“ทะเลจีนใต้ระอุ” หลายชาติเร่งทุ่มงบทหาร
วันนี้ (26 พ.ค.58)ผลสำรวจชี้ บรรยากาศภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทวีความตึงเครียด หลังหลายชาติเดินหน้าเพิ่มงบทหาร สั่งสมอาวุธ เสริมแสนยานุภาพกองทัพ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มมุ่งความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณเพื่อยกระดับกองทัพเรือและการตรวจการณ์ทางชายฝั่งมากขึ้น หลังจากที่บรรยากาศในพื้นที่ทะเลจีนใต้ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
รายงานจากไอเอชเอส เจนส์ ดีเฟนซ์ วีคลีย์ นิตยสารข่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการด้านทหารทั่วโลกประเมินว่า งบประมาณทางการทหารรายปีในภูมิภาคอาเชียนน่าจะเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020 จาก 4.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้
ขณะเดียวกัน รายงานฉบับเดียวกันยังคาดการณ์อีกว่า 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะใช้จ่ายได้การทหารถึง 5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้าเพื่อยกระดับแสนยานุภาพกองทัพให้มีความทันสมัย รวมถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์สำหรับกองทัพเรือขนานใหญ่
รายงานระบุว่า อุปกรณ์ทั้งหมดข้างต้นมีแนวโน้มว่าจะนำไปใช่สำหรับภายในและรอบๆ พื้นที่ทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่พิพาท ที่บางแห่งรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ได้เดินหน้าสร้างสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจระหว่างจีนกับชาติสมาชิกอาเซียนบางประเทศ และสร้างความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่าการเดินหน้าเพิ่มงบประมาณทางการทหารเพื่อยกระดับความสามารถของกองทัพ ไม่เพียงแต่จะปรับปรุงแสนยานุภาพกองทัพให้มีความทันสมัยเท่านั้น แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังสุ่มเสี่ยงทำให้หลายชาติพร้อมเผชิญหน้ากันมากขึ้น
คำถาม – ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว กองทัพไทยสมควรเดินหน้าจัดสรรงบประมาณกองทัพเพิ่มเติมเพื่อสั่งสมอาวุธและยกระดับแสนยานุภาพกองทัพหรือไม่