ความรับผิดชอบของ ไอซ์ ศรัญยู & น้องซีวิค9ศพ ตระกูลดัง..ทำไม่มันช่างแตกต่างยิ่งนัก

15 พฤษภาคม 2558 (14:35) โพสท์โดย ลูกสาวอบต

ได้ติดตามข่าวทั้ง2ข่าว ที่เกิดขึ้น เห็นใจกับผู้สูญเสีย ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ความรับผิดชอบ ทำไมช่างแตกต่างกันมาก ของแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับจิตใจและสามัญสำนึกจริงๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 40

นี่คือสิ่งที่ไอซ์กล่าว ......แมนมั้ยล่ะ

แต่ถามว่า 1ศพ กับ 9 ศพ โทษต่างกันมั้ย คงไม่ต่างกันมาก แต่มันบ่งบอกให้เห็นว่าพ่อแม่แพรวามันสั่งสอนมายังไง
ความรับผิดชอบมันถึงไม่มี แถมยังบอกญาติผู้เสียชีวิตอีกว่า ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา แย่มากบอกตรงๆจิตสำนึกแทบไม่มี
ของคดีไอซ์นี่ ญาติผู้เสียชีวิตไม่เรียกร้องอะไรเลย ซ้ำยังบอกไอซ์ด้วยว่าเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ สุดยอดมั้ยล่ะ
แค่แสดงความรับผิดชอบครอบครัวผู้สูญเสียเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว แต่คดีแพรวาแม่มน่าประจารให้สังคมได้รับรู้จริงๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 30

ตามเนื้อข่าว

ไอซ์ขับรถมาตอนกลางคืน (จริง) + ไฟถนนเสียช่วงนั้น (จริง) + ไม่ได้ขับรถเร็ว (จากปากคำไอซ์ ต้องรอถามคนขับ แทกซี่ชนท้ายอีกทีว่าจริงไหม?) + มีการชนเกิดขึ้น (จริง) -------------------------> ไอซ์ "ยอมรับผิดชอบและแสดงความเสียใจทันที" !! ------------------------> ส่วนทางกฏหมายก็ว่ากันต่อไป

แพรวา ขับรถตอนกลางคืน (จริง) + ขับรถเร็ว (จริง) + ชนรถตู้ (จริง) -----------------------------> "ทีมกฏหมายบอกแพรวาไม่ได้ชนรถตู้" !!

" วานนี้ (25 ก.พ.) ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่งแถลงการณ์ในฐานะตัวแทนของครอบครัวของผู้ต้องหาในคดีอุบัติเหตุบนทางยกระดับ อุตราภิมุข ................. ในส่วนของกระบวนการตามกฎหมายนั้น ขอเรียนว่า เราได้ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ตนมิได้เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารดังที่เป็นข่าว แต่เพราะต้องหักหลบรถตู้โดยสารที่เปลี่ยนเส้นทางกะทันหันเข้ามาในช่องทางที่ผู้ต้องหานั้นขับรถอยู่ จนทำให้รถที่ผู้ต้องหาขับขี่มานั้นเสียหลักชนเข้ากับกำแพงกั้นขอบทาง เป็นเหตุให้รถยนต์เก๋งซีวิคได้รับความเสียหาย และตัวผู้ต้องหาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน"