CU-TAD มีความสำคัญแค่ไหน ถึงเรียกว่า สอบติด INDA
บทความเหล่านี้สืบเนื่องมาจากคำถามที่ได้รับการถามเข้ามาทั้งจากทางโทรศัพท์ FB line etc. ก็ขอแปะบทความแนะแนวพร้อม Artwork สวยๆ ไว้นะครับ เผื่อใครมีโอกาสเข้ามาอ่าน
Q? : เราต้องสอบให้ได้คะแนน CU-TAD สูงแค่ไหนคะ ถึงสอบติด INDA แล้ว อะไรคือเกณฑ์มาตราฐานในการทำข้อสอบ คะแนนวัดจากอะไร ทำไมบางคนวาดสวยได้คะแนนน้อย บางคนวาดแย่มากคะแนนเอามายังดีกว่าอีก...? แล้วจำเป็นมั้ยที่จะต้องไปติวเตรียมตัวสอบ
A. : เป็นอีกคำถามสุดคลาสสิกที่ต้องตอบมาทุกๆปี ชี้แจงถึงความสำคัญ นั่น นู่น นี่ บลาๆๆๆ.....
CU-TAD - CHULALONGKORN UNIVERSITY TEST OF APTITUDE IN DESIGN
คำแปล - (การทดสอบความถนัดในการออกแบบมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ )
ในความหมายของการสอบ CU-TAD ก็คือแบบทดสอบว่าน้องคนไหนดูแล้วมีแววว่าจะเรียนในสาขาของการออกแบบได้ซึ่ง ณ จุดนี้พี่ต้องขอบอกเลยครับว่าคนที่ทำไม่ได้ มี!ครับ นั่นก็หมายถึงการวัดผลที่บอกว่าคุณไม่ผ่านปราการด่านแรกสุดที่ทาง INDA ได้ตั้งเอาไว้ ก็คงต้องหาเรียนสาขาอื่น ที่เหมาะสมกับตัวเอง ส่วนน้องที่ทำได้ก็อย่าพึง ดีใจไป เพราะ คะแนน CU-TAD เป็นเพียงติ่งเดียวของการวัดผลทั้งหมด
ทีนี้ก็จะขอตอบคำถามส่วนที่ 1 - ควรให้ความสำคัญระดับไหน
ลองกลับไปศึกษาข้อมูลของทางจุฬาอีกสักครั้งครับ เค้ากำหนดแบบเป็น % ไว้อย่างชัดเจนเลยว่า อะไรมีสัดส่วนความสำคัญเท่าไหร่ โดยจำแนกค่าน้ำหนักดังนี้ CU-TEP / 15% , CU-ATT / 15% , CU-TAD / 20% , ESSAY / 5% , PORTFOLIO / 20% , INTERVIEW / 25%
ทีนี่ก็รู้แล้วใช่มั้ยว่า แค่ 20% เท่านั้นสำหรับ CU-TAD
ตอบคำถามส่วนที่ 2 - เอาอะไรมาเป็นมาตราฐาน สวย / ดีไซน์ / มีโลจิก
ลองมองกลับกันว่าถ้าน้องเป็นอาจารย์ในคณะสถาปัตย์ น้องจะอยากได้ผู้ที่มีความพร้อมลักษณะไหน
ทำงานสวย | แน่นอนใครก็ต้องการความทำงานสวย มือดี เขียนอะไรก็ดูดี
ดีไซน์เท่ห์ | อันนี้ก็ต้องแล้วแต่บุณกรรมของแต่ละคนก็คือ คุณมีพื้นฐานความรู้ในทางออกแบบมากแค่ไหน
มีตรรกะ | ออกแบบอะไรขึ้นมาซักอย่างแล้วดูเป็นไปได้มันก็ต้องช่วยลดการเสียเวลา การใช้ทรัพยากรต่างๆ ทั้งเรื่องวัตถุ คน หรือ เวลา
ซึ่งเท่าที่ดูถ้าจะมีคนที่มีความพร้อมทั้ง 3 อย่างก็คงจะเป็นพวกเทพมาจุติไปแล้ว ก็คือว่าทางท่านอาจารย์ก็จะดูทั้งสามอย่างนี้และ หรือ อาจจะมีอย่างอื่นเช่น ความสะอาด เรียบร้อย เพิ่มเติมเข้าไปอีกหน่อย ถึงจะออกมาเป็นคะแนน
ตอบคำถามส่วนที่ 3 - บางคนวาดสวยได้คะแนนน้อย บางคนวาดแย่มากคะแนนเอามายังดีกว่า
ก็สืบเนื่องมาจากคำตอบ ส่วนที่ 2 ครับ คือพี่ต้องบอกทุกคนอย่างนี้ว่า จะมีเด็กบางคนคิดว่า งานข้าจะต้องขึ้นหิ้ง คนตรวจเห็นต้องเข่าอ่อน ระทวย เลยจัดซะหนัก แบบว่าเอาเนี้ยบสุดๆ ในทางกลับกันครับ เนี้ยบมากก็เสียเวลา และในการสอบ CU-TAD เวลาก็เป็นตัวกำหนดการทำงานของเรา ขอพูดตรงนี้เลยครับ!! อย่างมีความคิดบ้าๆ นี้อยู่ในหัวเด็ดขาด คุณควรจะบริหารเวลาให้ดี ดูว่าข้อสอบมีกี่ข้อ ควรใช้เวลาข้อละเท่าไหร่ ไม่ใช่ไปเก็บงานอยู่ส่วนเดียวส่วนที่เหลือก็ไม่สมบูรณ์ นี่แหละเหตุผลที่คะแนนออกมาน้อยนิด แต่วาดสวยนะ สู้เราเฉลี่ยเวลาให้ดีไม่ต้องทำให้สมบูรณ์มาก แต่โดยรวมครบถ้วน จะได้คะแนนเยอะกว่า แน่นอน!!
ตอบคำถามส่วนที่ 4 - ต้องไปติวมั้ย
หากจะบอกว่าจำเป็นมั้ยก็คงตอบกันตรงๆว่า แล้วแต่คนครับ เรียกว่าบางคนเก่งอยู่แล้วสอบซัก 1-2 ครั้งก็ผ่านละ แต่บางคนยังได้คะแนนน้อย หรือ ไม่ผ่านเกณฑ์ก็มี แถมพอยิ่งใกล้ๆ ต้นปี ก็เปิดให้สอบกระชั้นด้วย ถ้าจะติวก็เรียกว่าเป็นการเสริมความมั่นใจดีกว่าครับ โดยที่น้องคงจะรู้ตัวอยู่แลล้วแหละว่าเราอยู่ระดับไหน ถ้าคะแนนยังไม่ผ่านก็อาจจะลงเรียนซักหน่อยเพื่อเตรียมความพร้อม
แต่ก็ไม่ต้องไปเรียนแบบติวคอร์สต่อคอร์ส อะไรขนาดนั้นครับคุณไม่ได้จะสอบเข้าสถาปัตย์ภาคไทย อันนั้นมันอีกเลเวล เอาเวลาไปทำพอร์ตโฟลอโอบ้างครับ เพราะสิ่งนั้นเป็นตัวชี้ชะตาของคุณทากกว่าคะแนน CU-TAD อีก
WWW.AADC.ME