แนะนำหนังดี Gone Girl - เราควรจะวางตัวอย่างไรในสังคมนี้ ให้เราไม่กลายเป็นคนที่ไร้ซึ่งตัวตน [อ่านได้ก่อนไปชม]

No.39

จั่วหัว : หนังลึกลับซับซ้อนว่าด้วยเรื่องราวของคนหาย แต่สามารถสร้างปมตีแผ่ชีวิตและกัดจิกสังคมโลกาภิวัฒน์ได้อย่างน่าเจ็บปวด

Gone Girl : เล่นซ่อนหาย

คมนิด จี๊ดเลย : "เราควรจะวางตัวอย่างไรในสังคมนี้ ให้เราไม่กลายเป็นคนที่ไร้ซึ่งตัวตน"

Napat's Rating : (A-) , 9/10



Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิ๊กLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans


- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -


จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ผมรอคอยเป็นอย่างยิ่งจากฝีไม้ลายมือของผู้กำกับอีกคนที่ผมชอบและประทับใจในผลงานของเขามาหลายเรื่องอย่าง "เดวิด ฟินเชอร์" (เจ้าของผลงานอย่าง The Social Network,The Curious case of Benjamin Button, Fight Club) และในเรื่องนี้ผลงานกำกับของเขาก็สามารถทำให้ "จี๊ด" ได้มากๆทีเดียวในแง่ของประเด็นที่เขาเล่น การเล่าเรื่องอย่างชาญฉลาด และแน่นอนกับหนังที่เต็มไปด้วยบทพูดมากมาย ถ้าไม่ใช่ฟินเชอร์เป็นคนเล่า ก็ไม่รู้ว่าจะเอาคนดูอยู่ไหม

คิดว่าเรื่องนี้เป็นหนังอีกเรื่องที่นักดูหนังน่าจะชอบกันอยู่แล้ว ส่วนบุคคลทั่วไปก็คิดว่าดูไม่ยากเกินไป แต่ต้องตั้งใจดูเพราะหนังเล่าเรื่องไปอย่างเร็วและไม่มีรีรอคนดู ประเด็นของหนังเยอะแล้วพร้อมถาโถมเข้าหาเราชนิดที่ว่าถ้าไม่ตั้งใจดูอาจประมวลผลฉากต่อฉากไม่ทัน หนังค่อนข้างจริงจัง ซีเรียส และเข้มข้น และสามสิ่งนี้สามารถเอาคนดูอย่างผมได้อยู่หมัด ดูจบแล้วเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่

ทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น?

ผมจะตอบคำถามนี้ แต่มันอาจมีสปอยส์เล็กน้อยบ้าง

ขอเตือนไว้ก่อน แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะผมจะไม่ทำให้การดูหนังของคุณต้องเสียอรรถรสอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหนังอย่างเรื่องนี้ที่ใครๆก็พูดกันว่า ห้ามรู้อะไรไปเลยก่อนเข้าไปดูหนัง

"เราควรจะวางตัวอย่างไรในสังคมที่ตัดสินเราด้วยสายตาของพวกเขาเอง"

มันเป็นคำถามที่ไม่ได้ตั้งไว้เพื่อตัวละครใดตัวละครหนึ่งภายในเรื่อง แต่มันกำลังถามพวกเราทุกคน ที่อยู่ในโลกและสังคมปัจจุบันทันด่วนแบบเวลานี้

โลกที่คนเราพร้อมจะตัดสินคนที่เป็นข่าว ว่าเขาเป็นคนผิด หรือเขาเป็นคนถูก

โลกที่เราพร้อมจะรัก หรือเกลียดชังใครสักคน เพียงแค่เราได้ยินหรือได้เห็นเขาผ่านสื่อ แต่ไม่รู้จักกันเลยแม้แต่น้อย

เราพร้อมที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องราวของชีวิตคนอื่น ดราม่าคนอื่น โดยที่บางครั้งเราอาจจะรู้มากกว่าที่เรารู้จักตัวตนของเราเองเสียอีก

อย่างในกรณีที่ผมพอจะบอกคุณได้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ลองจินตนาการว่าถ้านางเอกของเรื่องหายตัวไป และเธอก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แฟนหนุ่มของเธอก็จึงตกเป็นเป้าของสังคม ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร ทำอะไร?

เขาถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือเขาเป็นฆาตกรใจโหดจริงๆ ไม่มีใครรู้

และที่สำคัญคนที่ฉลาดที่สุดในเกมนี้คือคนที่กำลังควบคุมมวลชนให้ตกเป็นเครื่องมือของสื่อ

ไม่ว่าในคดีนั้นๆ เขาคนนั้นเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก

เพราะในปัจจุบัน สื่อมีความสำคัญมาก

เราเปลี่ยนถูกเป็นผิด เปลี่ยนผิดเป็นถูกได้ตาม "กระแสนิยม"

เราดังได้เพราะสื่อ ก็ดับได้เพราะสื่อเช่นกัน

แล้วภาพลักษณ์กับตัวตนที่เราพยายามสร้างกันในทุกวันนี้

เพื่อออกสื่อต่างๆ เช่น ในทีวี หรือในโลกโซเชี่ยล(เฟสบุ๊ค)

มันเป็นความจริงมากน้อยเพียงใดกันแน่เราเองต่างรู้อยู่แก่ใจ

เราพยายามสร้างตัวตนให้เราต่างดูดี ให้คนอื่นได้เห็น ได้รับรู้ เพื่อที่จะทำให้เขามาชื่นชมและชอบเรา

แต่จริงๆแล้วพวกเขาเหล่านั้นไม่รู้เลยสักนิดว่าในโลกจริงๆของใครคนนั้นๆที่กำลังถูกเฝ้ามอง เขาเป็นอย่างไรกันแน่?

บางทีสิ่งที่เขากำลังทำเพื่อ"สร้างภาพ"หรือสร้างตัวตนให้คนอื่นเห็นอยู่นั้น อาจไม่ใช่ความต้องการของเขาเลยก็เป็นได้

แต่ทำไมเขาต้อง"ทน"ทำ?

ทำไมเขาต้องคอยสร้างภาพให้ตัวเองดูดีในสายตาของคนอื่น?

เพราะ "สังคม" ไง

สังคมที่พร้อมจะตัดสินและพิพากษาใครๆให้ผิดหรือถูก

ถ้าพวกเขาเห็นว่ามันควรจะเป็น

และโลกนี้มันก็ไม่ได้อยู่อาศัยเพียงแค่เรา

เราต่างเป็นสัตว์สังคมมาตั้งแต่เกิด

และมันคงจะยาก ถ้าเราต้องมีชีวิตในแบบที่ไม่แคร์ใครเลย

เพราะต่อให้เราไม่แคร์ สังคมมันก็จะฆ่าเราด้วยตัวมันเอง

หากเราไม่เดินตามหรือคิดหาทางต่อต้านวิถีของมัน

สุดท้ายเราจะกลายเป็นคนที่ไร้ค่าไร้ที่ยืน

จึงกลายมาเป็นคำถามจากเรื่องนี้ที่ตบหน้าผม

"เราควรจะวางตัวเช่นใดกันแน่ในสังคมนี้?"

ควรวางตัวเพื่อให้ใครๆที่เราไม่รู้จัก รู้สึกพอใจ และนิยมชมชอบเรา แม้ว่านั่นไม่ใช่ความต้องการที่จิตใจเราปรารถนาเลยแม้แต่น้อย

หรือจะวางตัวให้เราพอใจตัวเรา และไม่ต้องแคร์ใคร ต่อให้โลกทั้งใบจะหันมาก่นด่าและเกลียดเรา

แต่บางครั้ง เราก็ไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะเราต่างกำลังถูกชักใยอยู่ ถูกเชิดอยู่ เราอยู่บนเวที The show ต้อง must go on กว่าเราจะรู้ตัวอีกทีว่าเราต้องการอะไร มันก็อาจจะ Gone ไปแล้วก็ได้

และนั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตจริง

เมื่อถึงวันที่..

ตัวตนของเรา"หาย"ไป และสายเกินกว่าที่จะกู่กลับมา.






สุดท้ายนอกเรื่องหน่อย ขอฝากผลงานหนังสั้นเรื่องใหม่ด้วยนะครับ หนังสั้น "GEN A" มาจากคำว่า Generation Active

เป็นหนังสั้นที่สร้างจากเรื่องจริง ของคนที่มีใจอาสาอยากทำสิ่งดีๆให้กับโลกนี้ อยากให้ลองสละเวลาสักนิดมาชมกันครับ

มีตัวอย่าง"Gone Girl"มาให้ชมครับ

ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ

ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม

ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!

https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans

https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ