"คนสองเพศ" กับการถูกทำให้หายไปจากสังคม
ผู้เขียนมีเพื่อนคนหนึ่ง เธอเป็นคนสองเพศ ชีวิตของเธอเจออะไรต่างๆ มากมาย วันนี้จึงผู้เขียนจึงอยากเสนอเรื่องนี้เพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคม
“คนสองเพศ” หมายถึง บุคคลนั้นมีอวัยวะเพศกำกวมดูไม่ออกว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง เนื่องจากมีอวัยวะเพศสองอย่างอยู่ในคนคนเดียวกัน
เมื่อเด็กสองเพศถือกำเนิดขึ้นมา พ่อแม่มักปรึกษากับแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดตกแต่งให้เหลือเพียงเพศเดียว (เมื่อเด็กเติบโตขึ้นมาระยะหนึ่ง) ทั้งนี้ เพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนเมื่อพ่อแม่ต้องไปแจ้งที่อำเภอว่าลูกของตนเป็นเพศอะไร แต่การลดความยุ่งยากซับซ้อนกลับทำให้เกิดความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
สมมติว่า “เด็ก ก.” เกิดมามีสองเพศ แต่อวัยวะเพศดูเป็น ‘จิ๋ม’ มากกว่าจะเป็น ‘จู๋’ คืออาจจะมีจู๋โผล่ออกมานิดหน่อย ทำให้เพศดูกำกวม ด้วยความไม่รู้พ่อแม่และแพทย์จะพิจารณาร่วมกันตัดส่วนที่เป็นจู๋ออกทำให้เหลือแต่จิ๋ม เมื่อพ่อแม่พา “เด็ก ก.” ไปแจ้งที่อำเภอ “เด็ก ก.” จะถูกแจ้งในทะเบียนบ้านว่าเป็น "ด.ญ.” แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น
เมื่อ “เด็กหญิง ก.” เติบโตถึงวัย ๑๔-๑๕ ปี ฮอร์โมนเพศที่เด่นชัดกว่าจะเริ่มทำงาน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เด็กหญิง ก. ที่เคยดูเป็นเด็กผู้หญิงจะเริ่มแปรสภาพเป็นเด็กหนุ่ม มีเสียงห้าวใหญ่ ไม่มีหน้าอก เด็กหญิง ก. รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชายมากกว่าจะเป็นผู้หญิง ที่เป็นเช่นนี้เพราะฮอร์โมนเพศชายมีการทำงานเด่นกว่าเมื่อเด็กถึงวัยเจริญพันธุ์
เมื่อร่างกายของ “เด็กหญิง ก.” เป็นชายไปแล้วแต่เอกสารยังระบุว่าเป็น ด.ญ. ปัญหาต่างๆ จะเริ่มตามมา เมื่อระบบราชการและเอกสารต่างๆ ไม่สามารถเปลี่ยนคำนำหน้าบุคคลได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับ “ด.ญ.นวียา” ชีวิตของเธอถูกถ่ายทอดในรายการสารคดี ‘คนค้นฅน’ (เข้ากูเกิล พิมพ์คำว่า “นวียา” หรือเรื่องintersex ของ “สิริลดา โคตรพัฒน์”)
วิธีการขั้นต่อมาของแพทย์ก็คือ เมื่อเด็กถูกผ่าตัดเอาเพศหนึ่งเพศใดออกไป เด็กก็ต้องกินยาเพื่อกดทับฮอร์โมนเพศนั้นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนเพศนั้นทำงาน เด็กจะได้มีเพศตามที่แพทย์กำหนด คำถามคือเหตุใดเด็กต้องถูกกำหนดให้เป็นเพศใดเพศหนึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ที่เด็กจะมีสองเพศตามที่ธรรมชาติให้มา ถ้าธรรมชาติให้เด็กมีทั้งสองเพศเราก็น่าจะยอมรับได้ ในเมื่อการมีสองเพศไม่ได้ทำร้ายใครและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
การกำหนดเพศชาย-หญิงเป็นการรับเอาวิธีคิดเรื่อง “เพศแบบภาครัฐ” ที่มีแค่ชายกับหญิงมาใช้กับคน วิธีการนี้ทำให้เรามองไม่เห็นมิติอื่นๆ ของความเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ไม่ได้มีแค่เพศชายกับเพศหญิง แต่ด้วยการมองคนว่ามีแค่ชายกับหญิงทำให้หลายครั้งเรากลับทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง
เด็กที่เกิดมามีสองเพศจึงมักถูกพ่อแม่กับแพทย์ตัดสินใจผ่าตัดให้เหลือเพศเดียว เนื่องจากพ่อแม่รับเอาวีธีคิดของภาครัฐเป็นศูนย์กลางแทนที่จะเอา ‘คนเป็นศูนย์กลาง’ เด็กหลายคนเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์มักจะแปรสภาพเป็นเพศตรงข้ามกับเพศที่โรงพยาบาลผ่าตัดให้มา หรือเด็กบางคนเกิดมามีอวัยวะเพศกำกวม ทำให้การแจ้งเพศกำเนิดที่อำเภอเกิดความคลาดเคลื่อน เมื่อเด็กโตขึ้นเพศสรีระ (หน้าตา-ร่างกาย) เป็นอีกเพศในขณะที่เพศในทะเบียนบ้านเป็นอีกเพศ นี่คือปัญหาซับซ้อนที่เกิดขึ้นกับคนสองเพศ
การถูกระบุให้เป็นเพศใดเพศหนึ่ง ‘เร็วเกินไป’ จึงเป็นอีกมิติของปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
หากต้องการให้เด็กสองเพศเป็นเพศใดเพศหนึ่งทางออกอยู่ที่ ‘สถาบันการแพทย์’ และ ‘ภาครัฐ’ ควรจัดเด็กกลุ่มนี้เป็น ‘เด็กพิเศษเพื่อรอการระบุเพศ’ เด็กไม่จำเป็นต้องถูกตัดอวัยวะเพศใดเพศหนึ่งออกไป เพียงแต่ภาครัฐควรมีนโยบาย ‘ชะลอการระบุเพศของเด็ก’ รอให้เด็กมีอายุ 14-15 ปี ถึงตอนนั้น “เพศที่เด่นชัด” ของเด็กจะปรากฏ เมื่อนั้นการระบุเพศของเด็กจะง่ายขึ้น เป็นการดีกว่าที่จะรีบระบุเด็กให้เป็นเพศใดเพศหนึ่ง แล้วปล่อยให้เกิดปัญหาตามมาเหมือนอย่างที่ ‘ด.ญ.นวียา’ กำลังเจอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรสำรวจภาวะจิตของเด็กด้วยว่าเด็กรู้สึกว่าตนเองเป็นเพศใด ให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการระบุเพศของตน ไม่ด่วนระบุเพศที่ ‘ไม่ใช่’ ให้เด็กต้องเผชิญกับปัญหาในภายหลัง
สังคม ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคนสองเพศขึ้นมา เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายกันด้วยทัศนคติในสังคมที่คนเพศเดียวมีอำนาจเหนือกว่า
พ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กสองเพศไม่ควรกลุ้มอกกลุ้มใจ ไม่ควรคิดว่าลูกพิการ ไม่ควรคิดว่าเป็นกรรม ควรเรียนรู้ทำความเข้าใจกับเพศของลูก เลี้ยงดูเขาเหมือนเด็กทั่วไป ให้โอกาสในการเจริญเติบโตและภาคภูมิใจในตัวเขาไม่ว่าเขาจะเติบโตมาเป็นเพศอะไร
สิ่งที่คนจำนวนมากไม่รู้ก็คือ แรกเกิดเป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดา ตัวอ่อนยังไม่มีเพศ เพศของตัวอ่อนจะปรากฏชัดในเดือนที่ ๔ ตัวอ่อนทุกตัวจะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาเป็นเพศหญิงก่อนเสมอ มีปุ่มคริสตอริส มีมดลูกและรังไข่สองข้าง หากตัวอ่อนจะพัฒนาเป็นเพศชาย ปุ่มคริสตอริสที่มีอยู่จะกลายเป็นองคชาติ ปีกมดลูกและรังไข่สองข้างจะแปรสภาพเป็นลูกอัณฑะสองลูก การเกิดเป็นเพศชายจึงต้องอาศัยการเกิดเป็นเพศหญิงก่อน
ดังนั้นในคนคนหนึ่งจะมีทั้งความเป็นชายและความเป็นหญิงผสมผสานกัน พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือคนทุกคนมีความเป็น ‘สองเพศ’ อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว บางครั้งผู้ชายก็มีนิสัยอ่อนโยน เรียบร้อย ชอบทำงานบ้านมากกว่างานที่ใช้แรง หรือบางครั้งผู้หญิงก็มีจิตใจมั่นคงเข้มแข็ง ห้าวหาญ ชอบทำงานที่ใช้แรงมากกว่างานละเอียดอ่อน
โลกนี้จึงไม่มีชายจริง ไม่มีหญิงแท้ เพราะทุกคนต่างมีความเป็นชายและความเป็นหญิงแฝงเร้นอยู่ในตัวเองทุกคน
คนสองเพศในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎกเรียกคนสองเพศ ว่า “อุภโตพยัญชนก” อธิบายไว้ ๒ ลักษณะคือ ‘แบบผู้หญิง’ เรียก อิตถีอุภโตพยัญชนก รูปกายเป็นหญิงมีสองเพศ กับ ‘แบบผู้ชาย’ เรียก ปุริสอุภโตพยัญชนก รูปกายเป็นชายมีสองเพศ ทั้งสองแบบสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้กับคนทุกเพศ ความแตกต่างคือ แบบผู้หญิง ทำให้หญิงอื่นตั้งครรภ์ได้และตนสามารถตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์กับชาย แบบผู้ชายทำหญิงอื่นตั้งครรภ์ได้แต่หากมีเพศสัมพันธ์กับชายจะไม่มีการตั้งครรภ์
นั่นเป็นคำอธิบายในพระไตรปิฎก แต่คนสองเพศในโลกของความเป็นจริงกลับพบว่าพวกเขาไม่ได้มีลักษณะอย่างที่พระไตรปิฎกกล่าวเอาไว้เลย หรือถ้ามีก็พบน้อยมากที่จะมีอวัยวะสองอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะพวกเขามีอวัยวะเพศกำกวม (อ้างอิง : เรื่องIntersex คนสองเพศ ของ นาดา ไชยจิตต์)
คนสองเพศมักเผชิญกับปัญหาเรื่อง ‘เพศภาวะ’ ไม่ตรงกับ ‘คำนำหน้าในบัตรประชาชน’ ทำให้เกิดปัญหาเวลาไปติดต่อทำธุรกรรมต่างๆ เนื่องจากหน้าตากับคำนำหน้าชื่อไม่สัมพันธ์กัน ทำให้ถูกระแวงว่าเป็นคนละคนกับชื่อในเอกสาร ความผิดไม่ใช่เพราะพวกเขามีสองเพศ แต่ความผิดพลาดเกิดจากภาครัฐยังขาดระบบการให้บริการกับคนสองเพศ แท้จริงแล้วภาครัฐควรให้ความสะดวกในการเปลี่ยนคำนำหน้านามแก่พวกเขาเพื่อปัญหาต่างๆ จะได้หมดไป
รายงานจากโรงพยาบาลเด็กระบุว่าพบเด็กที่มีอวัยวะเพศกำกวมประมาณ ๑๕๐ คนต่อปี ทั้งหมดนี้ ‘องค์กรแพทยสภา’ ควรประสานงานกับ ‘กระทรวงมหาดไทย’ เพื่อดำเนินนโยบายเรื่อง ‘ชะลอการระบุเพศ’ ให้กับเด็กที่เกิดมา ๑๕๐ รายต่อปีเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาไม่รู้จบ
"คนจำนวนมากคิดว่า คนสองเพศ เป็นเรื่องแปลกและตลก แต่เราควรหันกลับมาตระหนักรู้มากขึ้นกับเรื่องราวของพวกเขาว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือตลก แท้จริงแล้วเราควรเรียนรู้จากพวกเขามากกว่า"
ภาพประกอบโดย ลสอบต
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชา
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ด่วนวันนี้ ประชาชนในปอยเปต โดนสั่งให้อพยพด่วน หลัง ไข่จากสยามเมืองยิ้ม ลงรัวๆ มากกว่า 15 ลูกภายในวันเดียว
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
เทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
ข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชา
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
แซลม่อน ซึมซับความเป็นญี่ปุ่น ที่หลายคนต้องการเน้นสดอร่อย









