ผู้ชายกับการศัลยกรรมดูดไขมันทำ Six pack แบบไหนทำแล้วจึงจะเห็นผล?
ความโดดเด่นของฮอร์โมนแอนโดรเจนในเพศชาย
ทำให้เกิดมีขนที่หน้าอก แขน มีลำคอ กระเดือก และกล่องเสียงใหญ่ หน้าอกจะเป็นกล้ามเนื้อทั้งเหนือหน้าอกและตัวหน้าอก หัวนมจะเล็ก ช่วงอกจะเห็นกล้ามเป็นมัดๆ แผ่นหลัง และไหล่จะกว้างกว่าผู้หญิง อกผาย โดยกล้ามเนื้อที่อกจะหนาและแข็งแรง เป็นรูปตัว V ผู้ชายจะมีเอวต่ำ แบน และมีกล้ามเนื้อ ไขมันจะสะสมบริเวณหน้าท้อง และรอบเอว เชิงกรานจะเล็ก และแคบ ก้นและสะโพกจะแบน และแคบกว่าไหล่ แขน และขาจะมีกล้ามเนื้อ และเห็นเส้นกล้ามได้อย่างชัดเจน
การปรับแต่งรูปร่างเพศชาย
- จะเป็นการปรับแต่งกล้ามเนื้อไหล่ให้กว้างและหนา (Arms zone)
- สร้างความกว้างของแผ่นหน้าอก (Pectoral surgery)
- การปรับกล้ามเนื้อหน้าท้องให้เป็นซิกแพ็ค (Abdominal six pack)
ผู้ที่เหมาะสมในการปรับกล้ามเนื้อหน้าท้องให้เป็นซิกแพ็ค
- มีร่างกายที่เหมาะสมดังนี้
1.1 ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมเรื่องการทานอาหาร แต่ไม่สามารถขจัดไขมันในบางบริเวณออกไปได้ ถึงแม้จะพยายามแล้ว
1.2 ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำแต่มีไขมันไม่มากนัก สุขภาพแข็งแรง โดยทั้งสองกลุ่มควรมีดรรชนีมวลกาย ไม่เกิน 30 (BMI <30)
ถ้าดรรชนีมวลกายเกิน 30 อาจจะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป ว่าสามารถทำได้แค่ไหน
- มีผิวหนังที่ค่อนข้างตึง ไม่เหี่ยวย่น
- ไม่ควรมีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายต่อการผ่าตัด
- ไม่สูบบุหรี่
- ในผู้ที่ได้รับการดูดไขมันมาก่อนแล้ว แต่ต้องการความชัดเจนขึ้นสามารถทำได้แต่ผลของการผ่าตัดนั้น อาจจะไม่ดีเท่าในรายที่ไม่เคยทำมาก่อน
ตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายจะมีชั้นของไขมันที่แตกต่างกัน
ในบริเวณที่มีการทำซิกแพ็คตั้งแต่ใต้ราวนม หน้าท้องและต้นขา จะมีชั้นของไขมันอยู่ 2 ชั้น คือ ชั้นไขมันที่ติดกับผิวหนังเรียกว่า
Superphicial layer ชั้นไขมันที่ลึกลงไปที่เรียกว่า Deep layer ในบริเวณนี้ตั้งแต่เหนือสะดือขึ้นไปหรือต่ำกว่าใต้สะดือลงมา ซึ่งจะมีความหนามากกว่าการทำ VASER- Assisted High-Definition
Liposculpture (VAHDL) บริเวณหน้าท้องเพื่อสร้างซิกแพ็ค โดยจะมีการดูดไขมันที่ชั้น Superphicial layer บางตำแหน่งที่ต้องเน้นลายเส้นกล้ามเนื้อให้ชัดเจนจะดูดไขมันชั้น Deep layer จากนั้นจะมีการดูดและตกแต่งทำให้ไขมันห่อหุ้มกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ให้เรียบเนียนและสวยงามแบบธรรมชาติ โดยมีกล้ามเนื้อ 6 มัดเหนือสะดือ
บทความโดย : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
Website : www.kamolhospital.com
Fan page: www.facebook.com/kamolcosmetichospitalthai