รีวิว Apple Watch ภาคใช้เองแบบละเอียดยิบ ซื้อ-ไม่ซื้อ มาวิเคราะห์กัน

18 กรกฎาคม 2558 (15:05) โพสท์โดย ทิมมี่ ทิมมี่

ผมได้ใช้เจ้า Apple Watch นี้มาพักนึงแล้ว ประมาณ 1 เดือน ก่อนวันขายจริงในไทย
กระทู้นี้จะช่วยคุณๆ ตัดสินใจกันครับ ว่าจะซื้อมันดีหรือไม่ซื้อ
ผมซื้อเครื่องหิ้วมาใช้ เป็น Apple Watch Sport 42mm. สีดำ กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ อ่านรีวิวของสำนักต่างๆแล้วปวดตับ

ซึ่งส่วนใหญ่ที่รีวิวกันจะเป็น Geek ซะเยอะ บางสำนักก็จิกกัดซะเละ สรุปคือ ผมดูรีวิว ทั้งในไทยละต่างประเทศ ไม่ค่อยจะได้อะไรซักเท่าไหร่

แต่โจทย์ของผมคือ ผมมีนาฬิกาที่ใช้อยู่ประจำแล้ว เป็นนาฬิกาจักรกล swiss made ราคาสูง (ใส่เป็นเครื่องประดับ) ผมอยากได้นาฬิกาใส่ขำๆ ที่ดูโอเค ดู G-shockไว้ แต่ใส่ลองดูแล้วก็เหมือนจะโอเค แต่ผมก็มาคิดว่า ผมอยากได้นาฬิกาไว้ใส่วันสบายๆ แต่สมมุติต้องไปหาลูกค้าหรือมีงานเย็นขึ้นมา นาฬิกาเรือนนั้นต้องไปกับผมได้ (ผมทำงานที่ต้องไปหาลูกค้าบ่อยๆ บางทีนัดด่วน แต่งตัวไม่ดีไม่เป็นไร นาฬิกาโหดเป็นพอ) ทีนี้ผมก็มองเจ้า Apple Watch ว่าก็เอามาใส่ขำๆก็น่าจะได้ ใส่ไปประชุมก็ดูน่าจะดี เวลาขยับข้อมือมันก็ติดขึ้นมาหน้าจอสะท้อนแสงสวยงาม ทำให้ประเด็นเรื่องนาฬิกา swiss made (เครื่องประดับ)ที่ราคาสูงตกไป เลยเอาวะ ซื้อก็ซื้อ

สรุปผมได้เครื่องหิ้วญี่ปุ่นมาในราคาที่คิดว่าใกล้เคียงกับราคาขายในไทย เลยสอยมาลองซะหน่อย

แว๊ปแรกที่จับกล่อง อุ๊ย กล่องหนักจัง เหมือนซื้อนาฬิกาแพงๆ เลย (ของผมเป็นรุ่น Sport ตัวถูกนะครับ) กล่องยาวๆ ถ้าคุณซื้อตัวสแตนเลส กล่องจะเป็นลูกบาศก์ ดูแล้วจงใจทำให้กล่องมันหนักเกินจริงให้รู้สึกว่า คุณได้ซื้อนาฬิกานะ ไม่ใช่ของเล่น (คคห.ส่วนตัวว่าเค้าคิดมาดี) ใครซื้อนาฬิกาสวิสจะรู้ดี

เปิดมาจะเจอถาดที่ใส่อยู่ อันนี้แหละช่วยให้มันหนัก เหมือนฝาบน “จงใจ” เอาเหล็กถ่วง งานแพคงานประกอบดีสมเป็นลุงจ๊อปส์ฯครับ
ส่วนสาย เค้าให้มา 2 เส้น เอาไว้เปลี่ยนสำหรับคนข้อมือเล็ก ส่วนผมข้อใหญ่ ใส่อันที่มีมาเลย จบ

อาจจะมีปัญหาเรื่องเหงื่อออกตามประสานาฬิกาสายยางครับ ทำใจ 3-4 วันก็ชิน

ตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียม สีดำ ที่ผมเลือกอันนี้เพราะส่วนตัวคิดว่าคุ้มกว่า ในเมื่อไส้ใน ฟังชั่นเหมือนๆกัน ผมเอา Sport อะลูมิเนียม แต่สีดำ เอามาใช้และเปลี่ยนสายเล่นๆไปเรื่อยๆดีกว่าซื้อรุ่นสแตนเลสที่แพงกว่าเป็นหมื่น และถ้าเอารุ่นสแตนเลสสีดำ ต้องจ่ายแพงกว่าหลายหมื่น เพราะฉะนั้น ผมตอนก่อนตัดสินใจซื้อเลยหวยออกที่รุ่นนี้ แต่ความเป็นจริงแล้ว หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครับ ท่านทิม คุกส์เค้าขายของเก่ง (เดี๋ยวจะกล่าวต่อว่าทำไม)

ในกล่องมีสายชาร์จ ที่ให้มายาวมากๆ 2เมตรได้ เป็นชาร์จแบบไม่ต้องเสียบ แค่เอามาแปะข้างหลังให้มันดูดกัน ก็ทำได้ดีครับ ขนาดไม่แกะพลาสติกออก แม่เหล็กยังดูดได้ชาร์จได้

มาส่วนของการสวมใส่ครับ ใส่สบาย งับข้อแล้วสวยมากกกกๆๆๆๆ สามวันแรกมองข้อมือตัวเองตลอด สวยจังเลย กระจกสะท้อนแสงสวยดี พลิกข้อมือมาก็ติด รู้สึกดีมากๆ หน้าปัดมีให้เลือกเยอะ แถมคอสฯเองได้ด้วย เลือกสีเลือกฟังชั่นได้ ปรับได้เยอะมาก ชอบๆๆๆ ส่วนตัวชอบใช้มิคกี้เม้าส์ครับ

(แอบคิดว่า เออ ราคาหมื่นนิดๆ แล้วได้นาฬิกาลิขสิทธิ์มิคกี้เม้าส์มาใส่ก็โอเคนะ)

ผมชอบเวลามองมัน มิคกี้เม้าส์จะมาเซิ้งให้คุณดู พร้อมกระดิกขาแทนวินาที แขน 2 ข้างแทนเข็มชั่วโมงและนาที พี่เม้าส์ฯจะกระพิบตาทุก 15 วินาที เวลาเที่ยง หรือ 6 โมงเย็นก็ทำออกมาได้อย่างลงตัวไม่เก้งก้าง

ส่วนหน้าปัดอื่นๆ มีให้เลือกเป็นนาฬิกาธรรมดา แบบสปอร์ทๆดูง่ายๆ แบบโครโนกราฟจับเวลา แบบภาพเคลื่อนไหว แบบลูกโลกพระจันทร์และระบบสุริยะ แบบเข็มเรียบๆแต่เน้นสี แบบแสดงพระอาทิตย์ขึ้น-ตก มิคกี้เม้าส์ และแบบดิจิตอลใหญ่บึ้ม (มีอีกห้าคือแบบประหยัดพลังงาน เดี๋ยวบอกตอนท้ายๆครับ)

สามอันบนรูปมันขยับได้นะครับ สวยมากๆ และมีหลายรูปเลย มีผีเสื้อขยับปีก แมงกระพุนว่ายน้ำดูสุขุมมากๆ และดอกไม้บานดูสดชื่น ซึ่งก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเวลาเราพลิกมือ

ซึ่งแต่ละหน้าปัด จะสามารถคอสตอมได้เอง ว่าคุณจะเอาอะไรมาวาง เอาเข็มสีอะไร เอาหน้าปัดรกแค่ไหน เช่นพยากรอากาศ ข้างขึ้นข้างแรม เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก วันที่-เดือน %แบตเตอรี่ กิจกรรม ตารางงาน เวลาต่างประเทศ หุ้น นาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา ฯลฯ เยอะแยะไปหมด

แต่บางหน้าปัดก็ไม่สามารถปรับได้นะครับ มีหน้าระบบสุริยะ กับหน้าพระอาทิตย์ขึ้นที่คอสตอมไม่ได้

คอสต้อมไม่ได้ แต่หมุนเม็ดมะยมเล่นได้เพื่อดูว่าพระอาทิตย์ขึ้น-ตกของวันนั้นกี่โมง แสงแรก แสงหมด กี่โมง อันนี้ชอบครับ ยี่ห้ออื่นให้ไม่ได้

ส่วนของแสดงระบบสุริยะ ทำได้เจ๋งมากๆ สามารถดูว่าตอนนี้โลกอยู่มุมไหน ดวงจันทร์ข้างขึ้นหรือข้างแรม แถมเขี่ยดูด้านอื่นๆได้ และที่ชอบที่สุด มีระบบสุริยะให้ดูและสามารถหมุนเม็ดมะยมไปทางอนาคตหรืออดีตได้ เผื่อใครอยากทำนายวันโลกแตกครับ 5555

ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า ท่านทิม คุกส์คิดมาดีแล้ว หน้าปัดแต่ละอันสวยลงตัวมาก เค้าคงไม่อยากให้ปรับได้จนเละ และผมก็แอบคิดในใจว่า อนาคตจะสามารถโหลดเพิ่มได้มั้ยน้า.... แต่มาคิดๆว่า คงหมดสิทธิ์ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ เพราะผมว่า ถ้าแอปเปิ้ลปล่อยให้นักพัฒนามาทำหน้าปัดได้ ก็ต้องควบคุมในจุดนี้ เพราะหน้าปัดมันเหมือนถูกคิดมาดีแล้ว ทุกส่วนการจัดวาง เข็มต่างๆถูกคำนวณมาดี ลุงทิม คุกส์คงไม่ยอมให้เอาหน้าปัดที่เข็มหงิกๆ ตัวหนังสือไม่สวย มาแสดงผลแน่ๆ เพราะมันคือ “เครื่องประดับ”

มีอยู่ครั้งนึง ใส่วันที่ 3 ผมว่าผมจะใช้มิคกี้เม้าส์ไปเรื่อยๆ แต่เอ..... ทำไมส่องกระจกแล้วรู้สึกนาฬิกามันไม่เข้ากับตัวเองหว่า..... แต่ชั่งมัน ใส่ๆไป มานึกขึ้นได้ตอนจะออกจากบ้าน คุณก็เปลี่ยนหน้าปัดซิ!!!

และแสงสว่างก็บังเกิดกับผมครับ อ้อ ต่อไปนี้ผมสามารถสนุกกับการแต่งตัว และทำให้หน้าปัดเข้ากับการแต่งตัวได้ และทำได้เยอะมากๆ ชอบๆๆๆๆ

วันไหนวันสบายๆก็พี่มิคกี้

วันไหนแต่งตัวดีหน่อยก็หน้าโครโนฯ

แถมเปลี่ยนสีได้อีก

วันไหนสปอร์ตๆสบายๆก็หน้าดิจิตอล แน่นอน มันเปลี่ยนสีได้

วันไหนแต่งขาวๆดำๆก็จัดหน้าปัดเรียบๆ

วันแต่งแนวๆอยากจะเรียบไปเลยก็ได้

วันที่อยากให้คนทักคนมองก็หน้าเครื่องไหว (มีผีเสื้อ ดอกไม้ แมงกะพรุ่น)

วันไหนคิดไรไม่ออกก็มีหน้าระบบสุริยะ และหน้าพระอาทิตย์ตก ซึ่งมันเล่นได้ด้วย

ต่อมาคือ เรื่องสาย อันนี้ผิดหวังหน่อย สำหรับคนที่ซื้อรุ่นอะลูมิเนียมแบบผม ละหวังว่าจะเอาสายรุ่นสแตนเลสมาเปลี่ยน สรุปคือ ตรงข้อต่อมันไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่

ขอบคุณภาพประกอบจาก google ครับ iMore

คงต้องรอของจากค่ายอื่นทำออกมา ซึ่งตอนนี้มีขายอยู่ 2-3 เจ้า ผมเห็นแล้วคิดว่า.... อย่าใส่เลย มันทำให้นาฬิกาดูถูกดูปลอมมาก คงต้องรอต่อไป แต่ก็แอบมีสาย leather loop ที่น่าจะพอเข้าได้และดูดี ตอนนี้รอไทยมีขายว่าจะไปสอยมาเปลี่ยนครับ และใช้ไปสักพัก มีแผนว่าจะไปซื้อสลักใส่สายจาก eBay ละเอาสายหนังดีๆมาใส่ (แต่ตอนนี้ขอใช้สายเดิม ใส่เห่อให้คนอื่นรู้ก่อน อิอิ)

มีข่าวแว่วมาว่า คุณลุงทิม เรียกผู้ผลิตอุปกรณเสริมให้ Apple เข้าไปคุย เพื่อผลิตสาย ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า ความสวยของสายมีผลมากๆครับ ที่นาฬิกาคุณจะดับหรือมีออร่า ก็ต้องรอดูต่อไป ว่าจะมีสายสวยๆของค่ายไหนออกมา

สรุปในพาร์ทแรก ส่วนของหมวดใช้งานมันเพื่อเป็น “นาฬิกา” ก็จบแล้วครับ ทำได้ดีได้เรื่องความสวยงาม การใช้งาน ฟังชั่นที่นาฬิกาควรจะมี เจ้าApple Watchมีครบหมด แถมทำได้ดีกว่านาฬิกาสวิสฯซะอีก (อันนั้นเค้าเน้นคุณค่า) เรื่องความดูดี ผมว่าก็ดูดีนะ คุ้มถ้าคุณใส่แค่เรือนเริ่มต้น ส่วนเรือนแพงๆแล้วแต่คนชอบครับ อนาคตถ้าหาสายเปลี่ยนได้ง่ายๆก็แนะนำว่า รุ่นสีเงินอะลูมิเนียมไม่ค่อยสวยนะ อันนั้นออก sport ออกกำลังกายไปเลย ถ้าเอามาเปลี่ยนสายเป็นสายหนังสายเหล็ก คงหาที่เข้ากับเจ้าสีเงินอะลูมิเนียมยากแน่ๆ ฟังธงจัดสีดำครับ
มันมี 2 ไซร์นะครับ 38 mm. กับ 42 mm. เอาจริงๆสวยพอๆกัน อยู่ที่ว่าชอบใส่ใหญ่หรือเล็ก

อ้อ เกือบลืม ก่อนคุณซื้อนาฬิกาซักเรือน นอกจากความสวยงามและราคาแล้ว สิ่งที่สำคัญมากๆที่ต้องอยากรู้คือ.......

มันกันน้ำมั้ย???

ขอตอบด้วยภาพแล้วกันครับ

ชื่อสินค้า: Apple Watch

คะแนน:

0.5

1.0

1.5

2.0

2.5

3.0

3.5

4.0

4.5

5.0

**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

ต่อมาเรามาพูดถึงฟังชั่นที่มันเป็นมากกว่านาฬิกากันครับ

อย่างแรกคือ มันคุยกันได้ ด้วยการกดปุ่มข้างใต้เม็ดมะยม (ปุ่มนี้ใช้แรกๆเผลอไปโดนบ่อยมาก) เจ้าปุ่มนี้มีหน้าที่แค่เปิดปิดเครื่องหรือเข้าโหมดประหยัดพลังงาน และเอาไว้ติดต่อกับเพื่อนๆตั้งได้สูงสุด12คน คือสามารถโทรออกได้เลย หรือส่งข้อความเป็นเสียง หรือแปลเสียงเป็นตัวอักษร(ทำได้แม่นมาก) หรือจะสะกิด(เหมือนโดนสะกิดจริงๆ) วาดรูปด้วยนิ้ว(ต้องฝึกถึงจะอ่านรูปเรื่อง) ส่งอีโม(มีให้เลือกน้อยไปหน่อย) และแม้แต่ส่งอัดตราการเต้มของหัวใจ

แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า บางฟังชั่นเท่านั้นที่ใช้ได้ เช่นสะกิด วาดรูป ส่งอัดตราการเต้นของหัวใจ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะผู้มีApple Watchเท่านั้น เพื่อนคนที่ไม่มีจะได้แค่โทรออกหรือMassageเท่านั้น อ้อ อีกอย่าง ลืมบอก หลายๆคนอาจจะรู้แล้ว ถ้าคุณไม่มี iPhone ก็ใช้ Apple Watchไม่ได้นะครับ iPadก็เชื่อมไม่ได้

บางสำนักผมเห็นรีวิวกันว่า จะใส่มาทำไมฟังชั่นปัญญาอ่อนแบบนี้ ส่วนตัวผมว่า คุณลุงทิมฯ แกใส่มาไกด์ไลน์ผู้พัฒนามากกว่า ว่าเนี้ยๆมันคุยกันได้ พวกเอ็งทำแอปออกมาได้นะ แบบนี้มากกว่าครับ เหมือนiMassageที่ไม่ค่อยมีคนใช้ แต่ไปใช้ของนักพัฒนาค่ายนอกกัน เพราะถ้ามันทำได้ด้วยตัวมันเองได้ดี คนก็ไม่มาพัฒนาแอปให้คุณลุงคุกส์ฯเค้าดูดตังอ่ะดิ จริงมั้ยครับ เพราะฉะนัน คงต้องรอ Watch OS2ที่จะเปิดตัวปลายปี(แค่อัพเกท ไม่ใช่ออกเครื่องใหม่นะ)

เค้าว่า จะให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงชิฟและเซ็นเซอร์ต่างๆได้เยอะขึ้น คุณอาจจะเห็นโปรแกรมแชทเฉพาะที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ หรือโปรแกรมออกกำลังกายสนุกๆ หรือเกมส์ที่สนุกกว่าทุกวันนี้(เกมที่มีใช้Apple Watchตอนนี้ง่อยมาก เป็นเหมือนแค่จอเสริม) คือเกือบทุกโปรแกรมในApple Watchเป็นแค่อีกช่องทางแสดงผลของโปรแกรม สมมุติเกมสร้างเมือง มันก็เป็นแค่เอาไว้เตือนว่าอัพเกรทอันนี้เสร็จแล้ว เกมซอมบื้ ก็แค่เอาไว้เล่นมินิเกมง่อยๆกดหาของ ไลน์ตอนนี้ก็ได้แค่ดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน และยังดีหน่อยที่ตอบกลับได้ด้วยเสียงที่แปลแม่นมาก แต่ถ้าคุณไม่มีใครพิมพ์มาก่อน คุณพิมพ์ไปหาเค้าก่อนไม่นะครับ แถมอ่านแล้วอ่านเลย กลับไปตอบหรือดูไม่ได้ด้วย ซึ่งตรงนี้เค้าว่ากันว่า เดี๋ยวจะพัฒนาช่วงสิ้นปี ก็คงจะดีกว่านี้ ผมนึกถึงตอนสมัย iPhone classic รุ่นแรกออกมา ก็ง่อยๆกั๊กๆแบบนี้ แต่ก็พอโอเครับได้

ที่เมนูหลัก เป็นเมนูแบบกลมๆ ซึ่งทำออกมาได้สวยครับ แต่แอบเห็นมีบางคนคอมเม้นว่า บางคนเป็นโรคกลัวอะไรจุดๆ -_- ผมว่าก็ไม่ได้ขนาดนั้น มันเคลื่อไหวได้พริ้วดี สวยงาม

มาฟังชั่นอื่นๆที่น่าสนใจกันต่อ ที่ชอบๆก็มีเตือนออกกำลัง เช่นถ้าคุณอยู่เฉยๆนานๆ มันจะคอยสะกิดให้ขยับบ้าง ถ้าคุณขยับ มันก็จะชมคุณ และสามารถเก็บยศเก็บดาวได้ด้วย เอาจริงๆ มันทำให้ผมออกกำลังกายมากขึ้นนะ ถ้าอยู่ๆมันเตือนผมก็ลุกขึ้นมาเต้นเขย่าแขนบ้าๆบอๆ(ต้องอยู่คนเดียวนะ) มันก็จะชมคุณว่า ดีมาก เก่งประมาณนี้ หรือดูว่าวันนี้เผาแคลลอรี่ไปเท่าไหร่ วัดอัตราการเต้นหัวใจ รวมๆเรื่องสุขภาพก็โอเคดีครับ

ตั้งได้ด้วยว่าคุณอยากให้มันช่วยคุณแค่ไหน คุณมีหน้าที่พยายามทำให้วงกลม 3 วงนี้มันสมดุล เหมือนที่สวมแขนออกกำลังกายของค่ายอื่นๆ อ้อ ของไนกี้+ มีให้โหลดนะครับ

มาส่วนที่ชอบอีกอันคือส่วนเล่นเพลง มันควบคุมเพลงได้ดีทีเดียว คุณแทบไม่ต้องแตะโทรศัพท์เลย และมันโหดมากๆเมื่อคอมโบกับ Apple Music!! คือสมมุติคุณฟังเพลงจาก Apple Music อยู่ และคุณจะเปลี่ยนเพลง หรือปรับความดังเบา คุณสามารถทำได้เลยจากเจ้า Apple Watch ครับ และถ้าคุณเลือก Apple Music สถานนีเพลงดีๆ คุณก็มีเพลงฟังได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องแตะโทรศัพท์เลย!!!

ไม่ชอบเพลงนี้กดข้ามๆๆ ฟังซ้ำๆๆ เหมาะมากๆกับพวกชอบฟังเพลงครับ อ้อ สามารถเก็บเพลงไว้ในApple Watchได้ด้วยนะครับ แต่จุได้ไม่เยอะ

และฟังชั่นที่ขาดไม่ได้ แต่ยังงงๆว่าใส่มาทำไม คือรับสายจากตัวเครื่อง Apple Watch ได้ คือทีแรกงงๆ แต่พอใช้ไปมันก็ดีนะครับ คือใช้คุยแบบหูฟัง Bluetooth เลย และเสียงสนทนาชัดมาก คนฟังบอกชัดมาก ลำโพงค่อนข้างดังครับ ถ้าคุยในรถหรือในห้องโอเคเลย

อีกส่วนคือส่วน Notifications ครับ ทำได้ดีในระดับนึง มีอะไรที่มันเตือนหน้าจอ มันจะมาเตือนที่หน้า Apple Watch ตลอด เผื่อถ้าเราสนใจค่อยจับโทรศัพท์ บางอันเตือนเยอะ ปิดได้ครับ บางอันตอบกลับในตัวได้ บางอันได้แค่ดู

ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ.... ต่อ Bluetooth กับโทรศัพท์ทั้งวัน แบตมือถือจะหมดเร็วมั้ยนะ ผมบอกเลยว่า แทบไม่ต่างกับไม่เปิดBluetooth อาจเป็นเพราะบางทีเราไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลย ถ้าที่นาฬิกาไม่เตือน

อ้อ ถ้ามีอะไรเตือนค้างไว้ มันจะขึ้นเป็นจุดแดงข้างบนครับ เอานิ้วรูดลงมาดูได้เลย

อีกปัญหาที่หลายคนคิด เรื่องแบตเตอรี่ของ Apple Watch สรุปให้ว่า ขนาดวันแรกที่ได้มา ใช้แต่เช้าจนถึงตี 4 แบตเหลือ 12% ทั้งจิ้มทั้งวัน เพื่อนขอดู ใช้คุยแทนโทรศัพท์ ตอบไลน์ ใช้ต่อกับแผนที่นำทาง ฯลฯ และผมขับรถทั้งวัน แค่ขยับพวงมาลัยจอมันก็ติดแล้ว ติดทั้งวัน บอกได้เลยวันนึงเหลือๆครับ และสำหรับวันที่ไม่ได้ใส่ ก็ประหยัดพลังงานนะครับ ชาร์จเต็ม 100 แต่ไม่ได้ใช้ มาดูตอนเที่ยงคืนเหลือ 70 กว่าๆ ก็โอเคอยู่ และถ้าอยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน (มีแค่หน้าบอกเวลาเล็กๆ ทำอย่างอื่นไม่ได้เลย)ก็อยู่ได้นานกว่านี้

เอ.... มีอะไรอีกขอคิดแปป...... อ้อ มีพวกฟังชั่นที่คุมกล้องใน iPhone ได้ คือเป็นจอได้ในตัวด้วย

มีPassbook เมืองไทยยังใช้น้อยอยู่

พยากรณ์อากาศ มาเป็นรายชม.เลยครับ ดูสะดวกดี สามารถดูแยกวันได้ด้วย และสามารถaddเมืองอื่นๆทั่วโลกได้

Ig ตอนนี้ทำได้แค่ดูรูป กดlike หรือส่งอีโม พิมพ์ข้อความไม่ได้

ตั้งปลุก ซึ่งแน่นอน ต้องสั่งด้วยเสียง

ดูรูปในเครื่องiPhone (ดูได้เฉพาะรูปในFavoritesเท่านั้น)

โทรศัพท์ ถ้ารับสายหรือโทรออกจากApple Watch และเรามาจับหน้าจอโทรศัพท์ มันจะตัดเข้าโทรศัพท์ให้ทันที อันนี้ฉลาดดีครับ

แผนที่ อ้อๆๆๆ แผนที่ชอบครับ แต่เหมือนจะเหมาะกับการเดินหรือโดยสารขนส่งมากกว่าขับรถส่วนตัว คือปกติเราใช้GPSให้มือถือนำทาง แต่อันนี้มาเป็นนาฬิกา คุณต้องสั่งงานมันด้วยเสียง และรู้สึกว่าจะเตือนเลี้ยงซ้ายเลี้ยวขวาช้าไป คงออกแบบมาให้เดินหรือขี่จักรยานหรือขับรถในเมืองมากกว่าครับ

อีกข้อที่หลายคนอาจจะงง ถ้าคุณต้องใช้งานในโรงหนัง ห้องเรียน ห้องประชุม เครื่องบิน หรือสถานที่ๆต้องปิดอุปกรณ์สื่อสาร ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ กดมัน3ปุ่มเลยครับ

ต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้จะปิดขนาดนี้ ถ้าคุณพลิกมือ ไฟหน้าจอก็สว่างอยู่ดี ถ้าอยู่ในโรงหนัง แนะนำเป็นหรี่ไฟลงหรือปิดเครื่องครับ (แต่จริงๆก็ไม่ได้สว่างมากอะไรนะ)

ปุ่มรูปโทรศัพท์ข้างล่างสุด เหมาะกับคนขี้ลืม กดปุ๊บ โทรศัพท์ที่เดินหาอยู่ทั่วบ้านยังไม่เจอก็จะส่งเสียงร้องออกมา

ร่ายมาเยอะ ลืมไปเลยว่าไม่ได้พูดถึงวิธีใช้มัน
-           รูดหน้าจอขึ้น เข้าฟังชั่นพื้นฐานต่างๆ ควบคุมเสียง ควบคุมเพลงวัดหัวใจ พลังงานกิจกรรม บันทึกช่วยจำ พยากรอากาศ หุ้น แผนที่ ดูGMTกลางวันกลางคืน
-           รูดหน้าจอลง ดูการแจ้งเตือนต่างๆที่อาจจะพลาด
-           เอานิ้วสะกิดเบาๆที่จอตอนดับ คือไปปลุกให้จอมันติด (อันนี้ชอบมาก เหมือนNokia8800arteสมัยก่อนเลย)
-           กดหน้าจอไปแรงนิดหน่อยที่หน้าปัด คือการเปลี่ยนหน้าปัด
-           กดหน้าจอแรงๆในแอปหรือหน้าอื่นๆได้ ถ้าคิดว่ามันจะมีฟังชั่นที่มากกว่านี้ (ส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่)
-           ถ้าแอปในโทรศัพท์ที่มีรองรับApple Watch มันจะไปโผล่ในหน้าเมนูในนาฬิกาเอง
-           การปรับแต่งส่วนใหญ่ ปรับในโทรศัพท์ง่ายกว่า (เมนูมากกว่าและเหมือนกัน)
-           ถ้าจะวาดรูปข้อความส่งให้เพื่อนควรคิดก่อนวาด
-           ถ้านิ้วเดียวจิ้มๆไม่ลาก มันจะไปสะกิดเค้า ถ้าวาง2นิ้วลงไปและกดแรงๆ จะเป็นการส่งอัตราการเต้มของหัวใจ
-           ถ้าสมมุติกิ๊กโทรมาไม่อยากให้เมียเห็น ให้เอาทั้งฝ่ามือกดทับที่หน้าจอ ทั้งหน้าจอ เสียง สั่น จะหายไปเลย(ใช้ในการดับจอและเสียงได้ทุกกรณี)
-           ถ้าอยากตั้งระบบรักษาความปลอดภัยว่าถ้าถอดแล้วคนอื่นมาใช้ไม่ได้ให้ใส่รหัส ก็ทำได้
-           เม็ดมะยม บางทีมันก็ใช้ง่ายกว่านิ้วเลื่อน ถ้านิ้วเลื่อนไม่ไปก็หมุนเม็ดมะยมครับ

ที่คิดออกก็มีเท่านี้

ก็...... จากที่ใช้ๆมา ถามว่านาฬิกาหมื่นกลางๆคุ้มมั้ย ส่วนตัวผมผมว่าผมใช้มันคุ้ม ก็ลองชั่งใจดูครับ เห็นพรุ่งนี้ iStudio จะขายแล้ว หลายคนคงจะสับสนแบบผมเวลาซื้อ

หวังว่ากระทู้นี้คงช่วยในการตัดสินใจของทุกคนได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณครับ