หมวกลูกเสือของลูกที่หายไป ทำให้พ่อได้มีรอยยิ้ม
เย็นวันนั้น ลูกชายตัวอ้วนเดินอุ้ยอ้ายๆ มายังรถที่พ่อจอดรับอยู่หน้าโรงเรียนด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา แต่เมื่อพ่อเอ่ยทักรอยยิ้มนั้นพลันหล่นหาย "หมวกลูกเสือไปไหน"
"ลืมไว้ในห้องเรียนครับ" เด็กชายตอบเสียงอ่อย
"กลับไปเอาไปเดี๋ยวพ่อรอ" พ่อเอื้อมมือรับกระเป๋าหนังสือที่หนักมากมาถือไว้ในขณะที่เด็กอ้วนวิ่งอืดๆ กลับไปยังห้องเรียนที่ห่างไปราวสามสิบเมตร
"คุณครูล็อคห้องแล้วครับพ่อ" คนอ้วนเดินกลับมาทำหน้าเหมือนรับผิด
"ขึ้นรถ พรุ่งนี้มาถึงห้องค่อยเก็บใส่กระเป๋านะ"
เย็นวันต่อมา พ่อขับรถเข้าไปรอคนอ้วนถึงหน้าห้องเรียน เด็กชายเห็นรถพ่อมารับก็วิ่งหน้าตั้งดีใจเข้ามาหาพ่อทันที ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหล่นหายอีกครั้ง
"ได้หมวกลูกเสือคืนมั้ย" พ่อเอ่ยถาม
"ในห้องไม่มีครับ แต่ผมเห็นอยู่ในห้องธุรการ" เด็กอ้วนตอบ
"ไปเอาไปเดี๋ยวพ่อรอ" ประโยคเดิมและรับกระเป๋ามาจากเด็กเหมือนเดิม เด็กชายวิ่งหายไปที่ห้องธุรการประมาณสิบนาทีก่อนกลับมามือเปล่า
"อ้าว ไหนหมวกล่ะ" พ่อถาม
"มันไม่ใช่ของผมครับ" เด็กอ้วนตอบ
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ" เสียงหนึ่งแว่วมาจากด้านหลังพ่อ พอหันกลับไปก็เจอกับคุณครูประจำชั้นของเด็กชาย
"หวัดดีครับครู ลูกชายผมลืมหมวกลูกเสือไว้เมื่อวานน่ะครับ"
"อ๋อ อยู่ที่โต๊ะครูมีอยู่สามใบน่ะค่ะ ไปเลือกเอาเลยลูก" ครูสาวพูดขึ้นก่อนที่พ่อจะพูดจบ เด็กอ้วนวิ่งกลับเข้าไปในห้องเรียนชั่วครู่และกลับออกมาพร้อมหมวกลูกเสือ...ระหว่างขับรถกลับบ้าน....
"ทำไมถึงรู้ว่าหมวกในห้องธุรการไม่ใช่ของหนูล่ะลูก หมวกลูก...็เหมือนๆกันทุกใบ หนูเขียนชื่อไว้เหรอ" พ่อหันไปถามลูกชายที่เหงื่อท่วมตัวเนื่องจากรถแอร์เสีย
ลูกชายยกหมวกในมือให้พ่อดูข้อแตกต่างแล้วเฉลย "ไม่ได้เขียนครับ แต่หมวกผมด้ายสีเหลืองมันจะหลุดออกมานิดนึง นี่ไงพ่อ นิดนึง ผมจำได้"
พ่อหันกลับไปดูพร้อมรอยยิ้มแห่งความภูมิใจในความเดียงสาของลูกชายตัวอ้วน ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหล่นหายเมื่อนึกย้อนกลับไปว่าถ้าเป็นตัวเองคงคว้าหมวกลูกเสือในห้องธุรการนั้นกลับมาแล้ว ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่หมวกของตัวเอง.