หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กบฏชาวนาก่อนยุคประชาธิปไตย

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

กบฏชาวนาก่อนยุคประชาธิปไตย :
บทเกริ่นว่าด้วยกบฏในราชวงศ์ชิง



คำบรรยายภาพ: การประหารชีวิตด้วยการตัดหัวกบฏนักมวย

ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจกับนิยาม "กบฏ" เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่เป็นเอกภาพสำหรับข้อเขียนชิ้นนี้ เนื่องจากคำว่า "กบฏ" ครอบคลุมความหมายอยู่หลายบริบทที่หมายถึง "การยึดอำนาจการปกครองที่ไม่สำเร็จ" ไม่ว่าการยึดอำนาจนั้นจะมีจุดมุ่งหมายหรือเนื้อหา "เปลี่ยนผ่านระบอบการปกครอง" หรือเพียงแต่ "เปลี่ยนมือผู้กุมอำนาจการปกครอง" แต่ทั้งนี้ เนื้อหาที่มีลักษณะร่วมประการสำคัญคือเป็นการ "ลุกขึ้นใช้กำลังอาวุธเข้าโค่นล้มอำนาจการปกครองเดิม" โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในหมู่ "ผู้ปกครอง" หรือ "การลุกขึ้นสู้" โดยผู้คนธรรมดาสามัญชนหรือข้าทาสบ่าวไพร่ที่เป็น "ผู้ถูกปกครอง"

ในประวัติอารยธรรมของมนุษย์ยุคการปกครองก่อนประชาธิปไตยคือ ยุคศักดินาสวามิภักดิ์ และยุคราชาธิปไตย หรือที่ในประเทศไทยใช้ว่า "ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์" นั้นเคยเกิดการลุกขึ้นสู้ขึ้นหลายครั้ง จากสาเหตุหลักถูกสภาพแวดล้อมบังคับกดดันอย่างหนัก และหาทางออกด้วยการล้มล้างสังคมเก่า โดยอาศัยความเชื่อทางศาสนาเป็นอุดมการณ์ บางครั้งเป็นความพยายามลุกขึ้นสู้ของ "ทาส" ในประวัติศาสตร์ยุโรป บางครั้งเป็นการลุกขึ้นสู้ของไพร่ที่มีรากฐานการผลิตแบบเกษตรกรรม ซึ่งเรียกกันว่า "กบฏชาวนา" ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของผู้คนในท้องถิ่น ก่อตัวกันลุกฮือขึ้นต่อต้านนโยบายของรัฐอันก่อให้เกิดผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน เช่น การเอารัดเอาเปรียบจากภาครัฐ ทั้งนโยบายที่มีลักษณะการเอารัดเอาเปรียบจากภาครัฐ ทั้งที่มาจากส่วนกลางและทั้งจากขุนนางอำมาตย์หรือเจ้าศักดินาในท้องถิ่นเอง เช่น การเพิ่มภาษีอากร การเก็บส่วนเกณฑ์แรงงานไปการศึกสงคราม

ทั้งนี้ ที่จะละเว้นไม่นำมาพิจารณาในข้อเขียนชิ้นนี้คือ การแย่งยึดอำนาจกันเองของ "ชนชั้นผู้ปกครอง" ทั้งการแย่งราชสมบัติในเชื้อสายราชวงศ์เดียวกัน หรือจากต่างสายราชวงศ์ รวมทั้งการลุกขึ้นแย่งยึดอำนาจจากเจ้าศักดินาเดิมโดยขุนนางอำมาตย์ ซึ่งนำไปสู่การสถาปนาราชวงศ์ใหม่ในกรณีที่ก่อการสำเร็จ หรือการกลายเป็น "กบฏ" ที่เรียกกันว่า "ประหารเจ็ดชั่วโคตร"

สำหรับในบริบทของ "กบฏชาวนา" ที่แยกออกจากการ "แย่งยึดอำนาจกันเอง" ในหมู่ชนชั้นปกครองในระบอบศักดินาก็ดี หรือในระบอบราชาธิปไตยหรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ดี ล้วนแล้วแต่ยากหรือแทบไม่เคยประสบความสำเร็จเลยในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ หากยกตัวอย่างในอาณาจักรจีน นับจากการรวมแผ่นดินและสถาปนาเป็นอาณาจักรหนึ่งเดียวในสมัย "จิ๋นซีฮ่องเต้"ที่เรียกว่า "ยุคจ้านกว๋อ" ที่ต่อจาก "ยุคชุนชิว" ซึ่งเป็นยุคแห่งการสู้รบกันระหว่างแคว้นต่างๆเพื่อชิงความเป็นใหญ่กว่า 255 ปี โดยมีแคว้นขนาดใหญ่ 7 แคว้นคือ ฉู่, ฉี, หาน, เอี้ยน, จ้าว, เว่ย และฉิน มีกบฏครั้งใหญ่ 3 ครั้งในยุคราชวงศ์ "ชิง" อันเป็นช่วงเวลาที่ชาวฮั่นซึ่งเป็นชนชาติส่วนใหญ่ของจีนถูกปกครองโดยชาวแมนจู ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้ยกทัพเข้าโจมตีและเข้ายึดกรุงปักกิ่งอันเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์หมิงได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1644 และได้เปลี่ยนชื่อจาก "แมนจู" เป็น "ชิง" และสถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้นในปีเดียวกันนั่นเอง (ราชวงศ์ชิงปกครองจีนจนถึงปี ค.ศ. 1911 มีจักรพรรดิทั้งสิ้น 10 พระองค์ และถูกโค่นล้มโดย "การปฏิวัติซินไฮ่" ที่มี ดร.ซุน ยัตเซ็น เป็นผู้นำ จนได้รับสมญาว่าเป็น "บิดาของจีนใหม่")

การลุกขึ้นสู้หรือกบฏชาวนาครั้งใหญ่ 3 ครั้งดังกล่าวคือ

กบฏพรรคดอกบัวขาว ในรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลง ที่มีเป้าหมายฟื้นฟูราชวงศ์ต้าหมิง (ไต้เหม็ง) แต่การลุกขึ้นสู้ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 1794 และขยายตัวจนดูเหมือนว่าอาจนำไปสู่ชัยชนะขั้นต้นในปี 1796 ถูกทำลายล้างสิ้นในปี 1800 มีการบันทึกตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากการลุกขึ้นสู้นี้ 16 ล้านคน

กบฏไท่ผิง โดยราษฎรจีนเริ่มรวมตัวต่อต้านอำนาจรัฐ มีผู้นำคือ หงซิ่วฉวน เป็นชาวอำเภอฮัวเซี่ยน มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งได้รับอิทธิพลของคริสต์ศาสนา ร่วมกับเฝิงอวิ๋นซาน ก่อตั้งสมาคมนับถือพระเจ้าในคริสต์ศาสนาที่มณฑลกว่างซี แล้วกลายสภาพเป็นกบฏไท่ผิงเทียนกว๋อในเวลาต่อมาในปี ค.ศ. 1851 ปลายรัชสมัยจักรพรรดิเต้ากวง

กองทัพของหงซิ่วฉวนกับเฝิงอวิ๋นซานมีกำลังพลกว่าล้านคนบุกยึดเมืองหนานจิงได้ในปี ค.ศ. 1853 เป็นปีที่ 3 ในรัชสมัยของจักรพรรดิเสียนเฟิง แต่แล้วหลังจากได้ชัยชนะในหลายสมรภูมิช่วงท้ายของกบฏไท่ผิงเทียนกว๋อ ผู้นำทั้งสองเกิดความขัดแย้งกันเองด้วยการแยกตัวเป็นอิสระ การลอบสังหารกันด้วยความระแวงใจ ทำให้กองทัพกบฏเริ่มอ่อนแอลง กอปรกับราชสำนักชิงขอร้องกองทัพอังกฤษซึ่งมีอาวุธทันสมัยและทหารแข็งแกร่งให้ช่วยกวาดล้างกบฏแลกกับผลประโยชน์ที่เสนอให้อังกฤษ ฝ่ายกบฏเริ่มสูญเสียที่มั่นไปจนถึงปลายปี ค.ศ. 1863 รัชสมัยของจักรพรรดิถงจื้อ (ซึ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลของอดีตสามัญชนชื่อ "เยโฮนาลา" หากได้เข้าวังเป็นนางสนมและได้รับการยกเป็น "เจ้าจอมหลัน" และในเวลาต่อมาได้เป็นพระนางซูสี มเหสีฝ่ายซ้าย หรือซูสีไทเฮา) ปีที่ 2 ทหารชิงและทหารต่างชาติล้อมเมืองเทียนจินได้ ปีถัดมาเมืองนั้นเกิดสภาพอดอยาก หงซิ่วฉวนฆ่าตัวตาย เมืองเทียนจินแตก จึงถือเป็นการปิดฉากกบฏไท่ผิงเทียนกว๋อลง แต่จิตวิญญาณต่อต้านราชวงศ์ชิงยังฝังแน่นในหัวใจของชาวฮั่น ซึ่งส่งผลสืบเนื่องให้เกิดการปฏิวัติต่อต้านแมนจูในเวลาต่อมา ตลอดช่วงของการลุกขึ้นสู้ครั้งนี้มีการบันทึกว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 20 ล้านคน

ก่อนหน้าที่จักรพรรดิเสียนเฟิงจะสิ้นพระชนม์ได้ฝากราชโองการลับไว้ฉบับหนึ่งให้กับมเหสีฝ่ายขวาคือ พระนางซูอัน กำจัดพระนางซูสี มเหสีฝ่ายซ้าย ซึ่งในเวลานั้นมเหสีทั้งคู่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระโอรส จักรพรรดิถงจื้อ ซึ่งยังทรงพระเยาว์อยู่ ต่อมาพระนางซูสีวางยาสังหารพระนางซูอัน จนสามารถรวบอำนาจไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว)

กบฏนักมวย ซึ่งเป็นการลุกฮือต่อต้านจักรวรรดินิยมและคริสต์ศาสนา นำโดย "สมาคมอี้เหอถวน" เริ่มต้นขึ้นในเมืองซานตงในปี 1898 มีการลอบสังหารมิชชันนารีชาวตะวันตก ประณามชาวต่างชาติ และเผาโบสถ์ ฯลฯ ในชั้นต้นกบฏนักมวยได้รับการสนับสนุนจากพระนางซูสีไทเฮามาก ทั้งด้านการส่งทัพหลวงมาช่วย และหนุนช่วยในด้านอาวุธยุทธโธปกรณ์ต่างๆ จนกล่าวได้ว่าถูกหลอกใช้ โดยคิดจะคานอำนาจและสร้างการต่อรองกับมหาอำนาจตะวันตกหลังจากเข้ามามีอิทธิพลในจีน และได้ส่งกำลังทหาร อาวุธที่ทันสมัย และมิชชันนารีเข้าไปเผยแผ่ศาสนาคริสต์ แต่ในที่สุดในการยุทธ์หลายครั้งที่เรียกกันว่า "ศึกพันธมิตรแปดชาติ" (รวมญี่ปุ่นด้วย) ก็สามารถปราบกบฏนักมวยลงได้สำเร็จ สามารถยึดเมืองเทียนจินได้ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1900 ความสูญเสียที่มีบันทึกไว้ ผู้เสียชีวิตเป็นทหารต่างชาติ 2,500 คน พลเรือนชาวต่างชาติ 525 คน ชาวจีนที่นับถือศาสนาคริสต์หลายพันคน ในขณะที่ทหารจีนที่ทางราชสำนักส่งมาสนับสนุนเสียชีวิตประมาณ 20,000 คน และกองกำลังกบฏนักมวยประมาณ 100,000-300,000 คน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิง และสามารถสถาปนาระบอบสาธารณรัฐขึ้นในปี ค.ศ. 1911

ในการลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง รวมทั้ง 3 ครั้งดังกล่าว กล่าวได้ว่าเกิดขึ้นจากการถูกสภาพแวดล้อมบังคับกดดันอย่างหนัก และหาทางออกด้วยการล้มล้างสังคมเก่านั้น...

กบฏทั้งหมดใช้ไสยศาสตร์นำ และถูกปราบราบคาบ.


พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข 18-24 สิงหาคม 2555
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง  ผู้เขียน อริน

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: เอ๋ง ไม่ดัดจริต, ไอ้หมาบ้า, waynem, GINMAN
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้านนักบอลดัง "มาริโอ ปิเนด้า" ทีม "บาร์เซโลนา" ถูกยิงดับ"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้งปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นายนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้งทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 334 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้านช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
ตั้งกระทู้ใหม่