หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คมนาคม เซ็นร่วม ทัพเรือพัฒนา 'อู่ตะเภา' เป็นสนามบินพาณิชย์ ชงแผนขยายโลจิสติกหนุน 'สุวรรณภูมิ' เพิ่มรอบพื้นที่

โพสท์โดย Marcus

คมนาคม เซ็นร่วม ทัพเรือพัฒนา 'อู่ตะเภา' เป็นสนามบินพาณิชย์ ชงแผนขยายโลจิสติกหนุน 'สุวรรณภูมิ' เพิ่มรอบพื้นที่

คมนาคม เซ็นร่วม ทัพเรือพัฒนา 'อู่ตะเภา' เป็นสนามบินพาณิชย์ ชงแผนขยายโลจิสติกหนุน 'สุวรรณภูมิ' เพิ่มรอบพื้นที่
 
 
กระทรวงคมนาคม-กองทัพเรือ ร่วมมือพัฒนา อู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ให้กรมทางหลวง ขยายถนนรองรับสนามบินหลักและรอง
 

 

พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพล.ร.อ. ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ที่หอประชุมกระทรวงคมนาคม  ตามนโยบายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 หลังการพิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 และกำหนดแนวทางการปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งแนวทางการเชื่อมโยงทางรถไฟ (Airport Link) ระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา กับกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายตัวของการคมนาคมขนส่งทางอากาศในอนาคต ซึ่งรัฐบาลกำหนดนโยบายการพัฒนาด้านคมนาคมทางอากาศ โดยส่งเสริมการใช้ท่าอากาศยานในภูมิภาคให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการใช้ท่าอากาศยานในภูมิภาคสนับสนุนและเสริมประสิทธิภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เช่น ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นต้น

 ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือได้ประชุมหารือร่วมกัน เพื่อพิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ได้ข้อสรุปการดำเนินงานภายใต้แนวคิด One Airport Two Missions โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 กระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือ ได้เห็นชอบร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ แบ่งออกเป็น

ระยะที่ 1 (ปี 2558 - 2560)

การเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารเป็น 3 ล้านคนต่อปี โดยใช้อาคารผู้โดยสารที่มีอยู่เดิมและอาคารใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2559 รวมทั้งทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน การบริการทางภาคพื้น ระบบเติมน้ำมัน และหอบังคับการบินที่มีอยู่เดิม ซึ่งกองทัพเรือเป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน อู่ตะเภาเหมือนเดิม สำหรับการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมเชื่อมโยงท่าอากาศยานอู่ตะเภา กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก ให้สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย

 โดยกรมทางหลวงจะดำเนินการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 331 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 36 (พนมสารคาม) – บรรจบทางหลวงหมายเลข 3 (อ.สัตหีบ) ขยายจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ตลอดจนเตรียมการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายพัทยา – มาบตาพุด และปรับถนนทางเข้า – ออกหลักในฝั่งตะวันตกของท่าอากาศยานให้สอดคล้องกับการบริการเชิงพาณิชย์ของท่าอากาศยานในปัจจุบัน หากมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ 

กระทรวงคมนาคม โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะเข้ามาอำนวยความสะดวกในการให้บริการด้านภาคพื้น (Ground Service) เฉพาะในกรณีที่กองทัพเรือร้องขอโดยตรง หรือให้ความเห็นชอบแล้วเท่านั้น 

ส่วนบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จะพิจารณาโครงสร้างห้วงอากาศที่ใช้ร่วมกันระหว่างเส้นทางบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องในการเพิ่มบทบาทของการสร้าง Cluster กลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกให้เป็น Tourist Destination เพื่อดึงดูดและกระตุ้นให้ผู้โดยสารมาใช้ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้มากขึ้น

ระยะที่ 2 (ปี 2561 – 2563)

การเตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ความเห็นชอบของกองทัพเรือเท่านั้น เพื่อรองรับผู้โดยสารเป็น 5 ล้านคน (บนพื้นฐานอัตราการเติบโตของปริมาณการจราจรทางอากาศ ร้อยละ 7) โดยการเพิ่มการดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในฝั่งตะวันตกให้มากขึ้น หากกองทัพเรือเห็นชอบ เนื่องจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2559 ทั้งนี้ ในการบริหารท่าอากาศยานยังคงยึดหลัก One Airport Two Mission โดยกองทัพเรือเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานอู่ตะเภาเหมือนเดิมรวมถึงการเตรียมการศึกษาในการบริหารจัดการพื้นที่การให้บริการเชิงพาณิชย์และความมั่นคง ภายใต้ความเห็นชอบของกองทัพเรือ

ระยะที่ 3 (ปี 2563 เป็นต้นไป)

การศึกษาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่ (Landside และ Airside) และสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้รองรับการเติบโตของกิจการการบินในอนาคต

สำหรับความเป็นมาของ สนามบินอู่ตะเภา เว็บไซต์กองทัพเรือระบุว่า เป็นท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของกองทัพเรือไทย ริเริ่มโครงการในปี พ.ศ. 2504 สืบเนื่องจากกองทัพเรือต้องการก่อสร้างสนามบินทหารเรือ จึงดำเนินการสำรวจพื้นที่บริเวณจังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง ณ เวลานั้น กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้ฝูงบินทหารเรือสังกัดกองเรือยุทธการ โดยใช้สนามบินกองทัพอากาศดอนเมืองเป็นสนามบินชั่วคราว

ต่อมากองบัญชาการทหารสูงสุดอนุมัติสร้างสนามบินแห่งใหม่ของกองทัพเรือบริเวณหมู่บ้านอู่ตะเภา จังหวัดระยอง โดยเป็นทางวิ่งลาดยางความยาว 1,200 เมตร เมื่อการก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อย ในขณะนั้น ได้เกิดการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในเวียดนามใต้ และประเทศลาว รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเห็นว่าต้องสร้างสนามบินขนาดใหญ่ในประเทศไทยเพิ่มเติม

ปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกาได้มีโครงการร่วมกัน โดยคณะรัฐมนตรีได้ลงมติให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาในปี พ.ศ. 2508 เพื่อเป็นหน่วยในการลำเลียงหน่วยรบไปยังจุดยุทธศาสตร์ต่างๆภายในประเทศ การก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลาประมาณ 1 ปี จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเวลานั้น มีคำสั่งให้สนามบินแห่งนี้ให้กองทัพเรือใช้ในราชการ และดูแลรักษาสนามบิน โดยใช้ชื่อว่า "สนามบินอู่ตะเภา"

ในปี พ.ศ. 2519 กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทย รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภาด้วย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ และเป็นสนามบินสำรองของท่าอากาศยานดอนเมือง

หลังจากการปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาโดยกรมการบินพาณิชย์ คณะรัฐมนตรีเห็นว่าควรใช้ประโยชน์จากสนามบินอู่ตะเภามากขึ้น จึงพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานสากล โดยใช้ชื่อว่า "สนามบินนานาชาติระยอง-อู่ตะเภา" ภายใต้สังกัดของกองทัพเรือ โดยให้พัฒนาเป็นสนามบินพาณิชย์ร่วมกับกรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม

การบินไทยได้ตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานลำตัวกว้างแห่งที่สองขึ้นที่สนามบินอู่ตะเภา โดยศูนย์ซ่อมนี้สามารถรองรับเครื่องบิน ตระกูล Boeing 737,747 และ 777 และเครื่องบินตระกูล Airbus A300 A330 A340

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 มีการเปิดให้ใช้สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในการระบายผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองที่ถูกคำสั่งปิดเนื่องจากมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Marcus's profile


โพสท์โดย: Marcus
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ซาอิ, กระซวกดาก, zen juff juff
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ครูสงสัยทำไม นร.ชายใส่กระโปรง..รู้เหตุผลแล้วบอกเลย ใจนายแมนมากกระบะชนเด็กชายวัย 5 ขวบ วิ่งข้ามถนนดับอนาถเจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปี"แช่หรือไม่แช่? อ.เจษฎ์ชี้ชัด ซีอิ๊ว-ซอสหอยนางรม หลายบ้านทำผิด!"นับถือ!! หนุ่มฝรั่งกระโดดน้ำในคลองแสนแสบเล่น ยูรู้จักเชื้ออีโลไลมั้ย ?😂"ไม่เก็บที่นอนเป็นบาปไหม?" อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ตอบชัด จนกลายเป็นไวรัล 4 ล้านวิว!ช่างประปาในเวียนนาพบสมบัติที่มีมูลค่า 2 ล้านปอนด์ถูกซ่อนอยู่ในคอนกรีตนักท่องเที่ยวต่างชาติดับ 5 รายในลาว เจ้าหน้าที่สงสัยว่ามีพิษในเหล้าทำได้เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง ลูกค้าได้สั่งเค้กสุดพิเศษ แต่แม่ค้ากลับสู้เต็มที่ ทำให้เค้กออกมาสวยงามและอลังการอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” พลิกชีวิตจากมรสุมหนักสู่เส้นทางใหม่ ด้วยอาชีพขายปลาร้าทอดด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง ทักษิณ-เพื่อไทย คดีล้มล้างการปกครองพบ 12 ศพในสำนักสงฆ์สอนหูตาทิพย์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทำได้เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง ลูกค้าได้สั่งเค้กสุดพิเศษ แต่แม่ค้ากลับสู้เต็มที่ ทำให้เค้กออกมาสวยงามและอลังการอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปีตำรวจญี่ปุ่นออกหมายจับชายฮ่องกง หลังพ่นสีสเปรย์ใส่ศาลเจ้ายาสุกุนิด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง ทักษิณ-เพื่อไทย คดีล้มล้างการปกครองพบ 12 ศพในสำนักสงฆ์สอนหูตาทิพย์ครูสงสัยทำไม นร.ชายใส่กระโปรง..รู้เหตุผลแล้วบอกเลย ใจนายแมนมาก
ตั้งกระทู้ใหม่