรู้ว่าเราจะเลิกคิดถึงใครบางคนที่เคยทำให้เราเจ็บปวดได้อย่างไร
เราไม่จำเป็นต้องเอาทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตมาคิดหรอกเพราะสิ่งเหล่านั้นก็เป็นแค่อดีต สูดลมหายใจลึกๆและหมั่นจำใส่สมองไว้ว่าความยากลำบากจะค่อยๆทุเลาลงทีละน้อย ทำให้คุณเป็นอิสระและโลดแล่นได้ไม่ต่างจากนักแสดงในละครสัตว์ จงมองเห็นตัวเองมีความสุขกับชีวิต ล้อมรอบด้วยความสำเร็จและคนที่คุณรัก คุณสามารถมีชีวิตตามที่ใฝ่ฝันได้ จงเลือกที่จะมีความสุข สร้างแรงบันดาลใจและพยายามคิดในแง่บวกไม่ว่าจะเป็นในรถ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องทำงานของคุณ โชคชะตาไม่ได้ลิขิตชีวิตคุณ แต่เป็นตัวคุณเองต่างหากที่สร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม
2. ทิ้งสิ่งเก่าๆและมองหาสิ่งใหม่ๆ
คุณไม่จำเป็นต้องจดจำทุกสิ่งที่ทำให้คุณเศร้าและโดดเดี่ยว คุณควรสนใจแต่สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ เอาล่ะเรามาสลัดสิ่งเก่าๆทิ้งและแปลงโฉมให้ตัวเองดูสดใสกันดีกว่า หาเสื้อผ้าใหม่ๆ น้ำหอมกลิ่นใหม่ รองเท้าบู๊ทคู่ใหม่ หรือแม้แต่ผมทรงใหม่
3. เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ที่เบาลง
หากคุณรู้สึกผิดหรือโกรธขณะที่กำลังเล่าเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ รับรองว่าบรรยากาศโดยรวมคงไม่ค่อยดีแน่ แทนที่จะชี้หน้าว่าเขาคือคนที่ทำให้คุณแย่ คุณควรรู้ว่าการเป็นมนุษย์น่ะบางครั้งมันก็ยากและตอนนี้ได้เวลาที่ต้องเดินต่อไปแล้ว บางครั้งคุณควรบอกทุกคนว่าคุณไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกให้ปัญหาทุกอย่างหายไปได้และคุณก็ทำดีที่สุดแล้ว หรือคุณอาจพูดว่า “ครั้งนี้เราอาจทำได้ไม่ดีแต่คราวหน้าเรามีประสบการณ์และรู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไปดี เราสามารถเรียนรู้ความผิดพลาดจากในอดีตได้” อย่าทำโทษตัวเองเกินจำเป็น เพียงตบไปที่ข้อมือเบาๆและก้าวเดินต่อไป
4. ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้
หากคุณมัวแต่นั่งดูทีวี กินพิซซ่า ชีวิตของคุณก็วนเวียนอยู่แค่นี้แหละ ลองมองหางานอดิเรกใหม่ๆ วางแผนสิ่งต่างๆ เข้าร่วมกลุ่ม นัดเพื่อนมาเจอกัน และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ คุณควรตั้งเป้าและวางแผนเพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย คุณจะรู้สึกฮึกเหิม มุ่งมั่นอยู่ในโลกของความจริง อย่ามัวหลงระเริงอยู่กับภาพลวงตาในอดีตที่ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
5. นึกถึงอะไรก็ได้ 12 อย่างที่คุณรู้สึกดี
สมองของคนเราบางครั้งก็มีความรู้สึกที่ไม่ซับซ้อน มันสามารถโฟกัสเรื่องราวบางอย่างได้ทีละเรื่อง งั้นเราก็ควรโฟกัสแต่เรื่องดีๆสิ เมื่อคุณเริ่มนึกถึงสิ่งดีๆ 12 เรื่อง ความพยายามในการจดจำทั้ง 12 เรื่องพร้อมๆกันจะทำให้คุณลืมนึกถึงคนรักเก่า ลองคิดถึงเรื่องง่ายๆที่คุณมีพร้อมแต่คนอื่นไม่มีสิ เช่น งาน บ้าน อาหาร เตียงนอน ความสามารถในการพูด และบรรดาเพื่อนๆที่รักคุณ เห็นไหมล่ะชีวิตของคุณก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว จริงๆแล้ววิเศษมากเลยล่ะ
6. หางานอดิเรกใหม่ๆ
เลือกสิ่งที่คุณสนใจที่จะเรียนรู้จริงๆ เลือกอ่านนิตยสารหรือชมภาพยนตร์ที่คุณสนใจ บางทีคุณอาจจะเริ่มเขียนหนังสือ ฝึกโยคะ หรือคิดค้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของตัวเอง หรือไม่ก็ลองตกแต่งบ้านในสไตล์ใหม่ๆก็ได้ นอกจากกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยบริหารสมองของคุณ มันยังสร้างสื่อประสาทใหม่ๆขึ้นมาอีกด้วย ที่สำคัญมันจะช่วยกีดกันอดีตของคุณออกไป
7. เป็นอาสาสมัคร
เลิกๆๆจมอยู่กับความทุกข์และออกไปทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กันดีกว่า ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากห้วงความคิดแย่ๆไปได้คือการไม่นึกถึงแต่ตัวเองและทำตัวให้เป็นประโยชน์ การคิดบวกสามารถเอาชนะความคิดในแง่ลบได้ทุกครั้ง
8. สร้างเป้าหมายในชีวิตและขีดเส้นตายไว้
อะไรคือเป้าหมายที่คุณตั้งไว้? ลดน้ำหนัก 10 ปอนด์ในสองสัปดาห์เหรอ? ไปเที่ยวฝรั่งเศสในหนึ่งเดือนนี้เหรอ? งั้นก็รีบวางแผนซะ! คราวนี้ลองกำหนดเส้นตายเพื่อที่คุณจะได้เร่งมือเร่งเท้าก้าวเข้าสู่ความสำเร็จ นี่คือเคล็ดลับช่วยลงทุนทั้งในเรื่องอารมณ์และเรื่องเงิน อย่ามัวแต่ตามหาความสมบูรณ์แบบ แต่จงสร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองและทำทุกอย่างด้วยความสุข
9. อย่าอีโก้สูง
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราปล่อยวางลำบากคือการที่อีโก้มักจะคอยบอกเราว่าเราน่ะคือคนสำคัญ เราไม่ผิด และเราสามารถเอาชนะใครๆก็ได้ ดังนั้นคุณควรหันหน้าเข้าหากระดานวาดรูป หรือนั่งไตร่ตรองกับตัวเองแล้วคิดทบทวนว่าคุณควรปรับปรุงตัวตรงไหนบ้างและก้าวต่อไปอย่างมั่นคง เลิกโทรหาเขา เลิกส่งข้อความหาเขา และเลิกส่องความเคลื่อนไหวบนหน้า Facebook ของเขาด้วย
10. อย่าคิดแต่ว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายถูก
บางทีคุณอาจเจ็บช้ำน้ำใจกับคำพูดของเขา แต่คุณไม่จำเป็นต้องบีบคั้นเพื่อเอาคำขอโทษจากเขาให้ได้ คุณแค่เป็นฝ่ายจบและต้อนรับสิ่งใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาจะดีกว่า ตอบสนองชีวิตของคุณด้วยการอยู่ท่ามกลางคนที่คิดบวก วางแผนทำสิ่งต่างๆเพื่อคนที่คุณรักในโอกาสพิเศษเช่น วันเกิด หรือวันหยุด ท้ายที่สุดคนที่ใช่สำหรับคุณก็อาจจะเข้ามาแทนที่คนรักเก่าในไม่ช้า
11. ไขว่คว้าหาการเปลี่ยนแปลง
เมื่อสมองของเราจมอยู่กับอดีต เราจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้ ดังนั้นเราจึงควรเชื้อเชิญการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นเต้นเข้ามาในชีวิต เช่น การตกแต่งหรือเพิ่มสีสันใหม่ๆให้กับสิ่งที่อยู่รอบข้าง จากนั้นลองคิดดูว่าคุณอยากย้ายบ้านหรือเปลี่ยนงานใหม่หรือไม่ บางครั้งการโยกย้ายก็หมายถึงการโยกย้ายสิ่งไม่ดีออกไปจริงๆ นอกจากนี้อย่าทำอะไรซ้ำๆ เช่น รับประทานอาหารซ้ำๆ ฟังเพลงเดิมซ้ำๆ การเปลี่ยนแปลงจะทำให้ชีวิตของคุณสดใสขึ้น ไม่มีอะไรฉุดรั้งคุณไว้ได้หากคุณรู้จักเปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆในแง่บวก สำหรับฉันขอแนะนำการฝึกโยคะ การฝึกโยคะจะทำให้เราอยู่กับปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ เมื่อคุณทรงตัวบนขาข้างหนึ่งและพยายามไม่ให้ตัวเองล้ม นั่นล่ะคุณต้องอยู่กับปัจจุบัน โยคะคือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการบอกให้รู้ว่าสมองทำงานอย่างไร เราต้องมีสมาธิในสิ่งที่กำลังทำ คิดถึงอย่างอื่นไม่ได้เลย การฝึกโยคะทุกวันจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟีน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างประสบการณ์และปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆในสังคมที่จะทำให้ชีวิตของคุณก้าวไปข้างหน้า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก issue247