ผักหวานป่า เงินล้าน ปลูกยาก ตายยาก ขึ้นแล้วเก็บขายได้นับ 10 ปี
คนแถวบ้านเรียกเขาว่า เสี่ยเร่ง เพราะเสี่ยเร่งทำกิจการเพาะพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นล่ำเป็นสันมายาวนาน ตั้งแต่ ปี 2535 ถึงปัจจุบัน ต้นกล้าไม้จากฟาร์มเสี่ยเร่ง มีผู้นำไปจำหน่าย ไปปลูกกระจายทั่วไปทุกภาคของประเทศ กล้าไม้แต่ละชนิด เสี่ยเร่งเพาะเป็นพันเป็นหมื่นต้น ทำเงินให้เป็นแสนเป็นล้าน โดยเฉพาะการเพาะต้นกล้าผักหวานป่า เสี่ยเร่ง ซื้อเมล็ดพันธุ์จากทางเหนือปีละหลายแสนบาท
เสี่ยเร่งมีชื่อจริงว่าเร่ง ยางธิสาร อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 9 ตำบลเหล่าโพนค้อ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เริ่มแรกของการเพาะกล้าไม้ขาย ตั้งแต่ ปี 2535 เพาะต้นไม้ทุกชนิด ตั้งแต่ไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ โดยเฉพาะไม้ประดับยอดฮิตตามสมัยนิยม ไม่ว่า โป๊ยเซียน ชวนชม เฟื่องฟ้า บอนสี และว่านต่างๆ มีครบในฟาร์มเสี่ยเร่ง
สำหรับเพาะพันธุ์ผักหวานป่า แรกๆ ก็หาเมล็ดพันธุ์จากแถวเทือกเขาภูพาน กาลเวลาผ่านไป ต้นพันธุ์ผักหวานป่าถูกทำลายจนไม่สามารถหาเมล็ดพันธุ์ได้ จึงเปลี่ยนเป็นเมล็ดพันธุ์จากทางภาคเหนือ ซึ่งก็เป็นผักหวานป่าพันธุ์เดียวกันกับที่เคยเพาะขาย นั่นคือ พันธุ์ยอดสีทอง ส่วนพันธุ์ผักหวานป่าดง หรือพันธุ์ดง ก็เพาะไว้บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ เพียงเพาะไว้เปรียบเทียบให้ผู้สนใจไว้เรียนรู้เท่านั้น
ต่อมา ปี 2550 ได้นำต้นกล้าผักหวานป่าที่เพาะ ไปปลูกในที่ดินของตนเอง จำนวน 5 ไร่ จากที่ดินแปลงนั้น 12 ไร่ โดยปลูกระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ระหว่างแถว 1 เมตร ยกร่องขึ้นสูงจากพื้นเล็กน้อย มีไม้พี่เลี้ยงปลูกไว้ห่างๆ ต่อมาได้เพิ่มเนื้อที่ปลูกจนเต็มพื้นที่ ทั้ง12 ไร่ ผักหวานป่าที่ปลูกใหม่ มีต้นพี่เลี้ยงจำพวก ลำไย และตะขบ รวมต้นกล้าผักหวานป่าทั้งสิ้น เกิน 4,000 ต้น
ด้านผลผลิต เริ่มเก็บยอดได้ตั้งแต่ปีที่ 4 เรื่อยมาจวบปัจจุบัน เนื่องจากมีกิจการการเพาะต้นไม้เป็นหลัก ทำให้ไม่มีเวลาเพียงพอกับการจัดการดูแลสวนผักหวานป่าได้เต็มที่ จึงได้อาศัยเทวดาช่วยดูแลแทน แม้มีเวลาน้อยในสวนผักหวานป่า ผักหวานป่าก็ยังมีใจให้ผลตอบแทนปีละไม่น้อยเหมือนกัน
วิธีเพาะเมล็ดผักหวานป่าของเสี่ยเร่งจะยกร่องเป็นแปลง ขนาดกว้าง 1 เมตร สูง 50เซนติเมตร ยาวนับ 10 เมตร จำนวนหลายร่อง นำเมล็ดโรยบนแปลงเต็มร่องด้านบน แล้วกลบทับด้วยดินอีกครั้ง รดน้ำทุกวันเช้า เย็น ด้านบนมุงหลังคาด้วยซาแรนกันแดด
ธรรมชาติของต้นกล้าผักหวานป่า จะแทงรากก่อน โดยประมาณ 7-12 วัน เมล็ดที่สมบูรณ์จะแทงรากจากเมล็ด รากจะยาวลงลึกไปเรื่อยๆ เว้นมีสิ่งกีดขวาง เช่น การเพาะเมล็ดในถุงพลาสติกที่มีขนาดสั้น แต่รากผักหวานป่าก็จะไม่หยุดการเติบโต เมื่อรากแทงลึกไม่ได้ ก็จะแทงขดรอบตามก้นถุงเพาะ ซึ่งการใช้ถุงเพาะที่สั้น จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้นกล้าที่นำไปปลูกไม่เจริญเติบโต
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน จะมียอดต้นผักหวานป่าโผล่ขึ้นมาจากดินให้เห็น ยอดยาวขึ้น มีใบเลี้ยง 3-4 ใบ เสี่ยเร่ง ก็จะทยอยเก็บต้นกล้าจำหน่าย ต้นกล้าแบบนี้เขาเรียกกันว่า เปลือยราก เก็บต้นกล้านำมาใส่กระดาษห่อ แล้วส่งให้ผู้สั่งซื้อทางไปรษณีย์ หรือไปรับเองถึงฟาร์ม เมื่อถึงมือผู้รับก็จะนำลงถุงเพาะ หรือนำลงหลุมปลูกตามความต้องการ ต้นกล้าส่วนที่เหลือจากการขายแบบเปลือยราก เสี่ยเร่งจะนำลงถุงเพาะ ขนาดยาวไม่น้อยกว่า 10 นิ้ว วัสดุเพาะ ประกอบด้วย แกลบดำ ดินร่วน ในแต่ละถุงจะนำต้นกล้าผักหวานป่าลงปลูก 2 ต้น ต้นไม้พี่เลี้ยง 1 ต้น ไม้พี่เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นต้นลำไย
นอกจากต้นกล้าผักหวานป่าที่กล่าวมาแล้ว ยังมีต้นกล้าผักหวานป่าอีกขนาดหนึ่ง ที่เสี่ยเร่ง บอกว่า ปลูกแล้วรอดแน่นอน หรือต้นจัมโบ้ แล้วแต่จะเรียก ต้นประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้มีรสนิยมสูง จะปลูกต้นเดียวหรือเป็นร้อยเป็นพันต้น เพราะต้นกล้าลงถุงขนาดใหญ่ ผู้ขายต้องนำกระสอบปุ๋ย 1 ใบ บรรจุ 1 ถุงต้นกล้า ให้แก่ผู้ซื้อ สรุปได้ก็คือ ต้นกล้าผักหวานป่าเสี่ยเร่ง มีราคาตั้งแต่ถุงละ 20-300 บาท ขนาดใดเหมาะสมกับรสนิยมของท่าน พิจารณาเอง