ท็อป 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา
ท็อป 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา เพื่อนหลายๆคนรู้ไหมว่าในปี 2014 นี้มีเมืองไหนบ้างที่ติดอันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา?
วันนี้ทางเรามีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันเพื่อนๆเพื่อเป็นความรู้รอบตัว จากการจัดอันดับท็อป 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษานั้นวัดจาก 5 หัวข้อหลักๆคือ
1. University Rankings อันดับของมหาวิทยาลัย
2. Student Mix เชื้อชาตินักเรียนที่ต้องมีความหลากหลาย
3. Quality of Living คุณภาพชีวิตของนักเรียนขณะที่ศึกษาอยู่
4. Employer Activity การจ้างงาน
5. Affordability ค่าใช้จ่ายต่างๆที่มีราคาเหมาะสม
ตอนนี้เรามาดูกันจากอันดับที่ 10 ไปถึงอันดับที่ 1 ว่ามีเมืองที่โรงเรียนของ Kaplan ตั้งอยู่นั้นติดอันดับบ้างหรือเปล่า
อันดับ 10 มิวนิก (Munich) ประเทศเยอรมนี
มีมหาวิทยาลัยชื่อดังชั้นนำของยุโรปตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้ด้วย คือ Technische UniversitätMünchen มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศเยอรมนี และติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกอยู่ในอันดับที่ 53 คะแนนคุณภาพชีวิตที่ดีของนักศึกษา ค่าครองชีพที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล รวมถึงค่าเล่าเรียนที่ไม่ได้แพงเฟ่อร์อย่างที่คิด ทำให้มิวนิกเป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักศึกษาจากทั่วโลกมองข้ามกันไม่ได้
อันดับ 9 มอนทรีออล (Montréal) ประเทศแคนาดา
สำหรับเมืองนี้มีคะแนนโดดเด่นในด้านของความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา และยังเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง ทำให้ประชากรสามารถพูดได้หลายภาษา นอกจากนี้ในด้านการท่องเที่ยวก็ไม่แพ้กัน มอนทรีออลมีการจัดกิจกรรม และเทศกาลต่างๆ อยู่เป็นประจำ
อันดับ 8 บอสตัน (Boston) ประเทศสหรัฐอเมริกา
บอสตันมีแหล่งการศึกษาที่สำคัญทั้งหมด 8 แห่งด้วยกัน แต่ที่โดดเด่นก็เห็นจะไม่พ้น Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Harvard University ด้วยคะแนนในด้านความต้องการของผู้ประกอบการที่สูงลิบด้วยเหตุผลที่ว่า ใครๆ ก็อย่ากร่วมงานกับนักศึกษาจากบอสตันกันทั้งนั้น ส่งผลให้บอสตันช่วงชิงอันดับ 8 แห่งเมืองที่น่าไปเรียนที่สุดในโลกของ
อันดับ 7 ฮ่องกง (Hong Kong) เขตการปกครองพิเศษฮ่องกง
แม้ว่าจะมีมหาวิทยาลัยของรัฐเพียง 7 แห่งเท่านั้น แต่ 3 ใน 7 แห่งของมหาวิทยาลัยของรัฐ ก็สามารถติดอันดับในการจัดอันดับ 40 สุดยอดมหาวิทยาลัยโลกของ รวมความหลากหลายผสมผสานทางวัฒนะรรมระหว่างเอชียและตะวันตก ทำให้การปรับตัวเพื่อเข้ากับสิ่งแวดล้อมของนักศึกษาต่างชาติจะค่อนข้างง่าย
อันดับ 6 ซูริค (Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำลิ่วมาด้วยคะแนนคุณภาพชีวิต จากการวางผังเมืองที่สวยงามและเป็นระบบ ในส่วนของอัตราการเกิดอาชญากรรมก็ถือว่าน้อยมาก นับได้ว่าเป็นอีกเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ในด้านการศึกษาเมืองนี้ถือว่าค่าเล่าเรียนค่อนข้างถูกกว่าที่อื่นพอสมควร มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ก็เห็นจะไม่พ้น สถาบันเทคโนโลยีสวิส ซูริค (ETH Zurich) ติดอันดับที่ 12 ของโลก
อันดับ 5 เมลเบิร์น (Melbourne) ประเทศออสเตรเลีย
เมืองหลวงเก่าของประเทศออสเตรเลียแห่งนี้ เกือบครองตำแหน่งร่วมกับเมืองซิดนีย์เสียแล้ว แต่มีเหตุให้คลาดตกมาอยู่อันดับ 5 เพราะคะแนนในด้านคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่าเล็กน้อย แต่เพียงเท่านี้ก็เรียกได้ว่าสูงกว่าบรรดาเมืองเอกของโลกเช่น ปารีส และลอนดอนเสียอีก
อันดับ 4 ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย
ได้คะแนนสุงสุดจากการประเมิณในด้านคุณภาพชีวิตของนักศึกษา ตามมาติดๆ ด้วยความหลากหลายของเชื้อชาติ อีกทั้งความต้องการนักศึกษาที่จบใหม่ในตลาดแรงงานก็อยู่ในเกณฑ์ดี เว้นเสียแต่ว่าในส่วนของค่าครองชีพที่จะค่อนข้างสูงสักหน่อย แต่นั้นก็ไม่ได้ระคายผิวเมืองซิดนีย์แห่งออสเตรเลียแม้แต่น้อยครับ
อันดับ 3 สิงคโปร์ (Singapore) ประเทศสิงคโปร์
การที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อีกทั้งนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยในประเทศสิงคโปร์นั้น เพราะว่าจะเป็นหนุ่มหรือสาวเนื้อหอมในตลาดแรงงานกันเลยทีเดียว แต่สิงคโปร์มีจุดด้อยก็คือ ค่าครองชีพที่สูงมากที่ทำให้นักศึกษาที่รายได้ไม่สูงมากนักต้องคิดกันอีกตลบล่ะครับ
อันดับ 2 กรุงลอนดอน (London) ประเทศอังกฤษ
ถึงแม้จะมีค่าครองชีพที่สูงลิ่ว และคุณภาพชีวิตที่ไม่ค่อยดีสักเท่าที่ควร(ถ้าเทียบกับค่างครองชีพที่เสียไป) แต่เมืองหอนาฬิกาแห่งนี้ ก็ยังเป็นเมืองในฝันของนักศึกษาหลายๆ คนอย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม สีสันในชีวิตยามกลางวันและแสงสีความบันเทิง สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของย่านนี้ก็คือ University College London (UCL) ที่ติดอันดับ 4 ของโลกในปัจจุบัน
อันดับ 1 กรุงปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส
ถึงแม้ว่าค่าครองชีพของเมืองนี้จะค่อนข้างสูง แต่แลกกับคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยมและค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลแล้ว มหานครแห่งนี้แหละ สามารถผลิตนักศึกษาหัวกะทิที่เป็นที่ต้องการของเหล่าบรรดาผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก topuniversities และ scholarship