18+ ‘ผู้หญิงมีงู’กับการเดินทางของชีวิต ตอนจบ
จากตอนแรก
‘ผู้หญิงมีงู’กับการเดินทางของชีวิต จากพนักงานบาร์สู่‘ตัวท็อปหนังเอวี’ ตอนที่ 1 https://board.postjung.com/823927.html
“ฉันสวยที่สุดในห้อง” การไต่เต้าสู่ ‘ตัวท็อป’
สำหรับช่วงวัดตัวหรือการถ่ายทำครั้งแรก ราคามาตรฐานของนักแสดงสาวประเภทสองตกราวๆ 3,000-5,000 บาท แต่หากสาวประเภทสองคนใดที่มีบทบาทการแสดงดี เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ชมและสามารถไต่เต้าสู่ระดับ ‘ตัวท็อป’ ได้ ค่าตัวในการแสดงต่อครั้งอาจทะยานสูงถึง 20,000-40,000 บาทต่อเรื่อง
“ขิมก็ถือว่าท็อป คุณภาพของการทำงานเรามีสูง เราทำเป็นนะคะ เรารู้ว่าเรามีบทยังไง ควรทำตัวแบบไหน ควรแต่งหน้ายังไง หรือเราควรจะเตรียมชุดอะไรไป เรารู้ว่ากลุ่มลูกค้านี้ต้องการอะไร เราก็เลยจับจุดถูก ไม่ได้หมายความว่าเราสวยที่สุด แต่เรามีความสามารถและเอาจุดที่เด่นที่สุดของเราออกมาได้ เช่น บางคนนมใหญ่ บางคนอวัยวะเพศชายใหญ่ ซึ่งกะเทยหลายคนจะไม่นิยมแปลงเพศ เพราะจะขายงูกัน
“งานง่ายที่สุดคือแค่สำเร็จความใคร่ตัวเองในกล้องกับเซย์ฮัลโหล ทำตัวให้ดูน่ารัก ดูเซ็กซี่ แสร้งทำว่าฉันสวยที่สุดในห้องนั้น” ขิมเล่าด้วยน้ำเสียงเฉิดฉาย “แล้วสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง แล้วจบ นี่ประมาณ 1 หมื่น ถ้ายากขึ้นไปตามระดับคือต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ เป็นกะเทยกับกะเทยมีอะไรกันและแต่งตัวเซ็กซี่ ใช้เวลาเกิน 2 ชั่วโมงหรือครึ่งวัน ประมาณ 8 โมงเช้าถึงเที่ยง รวมเวลาเดินทางจะได้ประมาณหมื่นห้าถึงสองหมื่นบาท นี่เป็นเฉพาะที่เรารู้”
การแสดงที่ดีนอกจากช่วยให้ค่าตัวจากการแสดงสูงขึ้นแล้ว ผลพลอยได้ที่ตามมาคือทำให้ขิมเป็นที่รู้จัก ถึงกับมีลูกค้ามาตามหาที่บาร์หลังจากได้ชมการแสดงของเธอและเอ่ยชมว่าขิมเซ็กซี่มาก อาชีพเสริมจึงแปรเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้แก่งานประจำของเธออีกทางหนึ่ง ความเซ็กซี่ของขิมมาจากไหน เธอสารภาพว่า
“เราเรียนรู้จากงานบาร์ว่าจะขายอะไร เราเรียนรู้จากกลุ่มลูกค้าที่อยากดู สังเกตจากที่เราไปกับลูกค้าแล้วเราดูหนังโป๊เพื่อให้เกิดอารมณ์ เราชอบยังไง เราชอบผู้ชายใส่กางเกงยีนหรือว่าหนึ่ง สอง สาม ถ่ายขึ้นมา แก้ผ้าอล่างฉ่าง หรือว่าเราค่อยๆ ถอดทีละชิ้น ค่อยๆ ลูบไล้ตามตัว เรามีอะไรเซ็กซี่ได้เท่าไหน เราทำออกมาให้ดีที่สุด” ขิมเล่าอย่างภูมิใจในฝีไม้ลายมือด้านการแสดง
มันคือ ‘การแสดง’ กับ ‘เส้นที่จะไม่ข้าม’
ยากหรือเปล่ากับการแสดงหนังเอวี? ต้องจำบทหรือไม่? ต้องแอคติ้งอย่างไร? ขิมตอบว่าไม่ยาก ในการทำงานเธอมีบทบาทในหัวอยู่แล้วว่าอยากทำงานแบบไหน หรือผู้กำกับต้องการให้เธอแสดงออกมาแบบไหน ขิมยกตัวอย่างว่าเธออาจจะไปเจอผู้ชายที่กำลังสำเร็จความใคร่ แล้วทำทีไปแอบดู จากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินไปสู่การร่วมรักกัน อันเป็นพล็อตเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป
“แต่ถ้าเราไม่พอใจ เราก็อาจจะบอกว่า ไม่ ฉันอยากเป็นแบบนี้ๆ มันจะทำให้ฉันดูเซ็กซี่มากขึ้นและสามารถทำให้ฉันมีลูกค้าเยอะขึ้น เราก็สามารถเปลี่ยนบทได้เลย ถ้าไอเดียเราดีพอ เพราะของแบบนี้ยิ่งเราถนัด ยิ่งเราเก่งกาจเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เว็บไซต์เขาขายดีขึ้นเท่านั้น ถ้าเว็บไซต์เขาขายดีปุ๊บ เราเป็นหนึ่งในนักแสดงในนั้น ลูกค้าก็อยากเจอเรามากขึ้น”
หลายคนสงสัยว่า นายแบบและนางแบบหนังเอวี -ในที่นี้หมายรวมถึงสาวประเภทสองด้วย เมื่อต้องร่วมรักกันต่อหน้ากล้อง บวกกับการที่ผ่านการแสดงมาหลายเรื่อง เธอและเขาจะมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับการแสดงการร่วมรักหรือเปล่า ขิมบอกว่า มันคือการแสดงล้วนๆ แต่ก็จำเป็นต้องมีอารมณ์ร่วม เพราะเธอคงไม่เดินขึ้นเตียงโดยละทิ้งอารมณ์ความรู้สึกไว้กับกองเสื้อผ้า อีกทั้งการมีอารมณ์ร่วมยังช่วยให้การแสดงในบทบาทที่เธอได้รับมีความสมจริงยิ่งขึ้น
“เราไม่ได้แคร์ว่านายแบบจะทำดีหรือไม่ดี ถ้านายแบบหน้าตาดี รูปลักษณ์ดี มันก็จะทำให้เรามีอารมณ์ในการทำงาน”
ใช่ว่าขิมจะรับทุกงานที่ติดต่อเข้ามา ถึงเงินจะดี แต่ถ้าบทบาทการแสดงเกินเส้นที่ยอมรับได้ เธอจะปฏิเสธที่จะข้ามเส้นนั้นไป เช่น งานที่สกปรกถึงขั้นต้องถ่ายอุจาระหรือปัสสาวะใส่ หรือบทบาทที่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกอย่างการร่วมรักหรือการใช้ปากกับผู้หญิง เหล่านี้เป็นบทบาทตัวอย่างที่ขิมคิดว่าเป็นภาระต่อจิตใจเกินกว่าเงินจะแบกรับได้
‘พี่เลี้ยง’ อาชีพที่ต้องนั่งเสนอหน้า
การถ่ายทำแต่ละครั้ง ขิมเดินทางไปถ่ายทำเพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยงหรือเพื่อนติดสอยห้อยตาม เพราะเธอไม่รู้สึกกลัวว่าจะถูกหลอก ถูกเอาเปรียบ หรือถูกทำร้ายร่างกาย อีกทั้งการบอกเล่าปากต่อปากในหมู่เพื่อนๆ ที่ผ่านงานตรงนี้ก็เป็นเครื่องการันตีระดับหนึ่งว่า ผู้ที่ติดต่อให้ไปถ่ายรายใดไว้ใจได้หรือไม่ได้
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อาจหาญเหมือนเธอ นักแสดงสาวประเภทสองบางคนจึงต้องมีพี่เลี้ยงติดตามเพื่อความอุ่นใจ สาวประเภทสองคนหนึ่งที่ผ่านประสบการณ์หลากหลายในเมืองพัทยา จนสาวประเภทสองรุ่นหลังเรียกเธอด้วยความเคารพว่า ป้าเบลล์ บทบาทหนึ่งในอดีตของป้าเบลล์คือการเป็นพี่เลี้ยงนักแสดง
ป้าเบลล์เล่าเรื่องราวในแวดวงนักแสดงหนังเอวีสาวประเภทสองจากประสบการณ์การเป็นพี่เลี้ยงให้ฟังว่า เริ่มต้นนายหน้าหานักแสดงชาวต่างประเทศจะเข้ามาพูดคุย ชักชวน ถ้าตกลงจึงจะมีการนัดดูตัวและทดสอบ ไม่ผิดกับการถูกลูกค้าออฟออกไปจากบาร์
หลังจากนั้น ทีมงานจะบอกขั้นตอนการทำงานให้นักแสดงรับทราบ ทั้งยังต้องมีการตรวจเลือดก่อนเพื่อป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ เพราะแม้จะใช้ถุงยางอนามัยเวลาแสดง แต่ก็อาจเกิดการผิดพลาดได้ เช่น ถุงยางอนามัยเกิดแตกหรือฉีกขาด หากตรวจพบเชื้อเอชไอวีการถ่ายทำถือว่ายกเลิก
“ทางเราก็ต้องถามเหมือนกันว่าจะถ่ายประมาณไหน ต้องการแบบไหน ทำอะไรบ้าง ไม่ทำอะไรบ้าง ต้องถามก่อนที่จะไปซ้อมจริงๆ ใครจะไปทำเลยได้ แต่เขาจะไม่มีแอบถ่าย เพราะเขาก็ต้องถามเราด้วยว่าจะมีใครไปบ้าง นายแบบที่จะมาแสดงคู่ก็เป็นฝรั่ง มีมาให้เลือกว่าเราต้องการคนไหน แต่ไม่มีคนไทย วันที่ไปซ้อมก็ต้องคลุกคลีกันทั้งวัน ศึกษากัน นัดแนะกันว่าต้องทำประมาณนี้ๆ ถอดผ้าซ้อมจริง ทำจริง ก่อนวันถ่าย ที่ต้องซ้อมก่อนเพราะเขามีบทให้ บางฉากยาก ต้องซ้อมก่อน อย่างใส่นมเข้าไปในก้น จะนมจืด นมหวาน อะไรก็ตาม แล้วพ่นนมออกจากก้น ก็ต้องพ่นแรงๆ ให้ผู้ชายกิน เราก็ต้องช่วยฝั่งของเราไป” ป้าเบลล์อธิบาย (คำบอกเล่าตรงนี้ทำเอาสาวประเภทสอง3-4คนที่ร่วมฟังอยู่ด้วย ส่งเสียงและชักสีหน้าสะอิดสะเอียนออกมาอย่างเห็นได้ชัด)
ส่วนสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ โดยมากมักจะเป็นโรงแรมหรูๆ ซึ่งทางโรงแรมไม่รู้เห็นด้วยว่าห้องพักของตนถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเอวี ทีมงานที่ถ่ายทำมีประมาณ 1-3 คน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกันกับที่ขิมเล่า
ถามว่าทำไมต้องมีพี่เลี้ยง? “ตัวนางแบบขอให้ไปด้วย ไปคนเดียวไม่ได้ เพราะการถ่ายแบบนี้ก็มีที่ต้องใช้ของมึนเมา ถ่ายคนเยอะแยะ ไม่อายก็เกินไป”
นอกจากยาเพิ่มดีกรีความกล้า เวลาถ่ายทำยังต้องอาศัยยาที่ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวทนทานนานพอตลอดการแสดง ซึ่งนักแสดงทั้งสองมักต้องพึ่งพายาทำนองนี้ ถามขิมว่าต้องทานยาลดระดับความเขินอายหรือไม่ เธอบอกว่าไม่จำเป็น แต่ยาอย่างหลังต้องทาน ซึ่งมักจะเป็นไวอากร้าหรือคัมมากร้า
“หน้าที่ของฉันคือนั่งเสนอหน้าเฉยๆ คอยเอาน้ำให้กิน แต่ในส่วนของนายแบบฝรั่งเขาจะมีคนของเขามาเอง มาคอยช่วย จะให้ดูหนังโป๊ จะเอาผู้หญิงมาดูด (หมายถึงการใช้ปาก) ให้ เรื่องของเขา เราไม่เข้าไปวุ่ยวาย แต่เขามีอยู่ เราไม่ต้องช่วยอะไร” ป้าเบลล์ บอก
พวกเธอคือผู้คนในพื้นที่สีเทา
กะเทยไทยเป็นที่นิยมของตลาดหนังแนวนี้แค่ไหน? คงเป็นการยากที่จะหาข้อมูลยืนยันหรือตัวเลขชี้ชัด แต่ถ้าวัดจากคำบอกเล่าผ่านประสบการณ์การเป็นพี่เลี้ยงของป้าเบลล์ เธอบอกว่า กะเทยไทยเป็นที่นิยมรองจากกะเทยบราซิล เหตุผลคือกะเทยไทยสวยเหมือนผู้หญิง แต่มีงู ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในสายตาชาว ตะวันตก
ส่วนช่องทางเผยแพร่ มีทั้งรูปแบบเป็นแผ่นวีซีดีและทางเว็บไซต์ ซึ่งการเข้าชมต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตก่อน สำหรับขิม เธอเลือกที่จะให้ทีมถ่ายทำเผยแพร่หนังเอวีที่เธอแสดงบนเว็บไซต์เท่านั้น เพราะกลุ่มคนที่จะเข้าชมได้ค่อนข้างจำกัดกลุ่มและมักเป็นชาวต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ และเธอจะไม่รับแสดงหนังเอวีที่ผลิตเป็นแผ่นวีซีดี เพราะเกรงว่าจะมีคนรู้จักพบเจอเข้า
กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ป้าเบลล์เล่าว่า กะเทยไทยคนหนึ่ง อดีตพนักงานบาร์และนักแสดงหนังเอวี ภายหลังได้ดิบได้ดีมีสามีเป็นชาวต่างประเทศ ฝ่ายชายเผอิญพบหนังเอวีที่เธอเคยแสดง จึงติดต่อไปยังเว็บไซต์ที่เผยแพร่เพื่อขอให้ลบวิดีโอชิ้นนั้นออกจากเว็บ โดยฝ่ายชายยินยอมที่จะจ่ายเงิน แต่ทางบริษัทต้นสังกัดปฏิเสธ เนื่องจากเห็นว่าวิดีโอดังกล่าวยังเป็นที่นิยมและสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัท
เมื่อสอบถามชื่อเว็บ ป้าเบลล์บอกทันทีแบบไม่ต้องคิดมาก แต่ขิมปฏิเสธที่จะตอบ คำอธิบายของเธอน่าสนใจ เธอบอกว่าการไปถ่ายทำทุกครั้ง เธอต้องเอาบัตรประชาชนไปด้วยเพื่อประกอบการเซ็นยินยอมและยืนยันว่าเธอไม่ได้ถูกหลอก แน่นอนว่าในประเทศไทย ธุรกิจหนังเอวียังเป็นเรื่องผิดกฎหมายการเซ็น เอกสารไม่มีผลใดๆ แต่ในต่างประเทศบางประเทศ หนังเอวีเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย จึงต้องมีระเบียบกติกาที่ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักแสดง
“คือเราไม่ทราบว่าเอกสารที่เราเซ็นรวมไปถึงการห้ามบอกข้อมูลด้วยหรือเปล่า ถึงจะรู้จักเว็บไซต์ดี แต่ขอไม่ ตอบ เพราะกลัวผิดสัญญา”
ทั้งขิมและป้าเบลล์บอกว่า จากประสบการณ์และคำบอกเล่า พวกเธอไม่เคยได้ยินการหลอกพนักงาน บริการในพัทยาไปถ่ายหนังเอวีหรือการถูกเอารัดเอาเปรียบจากทีมถ่ายทำ แม้ว่าตามเว็บไซต์ของไทยต่างๆ จะโฆษณาเรื่องการถูกหลอก การแอบถ่ายอยู่จำนวนไม่น้อยเพื่อเรียกคลิกจากผู้ชม
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่กรณีการละเมิดสิทธิ การหลอก หรือการเอารัดเอาเปรียบตัวนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง สาวประเภทสอง หรือไม่ว่าจะเพศใดๆ น่าจะมีอยู่จริงตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ต่างๆ แม้จะไม่สามารถหาผู้เสียหายมายืนยัน เพราะเป็นธุรกิจผิดกฎหมาย ผู้เสียหายย่อมไม่สามารถเรียกร้อง ใดๆ จากใครได้
ในนามของกฎหมายและศีลธรรมอันดี ไม่มีที่เหยียบยืนให้แก่คนอย่างขิมหรือป้าเบลล์หรือนักแสดงคนอื่นๆ คนเหล่านี้จึงต้องซุกตัวในซอกมืดที่กฎหมายเอื้อมไม่ถึง-ไม่ว่าจะเป็นการเอาผิดหรือการคุ้มครองไม่ให้ถูก ละเมิด ทว่า สิ่งที่ยากปฏิเสธคือเม็ดเงินที่หมุนสะพัดและหล่อเลี้ยงเมืองริมทะเลแห่งนี้ให้มีสีสันสว่างไสว...
ส่วนหนึ่งมาจากผู้คนในพื้นที่สีเทาเช่นพวกเธอ