หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผจญภัยคาราโครัมไฮเวย์ หุบเขาสกาดูร์ บอลติสถาน เมืองลาฮอร์ Lahore

โพสท์โดย เ้กียรติกำพล

ผจญภัยคาราโครัมไฮเวย์ หุบเขาสกาดูร์ บอลติสถาน

**เมืองลาฮอร์ Lahore** ประเทศปากีสถาน เริ่มการผจญภัยที่นี
คำว่าลาฮอร์ พระองค์หญิงวิภาวดีทรงเล่าว่ามาจากคำว่า "ลวปุระ" หรือ "ลพปุระ" หรือ "ลพบุรี" เรานี้เอง ทรงเล่าว่า ลาฮอร์แม้จะเป็นเมืองเก่า แต่ก็ไม่มีใครทราบอะไรมาก จนเมื่อประมาณ 900 ปีเศษมานี้เอง ในสมัยของ มามุดแห่งกัชนา Mamud of Ghaznavids จากอัฟกานิสถาน กษัตริย์ราชปุต แห่งราชวงศ์ศากยะมาตีได้ กษัตริย์ศากยะซึ่งเป็นฮินดู เรียกเมืองละฮอร์ว่า "ปัญจะละนคร" หรือ Panchalanagar

เมืองลาฮอร์มาเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในสมัยราชวงศ์โมกุล พระเจ้าอักบาร์ แห่งราชวงศ์โมกุลมาสร้างวัง และสุสานของพระราชวงศ์ที่ส่งมาครองอยู่ที่นี่มีอยู่หลายแห่ง รวมทั้งที่ตั้งของทำเนียบผู้ว่าการของแคว้นปัญจาบ ที่อยู่ในส่วนของปากีสถานนี้ด้วยต่อมาเมืองลาฮอร์ถูกโจมตีและถูกยึดโดยกษัตริย์ซิกห์ พระเจ้ารณชิตสิงห์ กษัตริย์ซึ่งเป็นซิกห์ ก็ได้เสด็จมาประทับอยู่ที่นี่ และเป็นเมืองหลวงของรัฐปัญจาบ จนเมื่อประเทศปากีสถานแยกตัวออกมาจากอินเดีย

พิพิธภัณฑ์เมืองลาฮอร์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถาน

ห้องแสดงภายในพิพิธภัณฑ์

สิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมายได้ถูกแสดงไว้ ซึ่งมีห้องแสดงโชว์หลายห้อง จาก คันทราราฎษ์ GANDHARA, ศาสนาพุทธ BUDDHIST, เจน JAIN, โมกุล MOGUL และ สมัยอาณานิคม

พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุด คือพระพุทธรูปปางทุกข์กริยาของพระพุทธเจ้า (สิทธทัตถะ) ก็ถูกแสดงอยู่ที่นี่

ป้อมปราการแห่งลาฮอร์ Lahore Fort ซึ่งเป็นมรดกโลกตามคำประกาศของ UNESCO ถูกสร้างในศตวรรษที่ 11 หลังคริสตกาล เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติม ป้อมลาฮอร์เป็นพระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar The Great) ในระหว่างปี 2099-2149 บนฐานของเชิงเทินโบราณได้รับการต่อเติมโดยจักรพรรดิโมกุลองค์ต่อๆ มา เช่น จะฮานกีร์และราชโอรสรวมไปถึงชาห์จะฮาน (Shah Jahan) ผู้ก่อสร้างทัชมาฮาล

อาคารทรงสูงด้านหน้า Diwan-E-Aam (The Hall Of Public Audience) สร้างขึ้นในปี 1631-1632 เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกษัตริย์โมกุลเสด็จออกขุนนาง ท้องพระโรงแห่งนี้ค้ำยันด้วยเสาหินทรายสีแดงสี่สิบต้น

เขตพระราชฐานชั้นใน Jahangir's Quadrangle ซึ่งเริ่มก่อสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์และสำเร็จเสร็จสิ้นในรัชสมัยของจะฮานกีร์ระหว่างปี ค.ศ. 1617-1618 ลักษณะเป็นลานกว้าง มีสระน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่เป็นจุดศูนย์กลาง กลางสระมีแท่นหินอ่อนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เรียกว่า Mahtabi รายล้อมด้วยน้ำพุ การตกแต่งสวนด้วยไม้ดอกและไม้พุ่มรอบบริเวณเป็นระเบียบเหมือนกันทั้งสองด้านตามแบบสวนของโมกุล

อาคารหลังเล็กริมขอบกำแพงเคยเป็นที่ห้องบรรทมของจักรพรรดิจะฮานกีร์ Jahangir's Sleeping Chamber ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะแขนงต่างๆ ในสมัยโมกุล ลักษณะการประดับประดาดูได้จากลวดลายบนเสาซึ่งทำเป็นดอกไม้สีต่างๆ มิใช่การระบายสีหรืองานแกะสลักแปะกระจก หากเป็นลวดลายที่เกิดจากการตอกหินสีมีค่าเข้าไปในเนื้อหิน ส่วนพื้นของพลับพลามักปูด้วยหินอ่อนหลายสีเรียงสลับกันเป็นรูปเหลี่ยมต่างๆ

ชีคชมาฮัล (Shish Mahal Of Shah Burj) หรือท้องพระโรงกระจก (Hall Of Mirrors) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุคโมกุล สร้างขึ้นโดย Asaf Khan เพื่อใช้เป็นห้องบรรทมของพระนางมุมตัสมาฮัล มเหสีของชาห์จะฮาน (เมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ ชาห์จะฮานจึงสร้างทัชมาฮาลเพื่อเป็นที่เก็บพระศพ)

การประดับประดาสวยงามยอดเยี่ยมตั้งแต่เสา ผนัง จนจรดเพดานด้วยการใช้กระจกชิ้นเล็กชิ้นน้อยฝังสลักเข้าไปในบริเวณที่ต้องการตกแต่งจนได้ลวดลายวิจิตร โคนเสาสลักเป็นรูปดอกไม้สีต่างๆ เป็นฝีมือสลักหินอ่อนของช่างโมกุลที่เรียกว่า Pietra

การประดับประดาในชีคมาฮาล

สุเหร่าบัดซาฮิ Badshahi Mosque หรือ สุเหร่าหลวง (Royal Mosque) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าของสุเหร่าเป็นลานกว้าง มีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ลานกว้างของมัสยิดนี้จุคนได้ราวห้าหมื่นคน สุเหร่าบัดซาฮิถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 100 ปีและได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพที่เห็นในปี พ.ศ. 2503 ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราจะเสด็จประพาสสุเหร่าแห่งนี้ในอีกสองปีต่อมา

 

https://www.facebook.com/planetbluetravel

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เ้กียรติกำพล's profile


โพสท์โดย: เ้กียรติกำพล
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: Thorsten, หมีพู สู้ท่ายาก, เ้กียรติกำพล
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยายใต้เเสงไฟคริสมาสต์ จุดประกายความหวังครั้งใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่