หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กะเทยอินเดีย "ฮิจร่า" (Hijra) ผู้บูชาพระแม่พหุชระ

โพสท์โดย ขนมปังขิง

 

ที่อินเดีย.......... จะมีกลุ่มผู้ชายแต่งหน้าทาปาก นุ่งชุดส่าหรี ใส่เครื่องประดับอย่างสวยงาม

พร้อมกับปรบมือเสียงดังเป็นจังหวะสลับกับการร้องเพลงเพื่อขอเก็บเงิน จากผู้โดยสารบนรถไฟ

บุคคลกลุ่มนั้นคือ ฮิจร่า

 

 

ในสังคมอินเดียนั้น สามีจะดีใจเมื่อภรรยาคลอดบุตรออกมาเป็นชาย เนื่องจากในคัมภีร์ มนู ของศาสนาฮินดูนั้นเชื่อว่าผู้ที่แต่งงานแล้วมีบุตรชาย เมื่อตายไปแล้ว พ่อ-แม่ จะไม่ตกนรกขุมปุตะ แต่คนอินเดียนั้นจะไม่ยอมรับเมื่อบุตรชายของเขานั้น เป็นชายไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กคนนั้นจะถูกขับออกจากบ้าน หรือไม่ก็หนีไปอยู่ยังกลุ่มของ ฮิจร่า ให้ได้รับการดูแล เขาจะถูกตัดขาดจากทางบ้านและจะไม่มีใครรู้จักเขาอีกต่อไป นี่เป็นวัฒนธรรมอินเดียที่สืบทอดกันมาหลายพันปีแล้ว

ชาวฮิจร่าจึงมักจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเกื้อกูลช่วยเหลือกัน กลุ่มหนึ่งมีราว 5 คนหรือมากกว่านั้น โดยมี “กูรู” เป็นผู้นำ และมีกฏเกณฑ์ภายในกลุ่มของตนเอง และมีการสอนร้องเพลง เต้นรำ และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพ

ฮิจร่าส่วนใหญ่แล้วไม่ได้รับการศึกษา ไม่สามารถหางานทำได้เพราะสังคมไม่ยอมรับ งานที่สามารถทำได้ คือ การอวยพรในวันเกิดของเด็กเกิดใหม่

การเต้นรำในงานแต่งงาน ซึ่งเป็นงานที่เป็นที่ยอมรับและให้เกียรติชาวฮิจระ อีกทั้งการรวมตัวเป็นกลุ่มไปขอเงินตามที่ต่างๆ ร้านค้า หรือแม้แต่บนรถไฟ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย เพราะเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์

อีกประเภทหนึ่งนอกจากนั้นก็คือ การขายบริการทางเพศ ซึ่งฮิจร่ามักถูกกระทำรุนแรงทางเพศในที่สาธารณะ ในสถานีตำรวจ ในคุก อยู่เสมอ ทั้งยังขาดไร้ซึ่งสิทธิในด้านสุขภาพ การศึกษา ที่อยู่อาศัย อาชีพ กฎหมาย และระบอบการปกครองอื่นที่ไม่สามารถระบุพวกเขาได้ว่าเป็นเพศใด

เรามักพบเห็นฮิจร่าได้ทั่วไปตามท้องถนน สถานีรถไฟ และที่สาธารณะต่างๆ ที่ทำการขอเงินจากผู้คนที่สัญจรไปมา

โดยเฉพาะผู้ชาย ถ้าถูกปฏิเสธ ฮิจร่าก็จะพยายามทำให้ผู้ชายที่ตนขอเงินนั้นรู้สึกขวยอายต่อหน้าคนอื่นๆ โดยกระทำการลามกต่างๆ

อย่างเช่น การใช้มือล้วงจับอวัยวะเพศของตนแล้วเอามาป้ายที่หน้าคนคนนั้น

หรือ ใช้ภาษาที่หยาบคาย หรือล่วงล้ำทางเพศ บ้างก็ข่มขู่ที่จะโชว์ของลับให้ดูต่อหน้าถ้าไม่บริจาคเงินให้

 

 

ฮิจร่าในอินเดียจึงมีภาพลักษณ์ในสองด้านที่ตรงกันข้ามกัน

1 .ด้านหนึ่งก็ถูกสังคมรังเกียจ ไม่ยอมรับ และสบประมาทด้วยคำเรียกต่างๆ

2. อีกด้านกลับได้รับการยกย่องให้เกียรติเชิญมาอวยพรในวันเกิดทารกเพศชาย หรือมาแสดงดนตรี ร้องเพลง เต้นรำ ในงานแต่งงาน 
ซึ่งเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์มาสู่ครอบครัวนั้น เนื่องจากฮีจาร่านั้น บูชาเจ้าแม่ Bahuchara Mata(พระแม่พหุชระ) เขาจึงมีความสามารถพิเศษ ที่ให้พรผู้คนต่าง ๆ ได้ โดยการกล่าวว่า “มีลูกชายเยอะ ๆ” ในบทเพลงอวยพรงานแต่งงานของ ฮีจาร่า เป็นบทเพลงแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวให้มีความรักกันยืนยาว และมีลูกชายลูกสาวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

 

พระแม่พหุชระ หรือ พระแม่มาตากี

 

 

พระแม่มาตากี เป็นเทพองค์หนึ่งในศาสนาฮินดู พระองค์เป็นเทวีที่ได้รับการบูชาเป็นอย่างยิ่งจากคนกลุ่มหนึ่ง ที่เราเรียกกันว่าเพศที่สาม รูปลักษณ์ที่ปรากฏของพระองค์นั้น คือพระองค์จะทรงพาหนะเป็นไก่เพศผู้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ผู้ที่บูชาพระองค์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ และ ไม่มีพฤติกรรมที่ชั่วช้าต่างๆ เพราะเชื่อว่าเหตุเหล่านั้นนำมาซึ่งความรุนแรงและความหายนะ สัญลักษณ์ประจำพระองค์คือ พระหัตถ์ขวาบนทรงถือดาบ พระหัตถ์บนซ้ายถือพระคัมภีร์ พระหัตถ์ขวาล่างทรงแสดงมุทราประทานพร ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่างทรงถือตรีศูร พระองค์เป็นภาคปางหนึ่งแห่งพระแม่อุมาเทวี ตามประวัติว่าทำไมเพศที่สามถึงบูชากันนัก มีอยู่หลายตำนาน

 

 

 

ทำไมเพศที่สามถึงบูชาพระแม่พหุชระหรือพระแม่มาตากีมีอยู่หลายตำนาน

 

ในคัมภีร์ รามายณะ ได้กล่าวถึงกลุ่มของ ฮีจร่า ว่าในขณะที่กลุ่มชนได้เดินทางไปส่งพระราม เนื่องจากพระรามต้องเดินทางไปอยู่บำเพ็ญพรตในป่าเป็นเวลานาน จนถึงชายป่า พระรามได้ตรัสกับกลุ่มชนว่า “ผู้ชาย ผู้หญิงทั้งหลาย ให้กลับไปบ้านของเจ้าเถิด” กลุ่มชนเหล่านั้นก็เดินทางกลับบ้านของตนอย่างเชื่อฟัง จนถึงเวลา ๑๔ ปี พระรามเดินทางกลับออกจากป่า พระรามได้พบกับกลุ่มของ ฮีจร่า รอพระองค์อยู่ เนื่องจากพระรามมิได้บอกให้กลุ่มของ ฮีจร่า เดินทางกลับ (เพราะไม่ใช่เพศชายหรือเพศหญิง) พวกเขาเฝ้ารอพระรามอย่างเชื่อฟัง จึงทำให้พระรามเกิดความดีใจที่กลุ่ม ฮีจาร่า มีความเคารพศรัทธาในคำพูดของพระองค์ จึงประสาทพรให้ ฮีจร่า สามารถให้พรใครก็ได้ และสามารถสาปแช่งใครก็ได้ ให้เป็นไปตามคำพูดของตน

 

อรฺธนารีศวร

 

ในคัมภีร์ บางเล่มได้กล่าวถึงพระศิวะคิดแผลง ๆ แปลงกายทำพระองค์เป็นสองเพศ เพศหญิง(อิตถีลิงค์) ครึ่ง เพศชาย (ปุงลิงค์) ครึ่ง มีนามว่า อรรธนารี หรือ อรรธริศวร คือเป็นพระศิวะก็เรียกได้ เป็นพระปารวตีก็เรียกได้ ในบางครั้งพระศิวะแปลงเพศเป็นหญิงแท้ ๆ ก็มี ดังคราวครั้งหนึ่งพระองค์แปลงเป็นนารีในที่รโหฐาน เพื่อล้อพระอุมาเล่นในเมื่อทรงพระสำราญ ฉะนั้นสรรพสิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นก็กลายเพศเป็นอิตถีไปหมด

 

เจ้าชายอรชุนในคราบฮิจร่าใช้ชื่อปลอมว่า "พฤหันนลา"


ในคัมภีร์ มหาภารตยุทธ ก็เช่นกัน ได้กล่าวถึง ห้าพี่น้องตระกูล ปาณฑพ หลังจากแพ้การเล่นสกาแล้ว ตามเงื่อนไขต้องอยู่ในป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี เมื่ออยู่ป่าเป็นเวลา ๑๓ ปีครบแล้ว ในปีสุดท้ายต้องปลอมตัวมิให้ฝ่ายศัตรูจำได้ มิเช่นนั้นต้องอยู่ป่าเป็นเวลาอีก ๑๒ ปี หนึ่งในห้าพี่น้องนั้นก็คือ เจ้าชายอรชุน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ได้ปลอมตัวเป็น ฮิจร่า เพื่อสอนนาฏศิลป์และดนตรี มีชื่อปลอมว่า "พฤหันนลา" อยู่ในราชสำนักของท้าววิราฏ

 

ฮิจร่าไม่ได้มีเเต่ยากจนข้นเเค้น มีฮิจร่าหลายๆคนประสบความสำเร็จร่ำรวยได้เหมือนกัน อาจจะเเตกต่างกับกะเทยไทย ในเรื่องของการยอมรับจากครอบครัวเเละที่ยืนในสังคมที่แตกต่างกัน

ฮิจร่าที่สวยๆก็สามารถเข้าประกวดสาวประเภท 2 ที่จัดขึ้น และเข้าประกวดระดับนานาชาติ

 

 

 การประกวด Miss International Queen 2004

 

Arisha Rani มิสอินเดียได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 และรางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม

 

 หนังสือเกี่ยวกับชีวิตของ ฮิจร่า

 

 ชีวิตพวกนางอาจจะไม่รันทดไปทุกคนและอีกอย่าง ที่หาอ่านข้อมูลต่าง ๆบ้างก็ว่าในสังคมคนอินเดียนั้น ฮิจร่า มิได้เป็นที่เคารพ หรือ รังเกียจแก่พวกเขาแต่อย่างใดเพราะ คนอินเดียก็เชื่อว่าถ้าบุคคลกลุ่มนี้เป็นคนดี เขาก็ติดต่อคบค้ากันตามปกติ

การเป็นอยู่ของกลุ่มฮิจร่า พวกเขามีอาชีพสร้างสีสันและความสนุกสนาน โดยการเต้นรำ ร้องเพลง และแต่งกายด้วยชุดส่าหรีสีสันสดใส ใส่เครื่องประดับอย่างสวยงาม เราจะพบเห็นพวกเขาตามงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานบูชาประจำปี งานแต่งงาน งานโกนจุก ตลอดจนถึงงานรื่นเริงต่าง ๆ โดยจะมีเจ้าภาพว่าจ้างให้ไปสร้างสีสันให้กับงานอย่างเป็นทางการ แต่ส่วนหนึ่งของกลุ่มฮิจร่านั้น ในบางงานก็ไปเป็นส่วนเกินของงาน คือจะไปร้องเพลง เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน และจะส่งตัวแทนเข้าไปขอรางวัลกับเจ้าภาพทั้งที่เจ้าภาพไม่ได้เชิญมา นี่คือความเกรงใจของคนอินเดียที่มีต่อ ฮิจร่า เนื่องจากฮิจร่านั้น บูชาเจ้าแม่ Bahuchara Mata เขาจึงมีความสามารถพิเศษ ที่ให้พรผู้คนต่าง ๆ ได้ และคนอินเดียเชื่อกันว่า กลุ่มฮิจร่าได้รับการประสาทพรจาก "พระราม" ที่ให้ "ฮิจร่า สามารถให้พรใครก็ได้ และสามารถสาปแช่งใครก็ได้ ให้เป็นไปตามคำพูดของตน"

ไม่แน่ใจว่าในดินแดนของเธอ เธอได้รับเกรียติมากน้อยแค่ไหน ? 

 

 

อันนี้เป็นของ HBO ย้อนไปดูตั้งแต่ part 1 ได้แต่อันนี้คัดมาเฉพาะของ Hijra

 

 

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ขนมปังขิง's profile


โพสท์โดย: ขนมปังขิง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
124 VOTES (4.1/5 จาก 30 คน)
VOTED: แสร์, กุ้งฝอย
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พิซซ่าหน้ากบ พิซซ่าหน้าเต่าของพิซซ่าฮัทรวมวีรกรรมแก๊งน้ำไม่อาบ! แหกทุกกฎ ตร.ไม่สนลูกใคร จัดหนักทุกรายหนุ่มเดินขายลอตเตอรีระหว่างขึ้นภูกระดึง ได้เที่ยว ได้ตังค์ นี่มัน work and travel ของแท้ขยี้ตาแรง! "นิวเคลียร์" หน้าใหม่เป๊ะเวอร์ ผ่านไป 3 เดือนจำแทบไม่ได้อาม ชุติมา คว้ามงกุฎ “มิสแกรนด์แพร่ 2025” ฝันเป็นจริงกับเส้นทางนางงามแก๊งน้ำไม่อาบ ประสบอุบัติเหตุสังเวยชีวิตแล้ว 6 ราย หลังชนท้ายรถพ่วงและร้านค้าของชาวบ้านแฮกเกอร์ชื่อ 0Mid16B อ้างว่าขโมยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก The1 กว่า 5 ล้านรายห้ามใส่เสื้อผ้าสีแดง พระธาตุศรีสองรัก10 ความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับน้ำดื่ม ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณไปตลอดกาลไวรัลหมูเด้ง: "ทำไมหมูเด้งถึงกลายเป็นขวัญใจคนไทย?"พุทธอภิวรรณ รู้สึกแปลกใจที่นักวิชาการไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีหมอบุญ วนาสิน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มเดินขายลอตเตอรีระหว่างขึ้นภูกระดึง ได้เที่ยว ได้ตังค์ นี่มัน work and travel ของแท้รวมวีรกรรมแก๊งน้ำไม่อาบ! แหกทุกกฎ ตร.ไม่สนลูกใคร จัดหนักทุกรายแก๊งน้ำไม่อาบ ประสบอุบัติเหตุสังเวยชีวิตแล้ว 6 ราย หลังชนท้ายรถพ่วงและร้านค้าของชาวบ้านพิซซ่าหน้ากบ พิซซ่าหน้าเต่าของพิซซ่าฮัท
ตั้งกระทู้ใหม่