**ปราสาทนอยชวานสไตน์ Neuschwanstein และ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau** สองปราสาทแห่งเทพนิยาย
**ปราสาทนอยชวานสไตน์ Neuschwanstein และ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau** สองปราสาทแห่งเทพนิยาย
และแล้วเราก็มาถึงปลายสุดของเส้นทางสายโรแมนติก ที่ตั้งของสองปราสาทที่งดงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ปราสาทนอยชวานสไตน์ Neuschwanstein และ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau
ทั้งสองปราสาทสีขาวและสีเหลืองที่โด่งดังคู่กันมา เป็นที่รู้จักของชาวโลกมาช้านาน ตั้งอยู่ที่เมืองฟืสเซ่น FUSSEN เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก เมืองซึ่งเคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน ที่ใช้เมืองนี้
เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ เมืองชนบทที่แสนจะน่ารัก เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร, โรงแรมที่พัก ตลอดจนร้านขายของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เมืองฟึสเซ่น เป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐบาวาเรีย อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนี ห่างจากชายแดนออสเตรียแค่ 5 ก.ม. มีพื้นที่แค่ 43.52 ตร.ก.ม. แต่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 800 เมตรและมีประชากรไม่ถึง 15,000 คน
เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Lech ฟึสเซ่นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีเก่าแก่นับพันปี ย้อนไปไกลถึงสมัยอัศวิน มีตัวเมืองที่สวยคลาสสิค ตึกรามบ้านช่องทาสีขาวหรือสีพาสเทล สวยสดใสกระจายอยู่
ทั่วไปมีน้ำไหลลัดเลาะผ่านไปข้างเมือง และมีภูเขาสูงเป็นฉากหลัง
เมืองฟืสเซ่นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการเป็นปลายทางของ "เส้นทางสายโรแมนติก" ซึ่งเริ่มจากเมือง วืร์ซบวร์ก Wurzburg ไกลขึ้นไปทางเหนือลงมาสู่ทางใต้ และสิ้นสุดลงที่เมืองฟืสเซ่น ที่ได้รับฉายาว่า
village of the king's castles เพราะเป็นที่ตั้งของปราสาททั้งสองนี้เอง
ปราสาทนอยชวานสไตน์ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย (มีพระชนม์ชีพระหว่าง 25 สิงหาคม พ.ศ. 2388 - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2429) ในสมัยนั้นเยอรมันยังไม่ได้รวมกันเป็นประเทศอย่างในปัจจุบัน
แคว้นเล็กๆต่างปกครองกันเอง มีกษัตริย์ของตัวเอง กษัตริย์ลุดวิกทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 18 ชันษา เป็นกษัตริย์อารมณ์ศิลป์ สนใจศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม มากกว่าจะสนใจปกครองบ้าน
เมือง ทรงนิยมสร้างปราสาท หลงไหลในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับเทพของเยอรมันและพวกไวกิ้ง และชื่นชอบอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) เป็นชีวิตจิตใจ จนพวกขุนนางทนไม่ไหว ตั้งข้อหาสติ
วิปลาส แล้วปลดพระองค์ลงจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีคนพบพระศพจมน้ำตายอย่างปริศนา
นับตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 140 ปี ผู้ที่ออกแบบปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่สถาปนิก แต่กลับเป็นคนออกแบบฉากละคร โดยคริสเตียน จังค์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบตัวปราสาทภายนอกให้
เหมือนฉากละครในอุปรากรของวากเนอร์ ในปี ค.ศ.1869 ทำให้ปราสาทแห่งนี้เหมือนปราสาทในจินตนาการมากกว่าปราสาทแห่งอื่น ภายนอกสร้างให้ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่ภายในเต็มไปด้วยศิลปะใน
ยุคต่างๆ ไบแซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก แถมพระองค์ยังมีหัวก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดมาใช้ในปราสาทแห่งนี้ ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา แถมยังมีโทรศัพท์ในปราสาทอีกด้วย มีระบบทำน้ำร้อนน้ำเย็น
ภายในปราสาทนอยชวานสไตน์
ภายในปราสาทนอยชวานสไตน์
ภายในปราสาทนอยชวานสไตน์
ภายในปราสาทนอยชวานสไตน์
ปราสาทโฮเฮนชวานเกา เป็นปราสาทสีเหลืองอร่ามที่ตั้งบนเนินเขาฝั่งตรงข้ามกับนอยชวานสไตน์ สร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนและล่าสัตว์ของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียน เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระชายา และพระ
โอรสสององค์ เมื่อพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 สิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1864 พระราชโอรสเจ้าชายลุดวิกก็ขึ้นครองต่อเป็นพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงย้ายจากส่วนที่ต่อเติมไปอยู่ในห้องบรรทมของพระ
บิดาและมารดาถึงแม้ชื่อเสียงและความอลังการจะไม่โดดเด่นเท่านอยชวานสไตน์ แต่ก็ถือว่าเป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงประทับตั้งแต่วัยเยาว์ และมีความสำคัญต่อพระเจ้าลุดวิกมาก พระเจ้าลุดวิกทรง
โปรดการพำนักอยู่ที่โฮเฮ็นชวานเกาโดยเฉพาะเมื่อทรงเริ่มสร้างปราสาทนอยชวานชไตน์บนเนินเหนือโฮเฮ็นชวานเกา ทำให้พระองค์เห็นความคืบหน้าในการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
ไฟรบวร์ก อิมไบรส์ Freiburg im Breisgau เป็นเมืองขนาดกลาง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาเด็น-เวือร์ทเท็มแบร์ก Baden-Wurttemberg ใกล้ชายแดนประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่
บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไรน์ ในเขตป่าดำใต้ Sudschwarzwald และมีแม่น้ำ Dreisam ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลผ่านในเมือง เมืองนี้จัดได้ว่าเป็นเมืองสวยงามเมืองหนึ่งในประเทศเยอรมัน เนื่องจากทิวทัศน์ความ
งามของป่าดำอันลือชื่อ และยังเป็นเมืองที่มีแสงแดดสาดส่องตลอดทั้งปี ไฟรบวร์กเป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1120 โดยผู้ปกครองนครตระกูล เซห์ริงเง่อ Zahringer เนื่องจาก
กฎหมายการค้าที่เอื้ออำนวย ทำเลที่ตั้งของเมือง และแร่เงิน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของป่าดำในสมัยนั้น ไฟรบวร์กจึงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปราสาทโฮเฮนชวานเกา เป็นปราสาทสีเหลืองอร่ามที่ตั้งบนเนินเขาฝั่งตรงข้ามกับนอยชวานสไตน์ สร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนและล่าสัตว์ของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียน เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระชายา และพระ
โอรสสององค์ เมื่อพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 สิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1864 พระราชโอรสเจ้าชายลุดวิกก็ขึ้นครองต่อเป็นพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงย้ายจากส่วนที่ต่อเติมไปอยู่ในห้องบรรทมของพระ
บิดาและมารดา ถึงแม้ชื่อเสียงและความอลังการจะไม่โดดเด่นเท่านอยชวานสไตน์ แต่ก็ถือว่าเป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงประทับตั้งแต่วัยเยาว์ และมีความสำคัญต่อพระเจ้าลุดวิกมาก พระเจ้าลุดวิกทรง
โปรดการพำนักอยู่ที่โฮเฮ็นชวานเกาโดยเฉพาะเมื่อทรงเริ่มสร้างปราสาทนอยชวานชไตน์บนเนินเหนือโฮเฮ็นชวานเกา ทำให้พระองค์เห็นความคืบหน้าในการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
ภายในปราสาทโฮเฮนชวานเกา
ภายในปราสาทโฮเฮนชวานเกา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่