ประโยชน์และโทษมากมายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้ากินมะม่วงแบบผิดวิธี! !
มะม่วงเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมากมาย ยิ่งในหน้ามะม่วงแบบนี้ เราเกือบจะได้กินทุกวัน แต่เพื่อนๆทุกคนรู้หรือเปล่าว่า มะม่วงไม่ควรกินคู่กับอะไร ซึ่งอาจจะเกิดโทษให้ร่างกายได้ และประโยชน์ของการกินมะม่วงมันคืออะไร
วันนี้ เราได้นำความรู้เกี่ยวกับการกินมะม่วงมาเสนอให้เพื่อนทุกคนดูว่า ควรกินมะม่วงยังไง จึงจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเราได้
ไม่ควรกินมะม่วงและกระเทียมพร้อมกัน:
เพราะว่ามะม่วงมีกรดอะมิโน โปรตีน ฯลฯ เป็นจำนวนมาก วัสดุเหล่านี้มีสารระคายเคืองเยอะมาก เมื่อสัมผัสถึงผิวหนังของมนุษย์ก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ถ้าแพ้อย่างรุนแรงจะมีอาการบวมและเจ็บปวดเกิดขึ้นก็ได้
ไม่ควรกินมะม่วงและอาหารทะเลพร้อมกัน:
กินมะม่วงและอาหารทะเลพร้อมกันจะไม่สามารถย่อยได้ และมะม่วงกับอาหารทะเลเป็นอาหารที่สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งสองอย่าง
แม้ว่ามะม่วงจะอุดมไปด้วยวิตามิน แต่ถ้าคนที่เคยมีอาการแพ้ พยายามอย่ากินมะม่วง ถ้าจะกิน พยายามไม่ให้มะม่วงสัมผัสรอบริมฝีปาก และควรรีบไปล้างมือหลังจากที่ได้สัมผัสกับน้ำมะม่วง ถ้าเกิดอาการแพ้ขึ้นมา ควรไปรักษาที่โรงพยาบาล อย่าจัดการด้วยตัวเอง
มะม่วงมีประโยชน์อะไรบ้างต่อสุขภาพของเรา
1. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและรักษาอาการอักเสบ
มะม่วงมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และรักษาอาการอักเสบของผิวหนังและการติดเชื้อระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ได้
2. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
มีส่วนช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งต่างๆได้ และน้ำของมะม่วงสามารถช่วยการย่อยอาหาร และช่วยในการขับถ่าย ทำให้เวลาของอุจจาระที่อยู่ในลำไส้ใหญ่สั้นลง ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
3. มีฤทธิ์เป็นยากำจัดเสมหะและอาการไอ
มะม่วง มีส่วนช่วยแก้อาการไอ เสมหะ หอบหืดและอื่น ๆ ได้
4. ลดคอเลสเตอรอลในร่างกายให้น้อยลง
มะม่วงสามารถเพิ่มวิตามินซีให้ร่างกายได้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลให้น้อยลงและช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
5. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน เป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยบำรุงและรักษาสายตา
วิธีการเลือกมะม่วงที่หวานอร่อย
1. ดมกลิ่นของมะม่วง มะม่วงที่ดีมักจะมีกลิ่นที่หอมออกมาเรื่อยๆ กลิ่นยิ่งหอมรสชาติของมะม่วงนั้นก็จะยิ่งดี
2. มะม่วงที่มีขนาดเดียวกัน ลูกที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งหมายความว่าน้ำจะค่อนข้างเยอะและจะอร่อยมากกว่า
3. มะม่วงที่มีลอยตกกระค่อนข้างเยอะหน่อย เพราะนั่นจะบอกได้ว่ามะม่วงสุกเต็มที่แล้ว
4. กดเนื้อมะม่วงเบาๆ ถ้าเป็นมะม่วงสุกจะรู้สึกว่ามีความยืดหยุ่น แต่ถ้าอ่อนเกินไปหมายความว่ามะม่วงนั้นสุกเกินไปแล้ว
5. มะม่วงมีจุดดำนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ถ้าจุดดำมากเกินไป แสดงว่าเนื้อของมะม่วงเริ่มเสียแล้ว
6. มะม่วงที่มีสีสดใสนั้นเป็นมะม่วงที่ดี และลูกที่มีผิวหนังเรียบเนียนและละเอียดอ่อนจะดีกว่าลูกที่มีผิวหนังหยาบ