ฉลองวันเกิด 35 ปี "แฮร์รี่ พอตเตอร์" กับความจริง 35 ข้อที่คุณอาจไม่เคยรู้!!

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” มีอายุครบ 35 ปี (ตามหนังสือซึ่ง J.K.Rowling เคยกล่าวไว้ว่าแฮร์รี่เกิดวันที่ 31 กรกฏาคม 1980) พอดิบพอดี จึงมีความจริง 35 ข้อเกี่ยวกับวรรณกรรมเยาวชนระดับโลกเรื่องนี้ที่คุณอาจไม่เคยทราบมาให้อ่านกัน!

1. วันที่ 31 กรกฎาคมเป็นวันเกิดของทั้ง J.K. Rowling และ แฮร์รี่ พอตเตอร์

แต่แฮร์รี่ไม่ได้เป็นเพียงตัวละครเดียวได้รับอิทธิพลจากตัวเธอเองหรอกนะ เจ.เค.กล่าวว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นคล้ายกับเธอตอนยังเด็ก และสัตว์ผู้พิทักษ์ของเฮอร์ไมโอนี่ก็คือสัตว์ที่เจ.เค.ชื่นชอบที่สุดคือ ตัวนาก และทั้งเธอและดัมเบิลดอร์ก็ชื่นชอบไอศกรีมเชอร์เบ็ทรสมะนาวเหมือนกันด้วย

2. เจ.เค. โรวลิ่งตั้งชื่อบ้านแต่ละหลังในฮอกวอตส์จากด้านหลังของถุงใส่อาเจียน!

ในปี 2000 มีเด็กน้อยที่เป็นแฟนคลับของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับโอกาสให้ถามคำถามกับนักเขียนในดวงใจ หนูน้อยถามว่า “คุณคิดชื่อตัวละครและบ้านแต่ละหลังในฮอกวอตส์ได้ยังไง?” เธอตอบว่า “ฉันพบชื่อบ้านแต่ละหลังบนถุงอาเจียนบนเครื่องบิน ฉันชอบคิดชื่อใหม่ๆ และเก็บรวบรวมชื่อแปลกๆ อยู่เสมอ ฉันจึงสามารถเปิดสมุดโน๊ตและเลือกชื่อสำหรับตัวละครใหม่ได้เลย”

3. เธอเขียนตอนจบเอาไว้ตั้งแต่แรก

เธอเก็บไอเดียตอนแรกของภาค “เครื่องรางยมทูต” ไว้ในเซฟและตั้งชื่อว่า “ขยะ” เธอบอกว่าในวันแรกๆ (หรืออาจจะปีแรก) ที่เริ่มต้นเขียนนั้นเธอมีไอเดียเกี่ยวกับตอนจบไว้เรียบร้อยแล้ว “ฉันรู้มาตลอดตั้งแต่แรก ฉันจึงทำงานทั้งหมดเพื่อไปสู่เป้าหมาย ในจุดที่แฮกริดจะต้องอุ้มแฮร์รี่ออกมาจากป่าต้องห้าม โดยที่ทุกคนคิดว่าเขาตายแล้ว ฉันรู้มาตลอดว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะต้องเกิดขึ้นที่ฮอกวอตส์ ฉันรู้ว่าแฮร์รี่จะต้องเดินไปสู่ความตาย และเหล่าวิญญาณจะกลับมาจากความตายเพื่อเดินเคียงข้างเขา” และนั่นคือเหตุผลที่ต้องเก็บตัวละครแฮกริดไว้ไม่ให้เสียชีวิต เพราะแฮกริดคือคนแรกที่อุ้มแฮร์รี่ออกมาสู่โลกภายนอก เป็นคนพาแฮร์รี่มาสู่ฮอกวอตส์ และพาแฮร์รี่กลับมาจากความตาย

4. ผู้คุมวิญญาณคือประสบการณ์ “โรคซึมเศร้า” ที่เจ.เค. เป็นในตอนที่แม่ของเธอเสียชีวิต

แม่ของเธอเสียชีวิตในปี 1990 และด้วยความเศร้าโศก เจ.เค.จมอยู่ในห้วงความทุกข์เป็นเวลาชั่วระยะหนึ่ง เธอจึงถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาในรูปแบบของ “สิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวที่กัดกิดความสุขของมนุษย์” เธอบอกว่ามันยากที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ให้กับคนที่ไม่เคยประสบ อาการซึมเศร้าไม่ใช่ความเสียใจ ความเสียใจคือการร้องไห้โดยมีความรู้สึก แต่นี่คือความเยือกเย็นและว่างเปล่าที่แสนทุกข์ทรมาณ

5. เธอสร้างกีฬา “ควิดดิช” หลังจากทะเลาะกับแฟนหนุ่ม

“ถ้าคุณอยากคิดเกมกีฬาอย่างควิดดิชล่ะก็ คุณต้องทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรงเสียก่อน คุณเดินออกมาจากบ้าน นั่งในผับ และนึกถึงควิดดิช ฉันไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง คงเพราะควิดดิชเป็นกีฬาที่ใช้ความรุนแรง ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจฉันคงคาดหวังให้เขา(แฟนเก่า)ถูกฟาดด้วยลูกบลัดเจอร์” เธอให้สัมภาษณ์ในปี 2003

6. ต้นไม้ในโลกเวทย์มนตร์มาจากหนังสือเล่มหนึ่งจริงๆ

“ฉันต้องเก็บข้อมูลต้นไม้ที่มีชื่อค่อนข้างจะ ‘วิเศษ’ และฉันก็พบกับหนังสือ Culpeper’s Complete Herbal ซึ่งมีชื่อที่ฉันต้องการอยู่เต็มไปหมด flax weed, toadflax, fleawort, Gout-wort, grommel, knotgrass, mugwort” หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ Nicholas Culpeper

7. ชื่อเดิมของแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคแรก “ศิลาอาถรรพ์” คือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับโรงเรียนเวทย์มนตร์”

แต่เจ.เค. ก็บอกว่า “ไม่ ฉันว่านั่นฟังดูไม่ใช่สำหรับฉัน ถ้าเราเรียกมันว่าศิลาอาถรรพ์ล่ะ?”

8. เจ.เค. สร้างตารางเหตุการณ์ “ทั้งหมด” ของเรื่อง

ภาพนี้คือตัวอย่าง outline ของภาค “ภาคีนกฟีนิกซ์” มีชื่อเรื่อง เหตุการณ์ ตัวละคร และลำดับที่ชัดเจน (และดูเหมือนในกระดาษแผ่นนี้เธอเรียก โดโรเลส อัมบริดจ์ ว่า Elvira Umbridge แทนนะ)

9. ความจริงแล้วเธอตั้งใจให้ อาเธอร์ วีสลีย์ ตาย

“ในการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมีชีวิตรอด ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นหนังสือที่อบอุ่นและเบาเกินไป แต่มาจนถึงภาคสี่แล้วทุกคนยังมีชีวิตที่สวยงาม นั่นทำให้พล็อตรวนไปหมด”

ในทีแรกเธอกะจะให้ อาเธอร์ วีสลีย์ เสียชีวิตในภาค 5 ตอนที่ถูกงูนากินีกัด แต่เธอไว้ชีวิตเขาด้วยเหตุผลว่า “มีพ่อทีดีอยู่เพียงไม่กี่คนในเรื่องนี้ และเธออาจจะสามารถทำให้อาเธอร์เป็นพ่อที่ดีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตอยู่” (และเธอยังคิดจะฆ่ารอนแทน แต่ก็เปลี่ยนใจอีกหน)

แต่นั่นก็ทำให้เธอตัดสินใจจบชีวิตของลูปินแทน “ฉันอยากให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายที่โวลเดอมอร์ทำส่งผลต่อชีวิตของแฮร์รี่มากแค่ไหน ความโหดร้ายของสงครามคือการที่เด็กๆ ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างที่แฮร์รี่ประสบในตอนแรก และเด็กคนอื่นๆ รวมทั้งลูกที่เพิ่งเกิดของท็องส์และลูปิน”

10. เพื่อไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “เครื่องรางยมทูต” รั่วไหล สำนักพิมพ์ Bloomsbury จึงใช้ชื่อลับสำหรับภาคนี้

คงไม่มีใครสนใจหนังสือเรื่อง “ช่างทำหม้อในเอดินเบิร์ก” หรือ “ชีวิตของ Cara Rose Lovett” เป็นแน่

11. Haley Joel Osment เกือบได้เป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์

ในตอนแรกที่ Steven Spielberg จะเข้ามากำกับหนังเรื่องนี้นั้น เขาต้องการให้นักแสดงจาก Sixth Sense มารับบทแฮร์รี่ แต่เมื่อผู้กำกับเปลี่ยนเป็น Chris Columbus เขาจึงทำการทดสอบเด็กๆ หน้าใหม่เพื่อเฟ้นหานักแสดงแทน

12. การออดิชั่นของ Rupert Grint นั้นไม่ปกติ

Emma Watson ทำการออดิชั่นเพื่อรับบทเฮอร์ไมโอนี่ในโรงยิมที่โรงเรียนของเธอ แต่ Rupert ผู้รับบทเป็น รอน วีสลีย์ ได้ส่งวิดีโอแนะนำตัวเข้ามาออดิชั่นแทน เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเพิ่งทราบว่าเราต้องส่งภาพถ่ายและประวัติส่วนตัวเข้าไปในการออดิชั่น ผมทำวิดีโอขึ้นมาด้วยตัวเอง ในตอนแรกผมพยายามแสดงเป็นอาจารย์สอนละครของตัวเองซึ่งเป็นเด็กผู้หญิง และหลังจากนั้นก็แร๊พรัวว่าทำไมถึงอยากรับบทเป็นรอน และทำสคริปต์ทั้งหมดด้วยตัวเอง จากนั้นก็ส่งมันเข้ามา”

รู้หรือไม่ว่า Tom Felton ที่รับบทเดรโก มัลฟอย เคยออดิชั่นทั้งบทแฮร์รี่และรอนมาก่อนด้วย

13. ทำไมดวงตาของแฮร์รี่ในภาพยนตร์ถึงไม่เป็นสีเขียว?

ในหนังสือบรรยายไว้ว่าดวงตาของแฮร์รี่นั้นมี “สีเขียวกระจ่างใส” แต่ตาของ Daniel Radcliffe เป็นสีฟ้า ในขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์ผู้กำกับจึงถามเจ.เค.ว่าจะให้แดเนียลสวมคอนแทคเลนส์หรือตัดต่อให้ตาเป็นสีเขียวทีหลังหรือไม่ มันจำเป็นแค่ไหนที่แฮร์รี่จะต้องมีดวงตาสีเขียว แต่เจ.เค.ตอบว่ามันไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือตาของแฮร์รี่ต้องเหมือนกับแม่ของเขา ซึ่งนั่นเป็นผลดีต่อแดเนียลเพราะเขากลัวการใส่คอนแทคเลนส์สุดๆ (แต่เขาก็แพ้แว่นตาด้วย มันทำให้หน้าของเขาเป็นสิว)

14. ไม้กวาดที่ใช้ในการถ่ายทำไม่ใช่ไม้กวาดทั่วๆ ไป

มันถูกทำโดยช่างมืออาชีพ Pierre Bohanna ด้วยวัสดุไทเทเนียมที่ใช้ในการผลิตเครื่องบินรบ “คนส่วนใหญ่คิดว่ามันก็เหมือนกับของเด็กเล่น แต่พวกเขาต้องขี่มันจริงๆ มันต้องผ่านการถ่ายทำกับสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ ต้องมีขนาดเล็กและทนทาน ตอนแรกมันหนักเพียง 80-90 ปอนด์ แต่เมื่อนักแสดงโตขึ้นก็ต้องเพิ่มขนาดขึ้นด้วย”

15. มีการคัดเลือกผู้ที่จะมาแสดงเป็นพีฟส์ แต่สุดท้ายก็ถูกตัดออกไป

นักแสดงตลก Rik Mayall ถูกเลือกให้มารับบทเป็นผีโพลเตอร์ไกสต์ประจำปราสาท แต่ก็ถูกผู้กำกับตัดออกไปเพราะเขาไม่ชอบมัน Mayall ไม่ได้บอกลูกๆ ว่าบทของเขาถูกตัดออกไป เมื่อเด็กๆ มาหาเขาที่กอง เด็กๆ พูดว่า “แต่งหน้าเก่งจัง พ่อดูไม่เหมือนพ่อเลย!” Mayall บอกว่าเด็กๆ คิดว่าเขาได้เล่นเป็นแฮกริด

16. นักแสดงที่รับบทเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญนั้นมีอายุมากเกินกว่าจะเป็นนักเรียนแล้ว

Shirley Henderson อายุถึง 36 ปี แต่เธอมารับบทเป็นผีเด็กสาววัย 14 ที่ถูกฆ่าโดยการสบตากับบาซิลิสก์ในห้องน้ำ เธอบอกว่าการเล่นเป็นวิญญาณนั้นยากกว่าเล่นเป็นคนจริงๆ แต่มันสนุกมาก

17. Alfonso Cuarón ผู้กำกับภาค “นักโทษแห่งอัซคาบัน” บอกให้แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่เขียนเรียงความเกี่ยวกับตัวละครที่ตัวเองเล่น

ผู้กำกับกล่าวว่า “พวกเขาทำตัวเข้ากับคาแรกเตอร์ตัวละครมาก แดนเขียนมา 1 หน้า เอมม่า 10 หน้า และรูเพิร์ตไม่ส่งเลยสักแผ่น” และรูเพิร์ตก็ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่ได้ใส่ใจมากเพราะคิดว่ารอนก็คงทำแบบเดียวกัน หรือเอาจริงคือผมยุ่งกับการบ้านและการสอบในโรงเรียน แต่สุดท้ายผมคิดว่าที่ทำไปก็ถูกแล้วเพราะรอนก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน”

18. เจ.เค. คัดค้านความคิดของผู้กำกับ Cuarón

แม้ว่าดูเหมือนเธอจะไม่ได้เข้มงวดกับรายละเอียดมากนักเช่นสีตาของแฮร์รี่ และเธอยังบอกกับแดเนียลว่าอย่ายึดติดตามหนังสือมากนักเพราะมันไม่สามารถถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของหนังได้ แต่เธอไม่ได้ปล่อยให้ผู้กำกับจัดการทุกอย่าง บางครั้งเธอก็มาจัดการรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเสื้อผ้าหรือบทพูดบางคำเช่นกัน

19. เธอบอกความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับสเนปให้ Alan Rickman รู้

“ฉันบอกเขาตั้งแต่แรกว่าสเนปตกหลุมรักลิลลี่ นั่นจึงทำให้เขาเกลียดเจมส์ และส่งผลให้เขาไม่ชอบในตัวแฮร์รี่ด้วย” และเธอก็บอกความจริงนี้กับแดเนียลด้วยเช่นกัน เขาจึงมันจะพูดว่า “ผมว่าสเนปคงไม่ทำแบบนี้แน่ บอกความจริงผมมาเถอะ

และเธอก็บอกแฮร์รี่ด้วยว่าเขาจะมีฉากตาย “นั่นแปลว่าผมจะตายใช่ไหม” แดเนียลถาม แต่เธอไม่ได้เปิดเผยความจริงทั้งหมดให้เขารู้จนกระทั่งฉากสุดท้าย

20. นักแสดงไม่สามารถเล่นกีฬาอะไรในระหว่างถ่ายทำได้เลย

แต่พวกเขาเล่นกอล์ฟแทน Oliver Phelps ผู้รับบทจอร์จบอกว่า “เราได้รับอนุญาติให้เล่นแค่กอล์ฟเพราะมันปลอดภัยที่สุดในกองถ่าย”

21. เทคนิคพิเศษที่ยากที่สุดคือฉากที่มีแฮร์รี่หลายคน

แม้ว่าพวกเขาจะต้องใช้การตัดต่อและเทคนิคพิเศษในหลายตอนไม่ว่าจะเป็น มังกร ยักษ์ อินเฟอไร ผี หรือหน้าตาของโวลเดอมอร์ที่เหมือนงู แต่ฉากที่ยากที่สุดคือฉากในภาคเครื่องรางยมทูตที่จะต้องแปลงร่างให้คนอีกหกคนกลายเป็นแฮร์รี่ และมันยังยากตรงที่ต้องจัดการบทและคาแรกเตอร์ตัวละครของแต่ละคนในร่างของแฮร์รี่อีกด้วย

22. แต่เอฟเฟ็กต์ทั้งหลายไม่ได้ทำจากคอมพิวเตอร์หมดนะ

มีการสร้างตัวละครจริงขึ้นมาบนฉาก พวกมันสามารถจับต้องและสื่อสารกับนักแสดงได้ อย่างเช่น ต้นเมนเดรก เฮ็กวิก หนังสือปีศาจว่าด้วยปีศาจ และบัคบีค “พวกมันสามารถมองตามคุณ ก้มหัว และคุณสามารถสัมผัสร่างกายของพวกมันได้จริงๆ”

23. ช่างแต่งหน้าต้องวาดแผลเป็นรูปสายฟ้าหลายต่อหลายครั้ง

ถ้าจะบอกจำนวนที่แน่นอนก็คือ 5,800 ครั้ง แดเนียลได้ให้สัมภาษณ์ในปี 2014 ว่า “ในภาพยนตร์สองภาคแรกเราใช้วิธีการวาดแผลเป็นรูปสายฟ้า หลังจากนั้นก็ใช้ Pros-Aide ที่เหมือนกับนำกาวมาติด” และนอกจากนั้นเขาต้องใช้แว่นตาทรงกลมมากกว่า 160 อันในการถ่ายทำทั้งหมด

24. Helena Bonham Carter เก็บฟันของ Bellatrix ไว้

“ฉันรักฟัน(ปลอม)ของฉันมาก ฉันเก็บมันไว้เพราะคนอื่นคงเอาไปใช้ไม่ได้หรอก ฉันเก็บมันไว้ในกล่องพลาสติกในห้องน้ำและเอาออกมาใส่เวลาที่ฉันคิดถึงเธอ(เบลลาทริกซ์)”

25. แฮร์รี่ พอตเตอร์ เกือบจะมีละครเพลง

เจ.เค.ได้ยกเลิกความคิดเกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์หลายอย่าง รวมทั้งละครเพลงด้วย แต่ตอนนี้แฮร์รี่ พอตเตอร์เรื่องใหม่คือ Harry Potter and the Cursed Child กำลังจะถูกสร้างเป็นละครเวทีในปี 2016 ที่จะถึงนี้

26. ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์

ในปี 2007 เจ.เค.ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันคิดว่าดัมเบิลดอร์เป็นเกย์เสมอ” และเธอเปิดเผยว่าเขาตกหลุมรักกรินเดลวัลด์ “และมันทำให้เขาใจสลายเมื่อกรินเดลวัลด์เปิดเผยความชั่วร้ายออกมา”

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉัน เขาคือชายสูงอายุผู้แบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ และรสนิยมทางเพศของเขาไม่ได้ส่งผลอะไรต่อตัวละครเลย ฉันมองเขาเป็นตัวละครที่เหงาและโดดเดี่ยว ฉันได้ให้คำใบ้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนเครื่องรางยมทูตแล้วเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับกรินเดลวัลด์ และมันไม่น่าอัศจรรย์ใจหรือที่ดัมเบิลดอร์ผู้เข้าใจความยิ่งใหญ่ของความรักที่สุด มีประสบการณ์เลวร้ายที่แสนเศร้าเกี่ยวกับความรัก”

27. เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่นั้นอาจจะเข้าท่า

เจ.เค.ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Wonderland ในปี 2014 ว่า “ฉันเขียนความสัมพันธ์ระหว่างรอนและเฮอร์ไมโอนี่ในรูปแบบของการเติมเต็มความฝัน และทั้งสองจะได้ลงเอยด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองดูเป็นไปได้ยากในโลกของผู้ใหญ่ มันมีความเข้ากันไม่ได้มากเกินไป”

และเธอยังบอกอีกว่า “ในบางมุมคู่ของแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่อาจจะเข้ากันได้ดีกว่า” เธอจึงเขียนฉากการอยู่ร่วมกันในเต๊นท์ของทั้งสองคนในภาคเครื่องรางยมทูต และแม้จะไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคนเขียนบทหนัง ก็พบว่าเขารู้สึกอย่างเดียวกันนี้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

28. มัลฟอยเคยคบค้าสมาคมกับมักเกิ้ล

เจ.เค. เขียนใน Pottermore ว่า ย้อนไปในสมัยโบราณ ครอบครัวมัลฟอยเคยคบค้าสมาคมกับชนชั้นสูงในโลกมักเกิ้ล เคยคิดจะยึดครองบัลลังก์ราชวงศ์อังกฤษ ว่ากันว่าสมาชิกครอบครัวมัลฟอยปรารถนาอยากแต่งงานกับราชินีอลิซาเบธ แต่ผิดหวัง หลังจากนั้นพวกเขาจึงหันไปแสวงหาอำนาจในโลกเวทย์มนตร์แทน

29. แรงบันดาลใจสู่เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ

เธอบอกว่าแรงบันดาลใจของเมอร์เทิลนั้นมาจาก “เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ในห้องน้ำสาธารณะ โดยเฉพาะในปาร์ตี้และสถานบันเทิงในสมัยที่ฉันยังเป็นวัยรุ่น เรื่องแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เกิดขึ้นในห้องน้ำผู้ชาย ดังนั้นฉันจึงเขียนให้แฮร์รี่กับรอนเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่ไม่คุ้นเคยและน่าอึดอันนี้”

30. มักเกิ้ลไม่สามารถปรุงยาเสน่ห์ได้

เพราะคุณไม่สามารถปรุงมันได้โดยไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์ รวมทั้งหาส่วนประกอบสุดแปลกประหลาดต่างๆ ได้ด้วย และวิชาโปรดของเจ.เค.โรวลิ่งคือวิชาเคมี “ฉันมีความสุขกับการปรุงยาเสน่ห์ในหนังสือ และคอยสรรหาเครื่องปรุงต่างๆ”

31. การศึกษาของเจ.เค.ปรากฎในหนังสือ

ที่มหาวิทยาลัย เธอศึกษาด้านวรรณคดีคลาสสิก “ฉันชื่นชอบความคิดที่ว่าเหล่าพ่อมดแม่มดใช้ภาษาละตินในรูปแบบของภาษาที่ยังไม่ตาย ฉันผสมผสานคำต่างๆ เพื่อให้เป็นคาถาที่พวกเขาใช้ โดยนำเอาคำที่มีความหมายต่างๆ มารวมกันโดยคิดค้นขึ้นมาเอง”

32. มีหนึ่งคำถามที่เธอกลัวที่สุดเกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์

นั่นก็คือ “ไม้กายสิทธิ์ของดัมเบิลดอร์ทำมาจากไม้อะไร?”

“ฉันมีความคิดเรื่องไม้เอลเดอร์อยู่ในหัว แต่มันดันไปเกี่ยวข้องกับตำนาน ‘แล้วฉันควรจะตอบว่าอะไรล่ะ?’ แต่ขอบคุณที่ไม่เคยมีใครถามถึงเลย”

33. Stephen King คิดว่าโดโรเลส อัมบริดจ์คือตัวร้ายที่ยอดเยี่ยม

ในรีวิวหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ของเขาจาก Entertainment Weekly กล่าวว่า “โดโรเลส อัมบริดจ์ ผู้มีรอยยิ้มที่สุภาพ เสียงที่เหมือนกับเด็กสาว ใบหน้าเหมือนคางคก นิ้วมือสั้นป้อมที่ยึดจับได้แน่น เธอคือตัวร้ายที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดเทียบได้กับ Hannibal Lecter”

34. สนอร์แค็กเขาย่นไม่มีจริง

เซโนฟิเลีย เลิฟกู๊ด พ่อของลูน่าบอกว่ามันเป็นสัตว์ที่มีตัวตนจริง แค่ไม่มีใครพบเห็น เจ.เค.กล่าวว่าลูน่า ซึ่งภายหลังเป็นนักธรรมชาติวิทยายอมรับว่า “พ่อของเธออาจจะสร้างมันขึ้นมา”

35. รถฟอร์ดบินได้

คุณสามารถพบกับรถฟอร์ดแองเกลียบินได้ของจริงของ อาเธอร์ วีสลีย์ ที่เคยบินเข้าหาต้นวิลโลว์จอมหวดและช่วยชีวิตแฮร์รี่และรอนจากแมงมุมยักษ์ได้ที่เครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ Dragon Challenge

ที่มา: mentalfloss