เป็น'คนจน' ดีกว่าเป็น'คนรวย' อย่างไร
ภาพนี้สื่อถึงช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในฟิลิปปินส์ได้ค่อนข้างชัดเลยนะ
เด็กน้อยลูกคนจนจ้องมองเด็กลูกคนรวยขี่จักรยานใหม่เอี่ยมด้วยความอิจฉา
คนรวยส่วนใหญ่มักเป็นที่อิจฉาของคนจน แต่หารู้ไหมว่าคนจนนั้นน่าจะดีใจได้บ้างที่ตนเกิดมายากจน และถ้าอยากคิดอยากจะอิจฉากันจริง ๆ ควรจะไปอิจฉาคนจนด้วยกันที่มีความสุขเสียดีกว่าเพราะการเป็นคนรวยนั้น มิได้นำมาซึ่งความสุขได้ง่าย ๆ อย่างที่คิด คนที่ร่ำรวยนั้นบางทีการได้รับประทานอาหารที่มีราคาแพง หรือมีรถยนต์ดี ๆ ราคาแพงขับก็ไม่ได้ทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกมีความสุขได้ เพราะการมีกินมีใช้นั้นถือเป็นเรื่องที่คนรวยเคยชิน แต่สิ่งที่ทำให้คนรวยมีความสุขคือการมียศถาบรรดาศักดิ์ และการได้รับคำสรรเสริญเยินยอ การมีชื่อเสียงที่ดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องช่วยให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง กล่าวคือ คนรวยก็ยังอยากรวยอยู่เรื่อย ๆ เพื่อรักษาความเป็นคนรวยต่อไป เพื่อรักษาเกียรติชื่อเสียง และคำสรรเสริญเยินยอที่ยังอยากได้ยินอยู่เรื่อย ๆ
ในทางตรงกันข้ามที่คนจนนั้น ถึงแม้จะดูแล้วชีวิตไม่น่าอภิรมย์อย่างคนรวยแต่ด้วยสภาวะความที่เป็นคนที่ยากจนก็ทำให้ต้องกินอยู่อย่างพอเพียง เมื่อมีกินก็มีสุข แต่เมื่อไม่มีกินก็ทุกข์ ความสุขหรือทุกข์อยู่ในการมีกินกับไม่มีกินถามว่าการไม่มีกินเป็นความทุกข์หรือไม่ก็เป็น แต่ถ้ามาชั่งน้ำหนักกับความพยายามที่คนรวยจะต้องรักษาเกียรติรักษาชื่อเสียง รักษาความรวย รักษาความมีหน้ามีตาในสังคม อันนี้อาจจะเป็นน้ำหนักของความทุกข์ที่มากกว่าเมื่อคนจนนั้นไม่มีกินก็เพียงแต่ไปทำมาหากิน ซึ่งก็เป็นทางแก้ทุกข์ที่ตรงไปตรงมา
ในขณะที่คนรวยนั้นมีการศึกษาดีมีหน้าตาทางสังคมที่ดี แต่บางครั้งอาจไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาความทุกข์ได้อย่างตรงไปตรงมาเหมือนคนจน เพราะการจะอาศัยอยู่ในสังคมด้วยภาพลักษณ์ที่ดีและประสบความสำเร็จ มิใช่แค่ทำมาหากินไปวัน ๆ เหมือนคนจน แต่ต้องคิดต้องวางแผน ต้องคาดการณ์ ต้องระแวงต้องระวังอะไรต่าง ๆ มากมาย และด้วยความที่ต้องทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อรักษาความรวยและภาพลักษณ์ที่ดีก็เป็นเหตุให้จิตใจคนรวยคิดปรุงแต่งฟุ้งซ่านไปสารพัดจนไม่สามารถหยุดคิดได้ เพราะสิ่งที่เรียกกันว่า "ความสุข"ของคนรวยนั้น มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนกว่าคนจนเหลือเกินที่ขอแค่มีข้าวกินมีเงินรักษาโรคยามเจ็บป่วยเพียงเท่านี้อันเป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนและสามารถสร้างความสุขใจได้ โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแบกเอาหน้าตาทางสังคมให้คงไว้
การแบกหน้าตาทางสังคมนั้นเป็นการแบกที่หนักมากกว่าการแบกท้องประทังหิวไปวัน ๆ เพราะการมีหน้าตาทางสังคมที่ดีนั้นหมายถึงทุกอย่างที่ปรากฏต่อสายตาคนอื่น ๆ ต้องออกมาดูดี แต่คนเรานั้นก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง ๆ ที่มีสิ่งที่อยากทำ และไม่อยากทำ คนรวยหลายต่อหลายคนอยากทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ทำไม่ได้เพราะเกรงว่าจะเสื่อมเสียต่อหน้าตาทางสังคม ในทางตรงกันข้ามเกิดเป็นคนจนจะคิดจะทำอะไรจะอยากทำก็ใคร่ทำ (ยกเว้นเสียแต่ว่าสิ่งที่ใคร่อยากทำนั้นจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้ผู้อื่น หรือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย) เพราะมิได้เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน หรือคนอื่น ๆ เท่าใดนัก อาทิ ลูกคนจนทำความผิดมหันต์ต้องขึ้นโรงพัก ถ้าเป็นคดีรุนแรงก็อาจจะเป็นข่าวสักวันสองวัน แต่ถ้าเป็นคดีเดียวกันแต่ก่อขึ้นโดยลูกของคนมีสตางค์มีชื่อเสียง ก็จะกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาทีเดียว
ฉะนั้น จึงเป็นที่น่าเสียดายที่คนจนหรือคนที่ฐานะปานกลางในสังคมไทยหลายต่อหลายคนมีความรู้สึกอยากรวยถามว่าความรู้สึกอยากรวยนั้นผิดหรือไม่ผมว่าไม่ผิด เพราะในยุคสมัยที่ระบอบทุนนิยมเข้ามาครอบงำเช่นนี้ เงินก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะนำมาซึ่งชีวิตที่ดี อาทิ ถ้าท่านมีบุตร ท่านต้องใช้เงินในการที่จะทำให้บุตรของท่านได้รับการศึกษาที่ดี ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีได้มีเสื้อผ้า ได้มีของเล่น ได้มีเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับเด็กที่มีคุณภาพ
เพราะฉะนั้นจึงไม่ผิดที่ท่านคิดอยากรวย แต่ถ้าท่านคิดอยากรวยมากเกินไปหรือคิดอยากรวยอย่างไม่พอเพียงอันนี้ก็จะเป็นความคิดที่ผิด เพราะนั้นจะกลายเป็นความฟุ้งเฟ้อ ความฟุ้งเฟ้อนี่เองที่จะเป็นตัวการให้ชีวิตนั้นถูกดำเนินไปในทางที่แย่ และถ้าท่านไม่สามารถทำมาหากินเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ท่านต้องการ ท่านก็จะเป็นทุกข์ หรือถ้าท่านสามารถพยายามปากกัดตีนถีบเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุที่ต้องการเพื่อให้ท่านดูรวยขึ้น ท่านก็ต้องมีความทุกข์ตรงที่ต้องพยายามรักษาหน้าตาทางสังคมที่ดูรวยขึ้นต่อ ๆ ไป ซึ่งก็จะเป็นเรื่องที่ยากกว่าการที่จะทำมาหากินเพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ หรือเพียงเพื่อมีชีวิตที่พอเพียง
ในขณะที่คนที่รวยหลาย ๆ คนก็อยากรวยขึ้น มีธุรกิจสิบล้านก็อยากมีธุรกิจพันล้าน มีธุรกิจพันล้าน ก็อยากมีธุรกิจหมื่นล้าน ลำพังเงินล้านของท่านคงจะไม่ยากเท่าไหร่หรอกในการที่จะเก็บรักษา เพราะท่านสามารถนำเงินไปฝากไว้กับธนาคาร แต่สิ่งที่ยากที่หนักที่ท่านต้องแบกรับไว้คือ ความเป็นคนรวยมาก อันเป็นหน้าตาทางสังคมของท่าน ท่านจะต้องดีหรือดูดีไปเสียหมดทุกอย่าง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความทุกข์ใจผมคิดว่าธรรมชาติมนุษย์เกิดมาก็เพื่อจะต้องดูแลเพียงกายและใจให้เป็นสุขดั่งเหมือนคนจนที่หาเช้ากินค่ำ เพื่อดูแลร่างกายให้ระงับความหิวโหย และประกอบกิจกรรมการบันเทิงอย่างพอเพียงเพื่อสร้างความสุขทางใจ ส่วนการดูแลรักษาเกียรติยศชื่อเสียง หรือหน้าตาทางสังคมนั้น ผมถือว่าเป็นหน้าที่ที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง มิใช่เป็นหน้าที่ทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเมื่อสิ่งนี้มิได้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ก็จึงเป็นความซับซ้อนของมนุษย์ที่มีฐานะดีทั้งหลายที่ต้องผจญ แต่แทนที่จะผจญอย่างมีความสุขกลับกลายเป็นผจญอย่างมีความทุกข์
สุดท้ายนี้ มิได้ต้องการสื่อว่าทุกคนควรจะต้องเป็นคนจน หรือคนรวยทุกคนต้องมีความทุกข์ แต่บทความนี้พยายามจะสื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นว่าไม่ว่าท่านจะอยู่ในฐานะใดท่านก็สามารถมีความสุขได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเกิดเป็นมนุษย์เราแท้จริงก็เพียงแต่มีหน้าที่ดูแลรักษากายและใจให้เป็นสุข ซึ่งกายและใจที่เป็นสุขนั้นมิจำเป็นจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ๆ เสมอไป