กำลังใจดีๆ! ผู้หญิงคนนี้โพสต์รูปเปลือยอกลงเว็บโซเชียล แล้วบอกว่าไม่อายเลยสักนิดที่เธอได้โชว์ให้เห็นบาดแผลร่องรอยจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านมออกไป
ก่อนหน้านี้อลิสัน สาววัย 39 ปี ได้โพสต์รูปเปลือยท่อนบนของเธอลงในเว็บโซเชียล แต่รูปของเธอไม่ถูกด่าว่าอุจาด กลับได้รับคำชมจากผู้คนมากมาย นั่นเป็นเพราะว่ารูปของอลิสัน ได้โชว์ให้เห็นบาดแผลร่องรอยจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านมออกไป เธอบอกกับทุกคนว่า "ฉันไม่รู้สึกอับอายขายหน้าเลยค่ะ"
คนในครอบครัวของอลิสันเคยมีประวัติการเป็นมะเร็งมาก่อน และแล้วในปี 2012 เธอก็คลำพบก้อนที่เต้านมข้างขวา เมื่อไปให้แพทย์ตรวจ แพทย์บอกว่าเป็นเพียงเนื้องอกเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานนัก อลิสันรู้สึกว่าก้อนในเต้านมข้างขวาโตขึ้นเรื่อยๆ จึงกลับไปที่โรงพยาบาลขอให้หมอผ่าตัดออก หลังจากได้ตรวจอีกครั้ง ทางโรงพยาบาลกลับบอกว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 อลิสันช็อคมาก เพราะตัวเองเพิ่งอายุ 30 กว่าๆเท่านั้น ทำไมถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้
สามีของอลิสันมาถึงโรงพยาบาล เห็นสีหน้าท่าทางของอลิสันก็รู้ได้ว่ามีเรื่องที่หนักใจที่สุดเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาทั้งสองจึงกอดกันร้องไห้
เมื่อเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือคีโมก็ยังพอมีโอกาสรอด อลิสันจึงปรับสภาพจิตใจเสียใหม่ ด้วยการคิดบวกและเผชิญกับเรื่องนี้ให้ได้
อลิสันของให้สามีของเธอโกนผมให้เกลี้ยง
อลิสันไม่อยากรอให้ผมร่วงหมดทั้ลฟัวเองหลังทำคีโม เธออยากจะสู้กับมันอย่างเต็มทีี่
หลังจากทำคีโม อลิสันก็สู้กับเนื้อร้ายนี้ได้สำเร็จ และต้องตัดเต้านมข้างขวาทิ้ง
เนื่องจากครอบครัวของอลิสันมีประวัติการเป็นมะเร็ง หมอจึงบอกเธอว่า มีสิทธิกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำอีกนะ ดังนั้น เธอจึงขอให้หมอตัดเต้านมข้างซ้ายของเธอทิ้งไปด้วย
อลิสันไม่อยากใช้ชีวิตไปกับการลุ้นว่าระเบิดที่เหลืออีกลูกจะระเบิดตูมขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เธอจึงยอมตัดใจ ตัดเต้านมที่เหลือทิ้
หลังออกจากโรงพยาบาล อลิสันต้องเทคฮอร์โมนและบำรุงร่างกายของเธอยกใหญ่ ผมของเธอค่อยๆกลับมางอกอีกครั้ง เธอได้กลับไปทำงานที่คุ้นเคย ค่อยๆฟื้นตัวกลับมาใช้ชีวิตเหมือนกับก่อนเป็นมะเร็ง อลิสันได้เข้าไปแชร์ประสบการณ์ในเว็บโซเชียล และเธอก็บังเอิญพบว่าคนที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม มักมีความอับอาย รับไม่ได้กับแผลเป็นจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านม
อลิสันจึงตัดสินใจโพสต์ภาพของเธอลงในเฟซบุ๊คให้ทุกคนได้เห็นว่า "รอยแผลเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายขายหน้าเลยแม้แต่น้อย มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันภูมิใจว่า ฉันเคยเอาชนะมะเร็งมาแล้วค่ะ"
ขอยกนิ้วให้กับความคิดในแง่บวกและหัวใจที่กล้าหาญของเธอ การเผชิญหน้ากับร่องรอยบาดแผลจากการรักษามะเร็งไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายแต่อย่างใด แชร์เรื่องนี้ออกไปเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งกันเถอะ!