พลิกล็อค!! ถ้า "เฮอร์ไมโอนี่" เป็นตัวเอกใน “แฮร์รี่ พอตเตอร์” โลกพ่อมดจะป่วนแค่ไหน

วรรณกรรมในดวงใจของใครหลายคนในเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวผจญภัยของเด็กๆทั้งสามคน โดยที่ตัวละครหลักเป็นเด็กผู้ชาย แล้วถ้าเกิดเปลี่ยนตัวเอกเป็นเด็กผู้หญิงอย่าง “เฮอร์ไมโอนี่” บ้างล่ะ?  ชื่อเรื่องคงจะออกมาเป็น….

เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์กับระบบปิตาธิปไตยเฮงซวย

 

ครอบครัวเกรนเจอร์ภูมิใจที่จะบอกว่า ลูกสาวของบ้านเป็นแม่มด

 

ใช่แล้ว พวกเขาภูมิใจกับลูกสาว จนกระทั่งเธอลบการมีอยู่ของเธอทั้งหมด ออกจากความทรงจำของพ่อแม่

ที่เธอทำไปไม่ใช่เพราะว่าเธอมีเจตนาร้ายหรือเป็นพวกหัวกบฏ แต่เป็นเพราะรัก

 

ความเจ็บปวดของเธอครั้งนี้ยากเกินที่จะวัดได้ ตอนนี้เธออยู่ในสงคราม และเธอพยายามปกป้องพ่อแม่ของเธอให้พ้นจากภัยอันตราย

เพื่อความปลอดภัยของพ่อแม่แล้ว เธอจึงส่งพวกเขาไปที่เกาะออสเตรเลีย ที่ที่ซึ่งไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้น

 

เฮอร์ไมโอนี่โดนกลุ่มสนับสนุนระบบปิตาธิปไตยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเธอ ระบบอยุติธรรมในสังคมที่เธอต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปี

ระบบปิตาธิปไตยคือระบบที่ผู้หญิงด้อยกว่าในทุกกรณี ซึ่งตัวเธอเองก็เป็นผู้หญิง

 

ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เธอถูกส่งตัวไปเรียนที่ฮอกวอตส์ เธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ และคิดว่ามันเป็นทักษะที่สำคัญ ดีกว่าโดนล้อว่าเป็นคนไม่เข้าพวกละกัน

“หวัดดี ชั้นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์นะ ตรงนี้มีใครนั่งรึยัง”

 

“ฉันแฮร์รี่ แฮร์รี่ พอตเตอร์”

“โทษทีนะ โบกี้นี้สำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้นอ่ะ”

 

และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้เรียนรู้ทักษะสำคัญอีกอย่าง

ทักษะการปรามาสผู้อื่น

 

เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าสิทธิ์ในการนั่งรถไฟเป็นของทั้งพ่อมดและแม่มด และไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรโง่ๆออกมาแบบนี้

“คือฉันก็อ่านกฎมานะ มันไม่มีกฎอะไรงี่เง่าหรอกที่บอกว่าโบกี้นี้สำหรับผู้ชายเท่านั้นอ่ะ”

 

“นี่เธอรู้ไหมว่ากำลังพูดกับใครอยู่ นั่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ผู้รอดชีวิตเชียวนะ”

“แล้วเขาก็เพิ่งบอกว่าได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น หูหนวกหรือยังไง”

 

“ตลกชะมัดเลยเธอนี่ งั้นฉันก็พูดได้เหมือนกันว่า ฉัน เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ผู้ไม่ยี่หระแยแสอะไรใดๆเลยในโลกนี้ “

“และฉันจะนั่งืตรงไหนก็ได้ที่ฉันอยากจะนั่ง เค๊?”

 

ที่ฮอกวอตส์ เธอพยายามหาเพื่อนใหม่ แล้วเธอก็ค้นพบว่า…

“ฉันรักหนังสือชะมัดยาด”

 

แต่ไม่มีใครสนใจการแสวงหาความรู้เลยซักคน

“ไงที่รัก อยากเห็นไม้กายสิทธิ์ฉันมะ”

 

เธอไม่อยากเห็นไม้กายสิทธิ์ของเขา และไม่คิดว่าอยากจะเห็นอะไรมากไปกว่านี้ด้วย

พวกพ่อมดนี่แย่สุดๆ

 

ซึ่งจริงๆแล้ว เธอพยายามช่วยเหลือรอนสุดความสามารถ แต่ก็โดนเมินตลอด

“เฮ้ออ เจ้างั่งเอ๊ย”

 

ไม่ใช่แค่บรรดาพ่อมดรุ่นเยาว์ที่เป็นแบบนี้นะ พ่อมดที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่แหละ เป็นตัวอย่างคุณภาพยอดแย่เลย

ศาตราจารย์สแนปเพิกเฉยต่อความดีความชอบของเธอตลอด

 

เฮอร์ไมโอนี่เกลียดการโดนมองข้าม หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างคือเธอเกลียดธรรมเนียมการเหยียดเพศสุดๆ

เธอเลยอยากจะจุดไฟเผาความเฮงซวยนี่ทิ้งไปซะ

 

เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นนี้ดั๊นไปเตะตาแฮร์รี่กับรอนเข้า (เพิ่งจะรู้สึก) เลยอยากได้เธอเข้าร่วมแก๊งด้วย

“เธอดุแล้วก็เป็นตัวของตัวเองมาก ซึ่งทำให้เรากลัว แถมจะเผาผู้ชายให้เป็นจุนอีก มาอยู่ก๊วนเดียวกับเราไหม นะๆ”

 

อาจดูแหม่งๆ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกได้ว่าสองคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เลยตกลงเป็นเพื่อนร่วมแก๊งค์กัน และยังคงอุดมการณ์เดิมต่อไป

 

หลายๆคอร์สที่ผ่านมา  เฮอร์ไมโอนี่ช่วยชีวิตแฮร์รี่กับรอนไว้หลายครั้งมาก

ถ้าไม่มีเธอแล้วล่ะก็ เด็กชายผู้รอดชีวิตคงเหลือแต่ชื่อ

 

เมื่อถึงปีสอง เพื่อนๆคนอื่นยังกล้าๆกลัวๆที่จะตอบคำถามอาจารย์ แต่ไม่ใช่เธอ เธอยังมั่นต่อไปเหมือนเดิม

เธอก็อ่านจากตำรามาแหละว่าผู้หญิงมักจะไม่พูดไม่ถามเวลาเรียนในห้อง แต่เธอแคร์ซะที่ไหน

 

วันแล้ววันเล่า เธอก็ยังคงพิสูจน์ตัวเองว่าเธอเจ๋งแค่ไหน

เมื่อตอนที่ภูตสีน้ำเงิน บุกเข้ามาสร้างความยุ่งเหยิงในห้องเรียน เธอเองก็เป็นคนจัดการไล่มันออกไป ไม่ใช่อาจารย์หรือใครอื่น

 

แต่ถึงยังไงก็ยังมีอุปสรรค์ขวางอยู่

“นี่เธอยังคบหากะพอตเตอร์อยู่เหรอ ฉันจะทำให้เธอเห็นเองว่าพ่อมดที่แท้จริงเป็นยังไง”

 

“ด้วยไม้กายสิทธิ์ของเธอเนี่ยนะ ไม่ม้างงง”

 

นังแม่มดเลือดสีโคลน ไปทำแซนวิชให้ฉันไป๊

 

เธอไม่ให้เดรโกเห็นหรอกว่าเธอร้องไห้ แต่คำพูดเขามันทำร้ายเธอจริงๆนะ

ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอรับมือกับคำล้อพวกนี้ไม่ได้ แต่เขาทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนวัตถุ เป็นสิ่งของ แล้วเธอก็รู้ด้วยว่าไม่ว่าเธอจะฉลาด จะเก่งด้านเวทมนตร์แค่ไหน เธอก็ไม่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบเหมือนเดรโกอยู่ดี

 

แล้วดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับความฉลาดเฉลียวของเธออีกต่างหาก

อย่างเช่นตอนที่เธอเสี่ยงชีวิตค้นหาว่าอะไรที่ทำให้นักเรียนในฮอกวอตส์กลายเป็นหิน หรือกว่าจะรู้สึกตัวกันว่าเฮอร์ไมโอนี่ตอบคำถามในชั้นเรียนอยู่ตลอดเวลา ก็นานโข

 

หรือจะเป็นตอนที่เด็กทั้งสามหาทางเอาชนะ บาซิลิสก์ได้ แฮร์รี่กับรอนก็ได้เครดิตไป ยกเว้นเธอ

แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น เธอก็ดีใจกับเพื่อนๆของเธอด้วย ความกล้าและมิตรภาพสำคัญกว่าหนังสือและความฉลาดอยู่แล้วนี่ ใช่ไหม?

 

เข้าปีสามแล้ว แฮร์รี่ก็ยังคงได้รับทั้งคำชม ทั้งโอกาสเสมอ

เขาได้มาโดยไม่ต้องพยายามเลย แต่ได้สิทธิพิเศษอยู่เรื่อยๆ

 

เฮอร์ไมโอนี่ต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่นกว่าสองเท่า แต่อาจารย์ก็ยังเมินเธออยู่ดี

“บอกฉันมาหน่อยสิ คุณเกรนเจอร์ เธอมีความบกพร่องในเรื่องการระงับอารมณ์ตัวเอง หรือถือดีว่าทนไม่ได้ที่จะไม่รู้ทุกสิ่งอย่างหรืออย่างไร”

 

แฮร์รี่กับรอนเริ่มรู้สึกแล้วว่าเธอเหมือนเป็นน้องสาว และอยากปกป้องเธอ

จะเป็นน้องสาวหรือไม่ก็ตามแต่ เธอไม่ต้องการทั้งสองมาปกป้องเธอ

 

โดยเฉพาะตอนที่เดรโก แฮร์และเจลเข้ามายุ่มย่าม

“เฮอร์ไมโอนี่ ฮูดสวยดีนี่ แต่มันจะดูสวยกว่านี้นะถ้ามันไปกองอยู่หน้าบ้านสลิธีริน”

 

“เมื่อกี้เธอพูดกับฉันว่าไงนะ ไหนพูดใหม่อีกทีซิ”

“มันเป็นคำชมนะ มันเป็นคำชม สาบานได้”

 

“อ๋อเหรอ งั้นลองนี่เป็นไง”

ตอนนั้นยังไม่มีทวิตเตอร์หรอก แต่ถ้ามีนะ เธอได้สร้าแฮสแท็ก #BossWitch ไปละเรียบร้อย

 

ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่าเธอคือคนที่ปกป้องแฮร์รี่กับรอนมาโดยตลอด หลักฐานก็คือเธอสามารถควบคุมเวลาได้

อันที่จริงเธอจะใช้เครื่องย้อนเวลาเข้าห้องเรียนสองครั้ง แต่เธอใช้มันช่วยแฮร์รี่ช่วยชีวิตพ่อทูนหัวของเขาไว้ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถกลับไปใช้มันได้อีก

 

เธอยอมยกพลังที่สำคัญที่สุดของเธอให้เพื่อนรักไป เพราะการช่วยเหลือผู้อื่นคือความสุขของเธอ

เธอเองก็หวังว่าเขาจะเข้าใจถึงการเสียสละของเธอที่เธอพลาดเรื่องการเรียนไป แต่คงไม่เข้าใจหรอก ก็เพราะว่าเป็นผู้ชายนี่

 

เด็กผู้ชายในวัยเดียวกับเธอดูเหมือนจะเข้าใจได้อยู่อย่างเดียว

เข้าใจว่าขี่ไม้กวาดนั้นมันสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน

 

พอขึ้นปีสี่ เธอคงมีความสุขมากขึ้น เพราะการประลองเวทไตรภาคีมาถึงแล้ว พร้อมกับผู้เข้าชิงถ้วยอย่างวิคเตอร์ ครัม

 

เมื่อทั้งสองพบกันก็เกิดตกหลุมรักกันทันที

 

เมื่อวันงานเต้นรำใกล้เข้ามา รอนแหย่เธอว่าหล่อนต้องไม่มีคู่ไปงานด้วยแหงๆ แต่เธอไม่รู้สึกตลกด้วยเลย

“เสียใจด้วยนะ ชั้นมีคู่เดทไปด้วยแล้วย่ะ”

 

วิคเตอร์ขอเธอไปงานเต้นรำ และทั้งสองดูสง่างามสมกัน

 

รอนเกิดอาการหึงเข้า เลยไปขอเฮอร์ไมโอนี่เต้นรำ แต่เธอปฏิเสธ

“งั้นเธอสวมชุดแบบนี้ทำไมถ้าไม่อยากเป็นจุดสนใจ”

 

“รอน กล้าดียังไงถึงพูดแบบนี้ฮะ”

“ฉันไม่ได้แต่งตัวเพื่อวิคเตอร์ เพื่อนายหรือเพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง ไม่เข้าใจเหรอ แล้วนายก็มาทำความรู้สึกฉันพังหมดเลย”

 

รอนพยายามขอโทษ แต่ช้าไปแล้ว เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าจะขอโทษไปเพื่ออะไร

เธอเข้าใจมากขึ้นแล้วว่านี่คือโลกของพ่อมด เธอมันก็แค่แม่มดคนนอกคนหนึ่ง

 

เพื่อแก้ไขสถานการณ์ แฮร์รี่เลยออกมาขอโทษแทนรอน

“เขาบอกว่าเขาเสียใจ เขาเป็นคนดีนะ ไม่เหมือนเดรโก เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกเธอ”

 

“มันเป็นปัญหานะแฮร์รี่ เขาไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาน่ะมันผิด”

“แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่รอน แค่เดรโกด้วย พ่อมดทุกคนก็เป็นแบบนั้น”

“ไม่ใช่พ่อมดทุกคนหรอกน่า”

“ใช่สิ พ่อมดทุกคนเลยแฮร์รี่”

 

“แต่ก็ไม่ใช่แม่มดทุกคนที่รู้สึกเหมือนเธอแน่ๆ”

“แม่มดทุกคนแหละ แม่มดทุกคนต้องมาทนกับคำวิจารณ์แบบนั้น มันแย่นะ”

 

“เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าอย่างงั้นแม่มดทุกคนก็โดนพ่อมดคุกคามหมดเลยน่ะสิ”

“ฉันแค่ไม่อยากจะเชื่อ”

 

เธอทั้งโกรธและสับสน ถ้าเธอไม่เข้าใจแฮร์รี่ เพื่อนชายที่เธอเห็นว่าเป็นคนที่มีเหตุผลและสนับสนุนเธอมาโดยตลอดแล้วล่ะก็ เธอคงต้องยอมแพ้

 

แต่ตอนนี้ลอร์ดโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว

“เซอร์ไพรส์ นังชะนีทั้งหลาย”

 

เขาเรียกผู้เสพความตายคนอื่นๆให้มารวมตัวกัน รวมถึงพ่อของเดรโก ลูเซียสเข้ามาอัพเดทแผน

“เรายังไม่ได้ทำการข่มเหงพวกแม่มดเลยท่าน แต่อีกไม่นานหรอก ชัวร์”

 

แฮร์รี่รู้เห็นแผนทั้งหมด

เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย

 

เขาเตรียมหลบหนี แต่โลกของเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

“นี่มันโลกแห่งชายเป็นใหญ่ชัดๆ ไม่ผิดแน่ๆ”

 

แฮร์รี่ไปขอโทษเฮอร์ไมโอนี่

“เธอถูกแล้วล่ะ ฉันขอโทษนะ แม่มดทุกคนโดนกดขี่เหมือนกันหมด”

 

เฮอร์ไมโอนี่ยกโทษให้รอน และตระหนักได้ว่าเขาก็เป็นเหยื่อระบบปิตาธิปไตยเหมือนกัน

“พวกเธอเติบโตมากับสังคมที่อนุญาตให้แค่พวกพ่อมดมามีสิทธิ์ที่จะพูดกับแม่มดยังไงก็ได้ แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่ามันผิด แต่อย่าทำอีกนะ ไม่งั้นนายโดนเฉือนแน่ๆ”

 

ปีที่ห้าที่ฮอกวอตส์ มีประกาศถึงการมาของโดโรเรส อัมบริดจ์ หญิงผู้ชั่วร้ายในคราบชุดสีชมพู

 

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเผชิญหน้ากับอัมบริดจ์และเปิดเผยว่าเธอเป็นหัวหน้าของเหล่าบรรดาแม่มด

“ถ้ามาทำร้ายนักเรียนของฉันอีกล่ะก็ เธอจะได้โดนเอาคืนอย่างสาสม”

 

ขณะที่แฮร์รี่กำลังเศร้า เฮอร์ไมโอนี่ก็มาพร้อมกับแผนบางอย่าง

“เราต้องมาฝึกเพื่อต่อสู้กับระบบปิตาธิปไตย ใครจะเข้าร่วมมั่ง”

 

และแล้วเหล่าพวกหัวกบฏก็ได้รวมตัวกัน

“มันน่าตื่นเต้นใช่ไหมละ แหกกฎ แล้วทำลายระบบมันซะ”

 

พวกเขาฝึกกันอย่างลับๆ เฮอร์ไมโอนี่ให้แฮร์รี่เป็นหัวหน้าฝึก เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจของเขาให้กลับคืนมา

กลายเป็นว่าจินนี่ น้องสาวของรอนกลับมีฝีมือเจ๋งสุดๆ

 

นอกจากแฮร์รี่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่เป็นนักเรียนคนแรกที่ร่ายคาถาผู้พิทักษ์ได้

 

แต่เจ๊อัมบริดจ์ ผู้ปราบปรามใครก็ตามที่ตั้งคำถามกับระบบปิตาธิปไตย เข้ามาทำลายห้องฝึกลับๆ

“ก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ คุณเกรนเจอร์ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเหยียดเพศหรอกนะ มันเกี่ยวกับศีลธรรมในการสอนเวทมนตร์ต่างหาก”

 

สุดท้าย เรื่องก็ถึงหูดัมเบิลดอร์

“ให้เด็กๆจัดการเองเถอะ”

 

ช่วยไม่ได้จริงๆที่แฮร์รี่คิดที่จะทำอะไรแย่ๆออกไป

“เข้าไปจัดการกับมันเลยดีไหม”

 

เฮอร์ไมโอนี่เตือนว่าอย่าทำ แฮร์รี่ตัดสินใจเข้าไปช่วยซีเรียสจากกระทรวงเวทมนตร์

“แต่ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ”

 

มันเป็นกับดักจริงๆด้วย!

 

พวกเขาเจอลูเซียสกะสมุนติดตาม เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์

นางคือแม่มดที่เฮอร์ไมโอนี่ชอบน้อยที่สุด เพราะนางชอบระบบปิตาธิปไตยนี่แหละ

 

จินนี่ผู้เก่งกาจเข้าไปทำลายระบบได้สำเร็จ (แต่ยังไม่จบง่ายๆหรอก)

เฮอร์ไมโอนี่ดีใจมากที่ยังมีคนรู้ตัวว่าตนเองทำอะไรอยู่

 

ยกเว้นแฮร์รี่ เขาหุนหันพลันแล่น เป็นผู้ฟังที่แย่ แล้วเขาก็เผลอฆ่าซีเรียสไป

 

ความสัมพันธ์ระหว่าเฮอร์ไมโอนี่กับเพื่อนๆแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

จนวันหนึ่งแฮร์รี่ไปเจอหนังสือรหัสลับการปรุงยาเข้า

สิ่งสุดท้ายคือเขาต้องการคนช่วยเหลือ เฮอร์ไมโอนี่เตือนเรื่องการใช้หนังสือเล่มนี้แล้ว แต่เขาฟังไหม

 

ไม่ เขาไม่ฟัง

เดรโกเกือบตายเพราะคาถาจากหนังสือเล่มนั้นซะแล้ว

 

เดรโกจึงไปเข้าร่วมระบบปิตาธิปไตยเพื่อแก้แค้น

 

สแนปเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกระบบปิตาธิปไตย

และเขาจะสังหารดัมเบิ้ลดอร์

 

“ฉันรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง”

 

ตอนนี้พ่อมดผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกสิ้นแล้ว

ย้อนมาที่จุดเริ่ม

 

การต่อสู้กับระบบปิตาธิปไตยกำลังจะเริ่มอย่างดุเดือด

เธอเครียดมาก เพราะเธอเป็นนักคิด ไม่ใช่นักสู้ แล้วจะสู้กับศึกนี้ได้อย่างไร

 

แฮร์รี่ไม่มีปัญหา เพราะเตรียมแผนการเอาไว้แล้ว

“เราจะเข้าป่าไปคุยเรื่องนี้กันซัก 3-5 เดือน”

 

“3-5 เดือนเลยเหรอ”

“นี่แน่ใจนะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

“ก็แน่ใจสิ ฉันแฮร์รี่ พอตเตอร์นะ มีคำทำนายเกี่ยวกับฉันแล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่าง”

“เราจะรอกันที่นี่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วเราจะเข้าไปในฮอกวอตส์และทำลายระบบนั่นซะ”

 

หลังจากที่รอนแรมอยู่ในป่ากันหลายเดือน เฮอร์ไมโอนี่พร้อมแล้ว

“ไปเล่นงานมันกัน อย่าให้เหลือซาก”

 

เธอมีแผนแล้ว เธอแอบรวมพันธมิตรจากฮอกวอตส์ละฟีนิกซ์

เธอเองก็ช่วยชีวิตรอนกับแฮร์รี่ระหว่างทางมาแล้ว 3 ครั้ง ถ้าให้นับรวมทั้งหมดที่ผ่านมาแล้วล่ะก็ เธอเองก็นับไม่ถูก

 

มักกอนนากัลพ่ายแพ้สแนปมาโดยตลอด เพิ่งได้ขึ้นเป็นครูใหญ่แห่งฮอกวอตส์สนับสนุนการต่อต้านครั้งนี้

“ฉันอยากจะใช้คาถาต่อสู้ตลอด และอยากเป็นอิสระจากระบบปิตาธิปไตย”

 

“เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะอยู่บนโลกนี้เป็นครั้งสุดท้าย เธอเลยจูบรอน”

 

เดรโกมาเห็นเข้า

“บรรดาแม่มดได้ขี่ไม้กวาดฟรี แต่ฉันต้องเจ็บปวด ฉันต้องการการปรนนิบัติอย่างพิเศษ ฉันอยากได้จูบ ไหนล่ะจูบของฉัน เธอมันเป็นโรคเกลียดผู้ชาย บอกได้เลย”

 

“โรคเกลียดผู้ชายเหรอ ไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมของฉันด้วยซ้ำ”

 

เดรโกไม่ฟัง เธอเลยต้องจบชีวิตเขาในทางที่เธอถนัด

จุดไฟเผาซะ

 

สถานการณ์ข้างนอกตอนนี้บานปลายไปมาก

แต่ศึกครั้งนี้เพิ่งเริ่มเท่านั้น

 

เฮอร์ไมโอนี่บอกข่าวร้ายกับแฮร์รี่ว่า แผนจะสำเร็จได้ เขาอาจจะต้องตาย

 

ลอร์ดโวลเดอมอร์ยกพรรคพวกมาฮอกวอตส์ เมื่อรู้ข่าวการตายของแฮร์รี่

“แฮร์รี่ตายแล้วสินะ หุหุ ปิตาธิปไตยจงเจริญ”

 

ไม่เร็วขนาดนั้นหรอกนะ

“เจ้าหน้าแมลงสาบเอ๊ย”

 

“หญิงสาวผู้ไม่แยแสอันใดในโลก ในที่สุดเราก็ได้พบกันแล้วสินะ” 

“แต่เสียใจด้วย เราชนะแล้ว”

 

เปล่าเลย แฮร์รี่เอาชีวิตรอดกลับมาได้

อภิสิทธิ์เยอะจริงๆ แม้แต่ความตายยังให้เขาผ่านมาได้

 

เฮอร์ไมโอนี่บอกให้แฮร์รี่ล่อลอร์ดโวลเดอมอร์ไปทางอื่น

 

เธอจับทางได้แล้วว่าแหล่งพลังของหลอดโวลดอมอร์อยู่ที่ไหน และหากขาดมันไปเขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้

งูนากินีของเขานั่นเอง

 

เธอให้รอนเป็นเหยื่อล่องู เพื่อที่จะหาช่วงจังหวะที่เหมาะในการฆ่ามัน

 

เธอมอบหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในการสังหารงูให้เนวิล เพราะเขามาได้จังหวะพอดี เขาเลยใช้ดาบตัดหัวงูของลอร์ดโวลเดอมอร์ซะ

 

เมื่องูตาย ร่างของลอร์ดโวลเดอมอร์จึงสลายหายไป

หายไปพร้อมกับความคิดโบราณๆเกี่ยวกับบทบาททางเพศและระบบปิตาธิปไตยด้วย

 

แล้วมันหมายความว่าระบบปิตาธิปไตยสูญสิ้นไปเลยหรือเปล่า

“เปล่าเลย โชคร้ายจังแฮะ ตัวการของระบบหายไปแล้วก็จริง แต่ถึงยังไงก็ต้องต่อสู้กับมันต่อ เราต้องทำลายลัทธิเพศนิยมในทุกรูปแบบให้ได้ งานรอเราอยู่”

 

เฮอร์ไมโอนี่ เธอทำอย่างนั้นจริงๆ เพราะแทนที่จะลงหลักปักฐานและมีลูกอย่างที่แฮร์รี่ทำ เธออุทิตนเองให้กับการลบล้างความอยุติธรรมทางเพศ ทั้งในโลกแห่งเวทมนตร์และโลกแห่งมักเกิ้ล

หนังม้วนใหม่ในโลกแห่งความเป็นจริง เอาไปเลยเต็ม 10

 

ที่มา: Buzzfeed