ทรานส์นิสเทรียยื่นฎีกาถึงปูตินขอให้ช่วยคุ้มครองจากภัยคุกคามภายนอก
ทรานส์นิสเทรียยื่นฎีกาถึงปูตินขอให้ช่วยคุ้มครองจากภัยคุกคามภายนอก
สำนักข่าว sputnik news รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาคณะผู้แทนจากองค์กรสาธารณะจำนวน 66 องค์กรได้รวมตัวกันภายในสาธารณรัฐมอลโดวาทรานส์นิสเทรีย (Transnistrian Moldovan Republic - TMR) เพื่อยื่นฎีกาขอความคุ้มครองต่อปธน.วลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย โดยผ่านปธน. Yevgeny Shevchuk ของทรานส์นิสเทรียเพื่อส่งต่อไปยังปูติน การยื่นฎีกาในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากประชาชนชาวทรานส์นิสเทรียมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยจากภัยคุกคามภายนอกในรอบ 25 ปีทั้งจากนาโต้ในมอลโดวาและจากฝั่งยูเครนที่สั่งห้ามไม่ให้กองทัพรัสเซียส่งกองกำลังรักษาสันติภาพผ่านยูเครนเข้าไปในทรานส์นิสเทรีย
ข้อเรียกร้องในฎีกาขอความคุ้มครองจากรัสเซียบางส่วนกล่าวว่า "พวกเราขอยื่นฎีกาต่อวลาดิมีร์ ปูตินในกรณีที่เกิดมีภัยคุกคามบางอย่างต่อ Transnistria ปูตินจะเป็นผู้รับประกันสันติภาพในดินแดนของ Transnistria… (ปูติน) อาจจะใช้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเช่น ทางการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การแซงชั่น และแน่นอนในกรณีที่เกิดภัยคุกคามย่อมรวมถึงมาตรการอื่นๆด้วย พวกเราชาวทรานส์นิสเทรียได้ถูกบล็อกอยู่ตรงกลางจากทั้งสองด้านคือ Moldova และ Ukraine นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี"
นั่น!… นาโต้กับสหรัฐฯกะจะยึดหรือหาเรื่องถล่มทรานส์นิสเทรียจากทั้งสองด้านหละสิ เพราะมันมีสัญญาณแปลกๆจากการเคลื่อนไหวทั้งจากฝั่งนาโต้และฝั่งยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯอย่างเบ็ดเสร็จ จึงทำให้พลเมืองของทรานส์นิสเทรียรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยที่กำลังจะมา จึงได้รีบรวมตัวกันขอความคุ้มครองจากปูตินโดยด่วน คล้ายกับกรณีของ Abkhazia และ South Ossetia ที่อยู่ระหว่างรัสเซียกับจอร์เจียอย่างที่เคยเล่าให้ฟังมาแล้ว
บางคนสงสัยว่าแล้วประเทศหรือสาธารณรัฐ "Transnistria" นี่อยู่ตรงไหนและมีความเป็นมาอย่างไรรึ? อยู่ตรงบริเวณชายแดนระหว่างประเทศ Moldova และประเทศ Ukraine ไม่ติดทะเลดำ Transnistria ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจาก Moldova ในปี 1990 แต่ยังไม่มีประเทศใตรับรอง สาเหตุที่แยกตัวออกมานั้นก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในทรานส์นิสเทรียไม่ต้องการแยกออกจากอดีตสหภาพโซเวียต เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่ของที่นั่นพูดภาษารัสเซียและภาษายูเครน เมื่อทั้งมอลโดวาและยูเครนต้องการแยกตัวออกจากโซเวียต ดังนั้นทรานส์นิสเทรียจึงบอกว่างั้นไม่เข้าทั้งสองฝ่ายจะเป็นเอกชราชต่างหากและนิยมรัสเซียใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการ
ในปี 1992 เกิดสงคราม "War of Transnistria" ระหว่างฝั่งโปร-มอลโดวาและโปร-รัสเซีย โดยทางมอลโดว่าพยายามจะเข้ายึดทรานส์นิสเทรียให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ฝั่งโปรรัสเซียไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กัน และฝั่งโปร-รัสเซียก็ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียด้วย ผลสุดท้ายจึงไม่สามารถหาข้อยุติได้ (ก็แสดงว่าฝั่งโปร-รัสเซียชนะนะสิ คล้ายกับยูเครนตะวันออกเลย แม้จะแยกไม่ได้ แต่อีกฝั่งก็ยึดไม่ได้เช่นกัน) ส่วนทางทรานส์นิสเทรียนั้นก็มีระบบปกครองเป็นของตัวเองคือมีการเลือกตั้งปธน. มีกองทัพ ตำรวจ ระบบไปรษณีย์และพิมพ์ธนบัตรเป็นของตัวเอง แต่ในการทำการค้ากับยูเครนนั้น ทางยูเครนกำหนดให้บริษัทของทรานส์นิสเทรียจะต้องจดทะเบียนในนามของมอลโดวา ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรจดก็จด
ช่วงที่เกิดสงครามทรานส์นิสเทรีย รัสเซียได้ส่งกองทัพตนเข้าประจำการในทรานส์นิสเทรีย และบางส่วนที่ประจำการอยู่ในมอลโดวาตั้งแต่สมัยโซเวียตแล้ว ทางมอลโดวาและยุโรปพยายามผลักดันให้รัสเซียถอนอาวุธและกำลังออกจากมอลโดวา แต่สภาดูม่าของรัสเซียไม่ยอมอนุมัติตั้งแต่ปี 2002 ต่อมาเมื่อรัสเซียถูกกดดันทางการเมืองอย่างหนักจากสหรัฐฯและยุโรปจึงได้ทะยอยถอนอาวุธและกำลังบางส่วนออกจากมอลโดวาและทรานส์นิสเทรีย แต่กองกำลังรักษาสันติภาพบางส่วนของรัสเซียก็ยังคงประจำการอยู่ในทรานส์นิสเทรีย ในปี 2008 ทางสหรัฐฯเข้ามากดดันรัสเซียให้ถอนกำลังออกจากทรานส์นิสเทรียอีกรอบโดยพยายามจะส่งกองกำลังของตัวเองในนามนาโต้เข้าไปประจำการแทน ปูตินบอกว่าฝันไปเถอะไม่หลงกลหรอก
เพื่อที่จะยึดและกลืนกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตรอบทะเลดำให้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯให้ได้ สหรัฐฯจึงพยายามหาทางผลักดันกองทัพของรัสเซียออกจากประเทศเหล่านั้น และจัดการซ้อมรบในทะเลดำบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ พอจีนกับรัสเซียจับมือกันซ้อมรบที่ทะเลดำเมื่อกลางเดือนนี้ก่อนที่จะย้ายไปซ้อมรบต่อที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางนาโต้ก็นิ่ง แต่พอจีนกลับไป วันนี้นาโต้นำโดยสหรัฐฯก็จัดซ้อมรบที่ทะเลดำยั่วรัสเซียอีก