หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผู้พิชิตแห่งเจ็ดอาณาจักร King Aegon I Targaryen

โพสท์โดย Bran Stark

King Aegon I Targaryen Seven Kingdoms

ประวัติศาสตร์ของปฐมกษัตริย์และผู้พิชิตแห่งเจ็ดอาณาจักร King Aegon I Targaryen (The Conqueror)


กษัตริย์ Aegon ที่หนึ่ง เขาอาจพิชิตเจ็ดอาณาจักรได้ตอนอายุ 27 ปี แต่ตอนนี้เขาต้องเผชิญกับความท้าทายอันยากลำบากในการปกครองอาณาจักรที่เพิ่งถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เจ็ดอาณาจักรที่แต่ก่อนเคยทำสงครามกัน เขตแดนต่างๆภายในดินแดนแต่ละแห่งก็แทบไม่มีความสงบ และการหลอมรวมเจ็ดอาณาจักรภายใต้การปกครองเพียงหนึ่งเดียวก็ต้องการชายที่โดดเด่นและเป็นพิเศษอย่างแท้จริง ดังนั้นเจ็ดอาณาจักรจึงโชคดีที่มี Aegon เขาเป็นชายพร้อมวิสัยทัศน์และความเด็ดเดี่ยวอันเหลือล้น และแม้ว่าวิสัยทัศน์ในการหลอมรวมเจ็ดอาณาจักรจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความยากลำบากเกินกว่าที่ Aegon เชื่อ แต่มันเป็นวิสัยทัศน์ที่หลอมรวมประวัติศาสตร์ที่กินเวลามากว่าร้อยๆปี

Aegon มองเห็นว่าเมืองใหญ่ที่ต่างผุดขึ้นรายรอบปราสาท Aegonfort หรือปราสาทหลังใหม่ของเขาใน King’s Kanding ได้กลายเป็นคู่แข่งกับเมือง Lannisport และเมือง Oldtown และยังก้าวข้ามเมืองเหล่านี้ไปแล้ว และในขณะที่เมืองหลวงอาจจะแออัด ปกคลุมไปด้วยพื้นโคลน และเป็นสถานที่ๆกลิ่นเหม็นเพราะเพิ่งตั้งเมืองเป็นระยะแรกๆ แต่ในเมืองก็เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวและการทำงาน โบสถ์ชั่วคราวได้ถูกสร้างขึ้นมาบนอ่าว Blackwater โดยทำมาจากซากของเรือลำเล็ก ซึ่งโบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยรับใช้ประชาชนชาวบ้าน และเร็วๆนี้โบสถ์หลังใหม่อันใหญ่โตโอ่อ่าจะถูกก่อตั้งบนเนินเขา Visenya โดยเงินได้รับการสนับสนุนจากพระสังฆราช (High Septon) จากเดิมที่ครั้งหนึ่งเมืองหลวงแห่งนี้พบได้แต่เรือประมง แต่ตอนนี้ทั้งเรือลำเล็กและเรือแจวจากเมือง Oldtown เมือง Lannisport เมืองอิสระ หรือแม้แต่เกาะซัมเมอร์ก็ก็ปรากฏโผล่ให้เห็น การหลั่งไหลของการค้าขายได้ย้ายจากเมือง Duskendale และเมือง Maidenpool ไปยังเมืองหลวง King’s Landing ตัวปราสาท Aegonfort เองก็ขยายใหญ่ขึ้น รั้วไม้ที่ล้อมปราสาทก็ถูกรื้อถอนเพื่อรองรับการขยายขนาดของปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง Aegon และหอคอยกลางของปราสาทที่ทำจากไม้หลังใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นมา โดยมีกำแพงสูงกว่า 50 ฟุต ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่จนถึงปี 35 AC เพราะ Aegon รื้อปราสาทหลังนี้ลงเนื่องจากเขาต้องการสร้าง Red Keep หรือปราสาทหลังใหม่ที่คู่ควรกับราชวงศ์ Targaryen และทายาทของเขา

ในปี 10 AC เมืองหลวง King’s Landing ได้กลายเป็นเมืองอย่างแท้จริง และในปี 25 AC เมืองแห่งนี้ก็ก้าวข้ามแซงเมือง White Harbor และเมือง Gultown จนกลายเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสาม แต่ในเวลาช่วงนี้ เมืองหลวงก็ยังไม่มีกำแพงล้อม มันอาจเป็นเพราะว่า Aegon และพี่สาวน้องสาวของเขาต่างคิดว่าไม่มีใครกล้าจู่โจมเมืองที่มีมังกรอยู่ แต่ในปี 19 AC ได้มีสาส์นมาถึงเมืองหลวงว่ามีทัพเรือโจรสลัดปล้นโจมตีเมือง Tall Tree Town บนเกาะซัมเมอร์ พวกโจรสลัดจับคนที่อยู่บนเกาะนั้นเพื่อเอาไปเป็นทาสรวมถึงเอาไปแสวงหาโชคลาภ ด้วยปัญหาที่กวนใจนี้รวมถึงตัวเขาเองที่ตระหนักได้ว่าทั้งเขาและ Visenya มักไม่พำนักอยู่ใน King’s Landing ดังนั้น Aegon จึงสั่งให้สร้างกำแพงขึ้นมา แกรนด์เมสเตอร์ Gawen และพระหัตถ์ Ser Osmund Strong ได้รับมอบหมายในการรับผิดชอบโครงการนี้ และ Aegon ได้บัญชาว่าภายในเมืองต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายของตัวเมืองที่อยู่ภายในกำแพง และประตูเมืองเจ็ดบาน จะต้องมีเรือนใหญ่เฝ้าประตูเจ็ดหลังเพื่อคอยปกป้องประตูเมืองเพื่อเป็นเกียรติแด่ทวยเทพทั้งเจ็ด การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปีถัดไป และในปี 26 AC การก่อสร้างก็เสร็จสมบูรณ์

ในขณะที่เมืองและความมั่งคั่งรุ่งเรืองได้เจริญเติบโตขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่ออาณาจักร เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของความบากบั่นของผู้พิชิตที่ต้องการจะเอาชนะใจขุนนางชั้นศักดินารวมถึงทำเพื่อประชาชน โดยเขามักได้รับการช่วยเหลือจากราชินี Rhaenys อยู่บ่อยครั้ง (ตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งเธอมักเป็นห่วงเป็นใยประชาชนเป็นพิเศษ นอกจากนี้เธอยังได้รับการเกื้อหนุนจากนักขับลำนำเพลงและนักกวี บางครั้ง Visenya พี่สาวของเธอคิดว่านี่เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ แต่นักขับลำนำเพลงเหล่านี้ต่างประพันธ์เพลงเพื่อเชิดชูราชวงศ์ Targaryen และเผยแพร่บทเพลงไปทั่วอาณาจักร และบทเพลงเหล่านี้ยังมีเนื้อหาที่กล่าวเท็จเพื่อสร้างเกียรติยศให้แก่ Aegon และพี่สาวน้องสาว ซึ่งราชินีไม่รู้สึกเสียใจเลย แม้สำหรับเมสเตอร์อาจใช่

ราชินียังทำภารกิจมากมายเพื่อรวมอาณาจักรเข้าด้วยกันโดยเธอจับแต่งงานระหว่างตระกูลต่างๆที่เธอได้จัดเตรียมเอาไว้ แต่ในปี 10 AC ราชินี Rhaenys ได้เสียชีวิตใน Dorne ทำให้ประชาราษฎร์จำนวนมากในอาณาจักรเกิดความรู้สึกโกรธแค้นตามมา ซึ่งพวกเขารักราชินีที่ทั้งงดงามและจิตใจดี

แต่ยังไงก็ตามแม้ว่ารัชสมัยจะปกคลุมไปด้วยความรุ่งโรจน์ สงครามของชาว Dornish ครั้งแรกก็ได้เกิดขึ้น สงครามของชาว Dornish เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 4 AC และจบลงในปี 13 AC หลังจากมีโศกนาฎกรรมและการนองเลือดเกิดขึ้น สงครามที่เกิดขึ้นหลายครั้งมันคือวิบัติภัยหายนะ ทั้งการเสียชีวิตของ Rhaenys ความโกรธเคืองอย่างที่สุดของมังกร ลอร์ดขุนนางที่ถูกฆาตกรรม รวมถึงนักลอบสังหารในเมืองหลวงและในปราสาท Red Keep ตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาอันมืดมิด

แม้ในรัชสมัยของเขาจะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมากมาย แต่ก็ได้สร้างสิ่งหนึ่งๆอันทรงเกียรติภูมิขึ้นมา นั่นก็คือ หน่วยพี่น้องร่วมสาบานแห่งหน่วยคิงส์การ์ด (Sworn Brotherhood of Kingsguard) เมื่อ Aegon และ Visenya ตั้งค่าหัวขุนนางชาว Dornish หลายคนถูกสังหาร และเพื่อเป็นการล้างแค้นชาวDornish พวกเขาจ้างนักฆ่ารวมถึงคนที่พวกเขาต้องการใช้เครื่องมือ ครั้งหนึ่งในปี 10 AC Aegon และ Visenya พวกเขาทั้งคู่ถูกโจมตีในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนใน King’s Landing และถ้าไม่ได้ Visenya และดาบของเธอ Dark Sister ป่านนี้ Aegon อาจไม่มีชีวิตรอดแล้ว แม้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ แต่ฝ่าบาทก็ยังคงเชื่อว่าองครักษ์ของเขามีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปกป้องเขาได้ (มีบันทึกกล่าวว่าเมื่อ Aegon บอกให้พวกองครักษ์ตั้งตัว Visenya ก็ดึงดาบ Dark Sister ของเธอและเฉือนแก้มของศัตรูก่อนที่องครักษ์จะลงมือด้วยซ้ำ “องครักษ์ของเจ้ามันทั้งช้าและขี้เกียจ” ตามรายงาน Visenya พูดแบบนั้นและกษัตริย์ก็จำต้องเห็นด้วย)

เป็น Visenya ไม่ใช่ Aegon ที่ตัดสินใจสร้างและออกแบบลักษณะของคิงส์การ์ดขึ้นมา นักสู้เจ็ดคนสำหรับลอร์ดแห่งเจ็ดอาณาจักรซึ่งจะต้องเป็นอัศวินทั้งหมด เธออกแบบคำสัตย์ปฏิญาณตามแบบของหน่วย Night’s Watch เพื่อให้พวกเขาต้องยอมสูญเสียทุกอย่างเพื่อทำหน้าที่ปกป้องกษัตริย์ยิ่งชีพ และเมื่อ Aegon พูดถึงการจัดงานประลองครั้งใหญ่เพื่อทำการคัดเลือกหน่วยคิงส์การ์ดกลุ่มแรก Visenya ห้ามปรามเขา เธอกล่าวว่าเขาจำต้องการสิ่งที่มากกว่าทักษะในการต่อสู้เพื่อปกป้องเขา และเขายังต้องการความภักดีอันคงมั่น กษัตริย์ได้มอบความเชื่อใจให้ Visenya ในการเลือกสมาชิกกลุ่มแรกของหน่วยคิงส์การ์ด และประวัติศาสตร์ก็ได้แสดงถึงความชาญฉลาดของเขาที่ทำเช่นนั้น คิงส์การ์ดสองคนเสียชีวิตจากการปกป้องชีวิตเขา และทั้งหมดก็รับใช้จวบจนวันตายจากไปพร้อมกับเกียรติภูมิ หนังสือเล่มสีขาวได้เล่าขานชื่อของพวกเขา เพราะในหนังสือได้บันทึกทั้งชื่อและเกียรติประวัติของอัศวินทุกคนที่ให้คำสัตย์ปฏิญาณ Ser Corlys Velaryon เป็นผู้บัญชาการหน่วยคิงส์การ์ดคนแรก และ Ser Richard Roote Ser Addison Hill (ลูกนอกสมรสแห่ง Cornfield) Ser Gregor Goode Ser Griffith Goode (พวกเขาทั้งสองเป็นพี่น้องกัน) Ser Humfrey the Mummer อัศวินพุ่มไม้ รวมถึง Ser Robin Darklyn พวกเขาทั้งหมดสวมชุดคลุมสีขาว


Aegon เคยก่อตั้งเหล่าที่ปรึกษาขึ้นมาก่อนที่ในรัชสมัยของกษัตริย์ Jaehaerys I เขาจะพัฒนาขึ้นมาเป็นสภาเล็ก (Small Council) เพื่อคอยให้คำแนะนำแก่กษัตริย์นับจากนั้นเป็นต้นมา กษัตริย์ Aegon ผู้พิชิตปล่อยหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองให้กับ Visenya รวมถึงเหล่าที่ปรึกษาแบบวันต่อวัน ส่วนเขาก็ดำเนินงานในการหลอมรวมอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียว ใช้ความเกรงขามและใช้ความกลัวเมื่อยามจำเป็น เป็นเวลากว่าครึ่งปีที่กษัตริย์บินไปมาระหว่าง King’s Landing และเกาะ Dragonstone สำหรับเมืองหลวงคือที่มั่นหลวงของเขา แต่เกาะที่มีกลิ่นเหม็นของกำมะถัน สารกำมะถัน และทะเลเกลือ นั่นคือสถานที่ๆเขารักมากที่สุด แต่ในครึ่งปีหลังเขาอุทิศตนไปกับการสร้างความเจริญก้าวหน้า เขาเดินทางไปทั่วอาณาจักรในช่วงชีวิตที่เหลือของเขาจนกระทั่งถึงปี 33 AC ทุกครั้งที่เขาไปเยือนเมือง Oldtown เขามักไปแสดงความเคารพต่อพระสังฆราช (High Septon) ในโบสถ์ Starry Sept เขามักไปเยือนตามปราสาทต่างๆของตระกูลใหญ่เพื่อไปเป็นแขก (แม้แต่ในปราสาท Winterfell) และภายในปราสาทก็มีลอร์ดชั้นผู้น้อย อัศวิน และเจ้าของโรงเตี๊ยมธรรมดานับมากมาย กษัตริย์มักนำวิชาการอบรมฝึกฝนไปพร้อมกับเขาไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ความคืบหน้าของเขาที่เกิดขึ้นทำให้อัศวินนับพันติดตามเขา รวมถึงลอร์ดและท่านหญิงจำนวนมากมายในราชสำนักอยู่เคียงข้างเขา

ในความก้าวหน้าเหล่านี้ กษัตริย์ไม่เพียงแต่ถูกห้อยสอยติดตามโดยข้าราชบริพารเท่านั้น ยังมีเมสเตอร์และบาทหลวงด้วยเช่นกัน เมสเตอร์จำนวนหกคนมักคอยให้คำปรึกษาแก่เขาในเรื่องของกฎหมายท้องถิ่นและขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของอดีตแต่ละอาณาจักร เพื่อที่เขาจะได้สามารถสร้างความยุติธรรมในราชสำนักที่เขาถือครองอยู่ แทนที่เขาจะพยายามรวมอาณาจักรให้อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เขาให้ความเคารพต่อขนบธรรมเนียมของแต่ละดินแดนที่แตกต่างกันไปและมักตัดสินความยุติธรรมตามแบบที่อดีตกษัตริย์องค์ก่อนๆเคยทำ (เรื่องนี้ถูกลบทิ้งไปในรัชสมัยของกษัตริย์องค์อื่น โดยเขานำกฎหมายของทั้งเจ็ดดินแดนมารวมเป็นหนึ่งเดียว) จากบทสรุปตั้งแต่สงครามของชาว Dornish จนกระทั่งการเสียชีวิตของ Aegon ในปี 37 AC อาณาจักรมีแต่ความสงบสุข และ Aegon ก็ปกครองด้วยสติปัญญาและความอดกลั้น เขาได้มอบของขวัญแก่อาณาจักร คือ “ทายาท” โดย Aegon มีทายาทสองคนที่เกิดจากเขากับภรรยาทั้งสอง คนโต คือ เจ้าชาย Aenys Targaryen โดยเขาเป็นลูกของ Rhaenys (ที่เสียชีวิตนานแล้ว) และลูกชายคนเล็ก เจ้าชาย Maegor Targaryen โดยเขาเป็นลูกของ Visenya

เขาเสียชีวิตลงในสถานที่ๆเขาเกิด บนเกาะที่เขารัก Dragonstone บันทึกทุกฉบับต่างเห็นพ้องว่าเขาเสียชีวิตอยู่ในท้องพระโรงหลัก Painted Table ซึ่งบันทึกได้เล่าว่าเขาพูดถึงปู่ของเขาทั้ง Aegon และ Viserys ตำนานที่ว่าด้วยการพิชิต ด้วยน้ำเสียงขาดๆหายๆ จากนั้นเขาก็ฟุบลง เมสเตอร์กล่าวว่าเขาสิ้นชีพจรลงและก็จากไปอย่างสงบ ร่างของเขาถูกเผาบนสนามหญ้าในซิทาเดลของเกาะ Dragonstone ตามธรรมเนียมของชาว Targaryen และชาว Valyrian เจ้าชาย Aenys แห่งปราสาท Dragonstone และทายาทแห่งบัลลังก์เหล็ก ตอนนั้นเขาอยู่ที่ปราสาท High Garden ทันทีที่เขารู้ถึงการเสียชีวิตของบิดา เขารีบขี่มังกรบินกลับไปอย่างรดเร็วเพื่อรับมอบมงกุฎในการสืบทอดตำแหน่งราชบัลลังก์คนต่อไป

Aegon I
Aenys I
Maegor I
Jaehaerys I
Viserys I
Aegon II
Aegon III
Daeron I
Baelor I
Viserys II
Aegon IV
Daeron II
Aerys I
Maekar I
Aegon V
Jaehaerys II
Aerys II (คิงวิกลจริต = สิ้นสุดราชวงศ์) >> Game of Thrones

 

END

From The World of Ice and Fire

From https://www.facebook.com/gotthfan/photos/a.1461333677475329.1073741840.1425858821022815/1627556240853071/?type=1&theater

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Bran Stark's profile


โพสท์โดย: Bran Stark
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: เผลอหัวใจ, ธฤษฏะทยุมัน, TyrionLannister, น้ำมันดิน, Bran Stark
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฮิปโปน้อยเยอรมันขอเป็นเพื่อน'หมูเด้ง'!?ส่งจดหมาย-ของขวัญมาให้!👑 Miss Universe 2024 Victoria Kjaer from Denmarkชายที่ลดน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม ในหนึ่งปี จนมีคนทักแฟนสาวว่าเปลี่ยนแฟนใหม่หรือ?"แค่ 22 วินาที! คลิปลูกดาราเต้น ยอดวิวทะลุ 30 ล้าน โซเชียลเข้าใจทันทีว่าทำไมดัง"เมื่อกดเรียก grab bike แต่นี่มัน grab ซาเล้ง ชัด ๆ ได้ฟิวนั่งเสลี่ยงเบา ๆ เอ้อ…เริด!ไฮยีนากินไส้ตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดจากฝูงสิงโตทำไมหญิงในวังหลวงเป็นชนชั้นสูง ขณะที่ขันทีเป็นชาวฮั่น?'โอปอล'เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายมิสยูนิเวิร์ส!การทดลองของมนุษย์ที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์กิจกรรมการฉลองปีใหม่ของทุกปีสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของบราซิล พูดดูหมิ่นมักส์"เปิด3คุณสมบัติ"เงินดิจิตอลวอลเลทเฟส 2
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมื่อกดเรียก grab bike แต่นี่มัน grab ซาเล้ง ชัด ๆ ได้ฟิวนั่งเสลี่ยงเบา ๆ เอ้อ…เริด!ชายที่ลดน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม ในหนึ่งปี จนมีคนทักแฟนสาวว่าเปลี่ยนแฟนใหม่หรือ?ทำไมหญิงในวังหลวงเป็นชนชั้นสูง ขณะที่ขันทีเป็นชาวฮั่น?"เปิด3คุณสมบัติ"เงินดิจิตอลวอลเลทเฟส 2เกิดเหตุเครื่องบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ถูกยิงก่อนขึ้นบินที่ท่าอากาศยานในมะกัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
35 ผู้ชายที่lซ็กซี่ที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ปี 1985-2024 โดยการจัดอันดับของนิตยสาร “People”เปิดใจพระเอก A\/ แฉกฏเหล็กวงการหนังโ..ป๊..ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเอ๋ เชิญยิ้ม เป็นเศรษฐีเงินล้านในข้ามคืน"แค่ 22 วินาที! คลิปลูกดาราเต้น ยอดวิวทะลุ 30 ล้าน โซเชียลเข้าใจทันทีว่าทำไมดัง"
ตั้งกระทู้ใหม่