''7บาปของตัววายร้าย'' Disney
1. Envy บาป ริษยา : Evil Queen (Snow white and the 7 dwarfs)
ไม่มีใครในบรรดาวายร้าย ที่จะสื่อถึงความ ริษยา ได้มากไปกว่า ราชินี ผู้เป็นแม่เลี้ยงใจร้ายของ Snow white ผู้ริษยาความงาม snow white เสมอมาอีกแล้วครับ เคราะห์ดีที่ Snow white ได้คำโป้ปดของ กระจกวิเศษ ช่วยมาตลอด จนกระทั่งความงาม ของ Snow white เจิดจรัส จนแม้แต่กระจกก็ไม่อาจจะทนโกหก ต่อราชินีได้อีกต่อไป(บางทีกระจกอาจจะเบื่อก็ได้นะ นั่งตอบคำถาม อีเจ๊มนุษย์ป้าราชินีบ่อยๆ) ราชินีจึงสั่งให้นายพราน ลวง Snow white ไปฆ่า แล้วเอาหัวใจใส่กล่องมาเป็นเครื่องยืนยัน แต่ทว่า นายพราน ผู้มีจิตใจดีงามหลงเหลืออยู่ จึงทนไม่ได้ ทำได้แต่เพียงปล่อยให้ snow white หนีไปแล้วเอาหัวใจหมูมาใส่แทน จนแล้วจนรอด ราชินีก็ร็ความจริง(ก็อีกระจกวิเศษเนี่ยแหละบอก) เจ๊แกก็ลงทุนแปลงโฉมตัวเองเสียใหม่ เอาแอปเปิ้ล อาบยาพิษไปให้ Snow white กิน และก็พบจุดจบอันน่าเวทนาที่วิ่งหนี คนแคระทั้ง เจ็ดไปที่หน้าผา หมายคิดงัดเอาหินให้ถล่มคนแคระตาย แต่กลับกลายมาเป็นว่าตัวเองตกหน้าผา และ โดนหินที่จะงัดทับตัวเองตาย
2. Sloth บาปแห่งความเกียจคร้าน : Honest John & Gideon ( Pinocchio )
"ไม่ต้องไปโรงเรียนหรอก พิน็อคคิโอ้" คือประโยคที่ จิ้งจอก จอมเจ้าเล่ห์ และ เหมียวน้อยลิ่วล้อจอม ซื่อบื้อ ล่อลวง พิน็อคคีโอ้ ให้ไม่ไปโรงเรียน
ละทิ้งหน้าที่ ที่เด็กน้อย(ถึงตอนนั้นจะยังไม่เป็นเด็กจริงๆ) ควรทำคือการตั้งใจเล่าเรียนหนังสือ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ พิน็อคคีโอ้โดนหลอกไปขายให้คณะละครหุ่นกระบอก สตรอมโบลี ใช้พิน็อคคีโอ้หาเงิน (เคราะห์ดีที่นางฟ้าใจดีมาช่วยไว้ แต่พิน็อกดันไปโกหกจนจมูกยาวและได้รับบทเรียนว่าไม่ควรโกหก) จนแล้วจนรอด หนีมาได้จะมาหาพ่อ ดั๊นมาเจอ อีสองตัวนี้อีก คราวนี้หนักไปกว่าเดิมอีก หลอกให้พิน็อคคีโอ้ ไปที่เกาะแห่งความหรรษา ที่ซึ่งเด็กที่ถูกหลอกมา ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจาก ทำลายข้าวของ ชกต่อย กินเหล้า สูบบุหรี่ ซึ่งฉากนี้ผมว่า ดิสนีย์ได้แฝงหลักปรัชญาไว้กลายๆได้อย่างแยบยลนะครับ คือ ของมึนเมา อย่างเช่น เบียร์ และ ซิกการ์ ไม่ช่วยทำให้เราฉลาดขึ้นได้ แต่มันจะค่อยๆทำให้เราโง่ลงๆ จนกลายเป็นลาที่ต้องใช้แต่แรงงานไปตลอดชีวิต สองตัวนี้เป็นตัวแทนแห่งความเกียจคร้านที่ผมว่าชัดเจนที่สุดในบรรดาตัวร้าย ของ Disney เลยครับ
3. Lust บาปตัณหา : Claude Frollo (The Hunchback of Notre Dame)
จริงๆแล้ว มีตัวร้ายที่มาด้านนี้ อาทิเช่น แก๊สตอง(ผู้ซึ่ง หลงรัก belle อย่างหัวปักหัวปำ) แต่....แต่.... วีรกรรมที่ แก๊สตองได้ก่อนั้นเป็นการกระทำที่ซื่อตรงไม่บิดเบี้ยว และน่ารังเกียจไปมากกว่า ทั่น ฟลอโล่ ของเราได้อีกแล้ว หน้าฉากที่เสแสร้ง ว่าเป็นผู้ผดุงคความยุติธรรม(แต่ไปไล่ฆ่า พวก ยิปซีโดยใส่ความว่าเป็นพวกขี้ขโมย ถีบแม่ควอซีโมโด หัวน็อคฟาดพื้นตายคาที่ แล้วเกือบเอา ควอซี่ไปโยนลงบ่อน้ำ ถ้าไม่ได้ บาปหลวงมาช่วยไว้ และความสำนึกผิดต่อบาปแล้วละก็ .....คงไม่มีควอซี่แล้ว) ความบ้าตัณหาของฟลอโล่นั้น สื่อออกมาในเพลง Hell fire (ควอซี่ร้องเพลง Heaven light ไปก่อนหน้านั้น งดงามไพเราะและน่าสงสาร) ซึ่งเพลงนี้ทำให้ The Hunchback นั้นกลายเป็นการ์ตูนที่ดูมืดหม่นที่สุดเรื่องนึงของ Dsiney ไปได้เลยครับ
4. Pride บาปทรนง : Shan Yu (Mu lan)
"ไปบอก องค์ ฮ่องเต้องพวกเจ้าด้วยนะ ว่าข้า ชาง หยู่ นำทัพมาแล้ว แม้กำแพงที่ยิ่งใหญ่ของพวกเจ้าหรือว่ากองทัพของพวกเจ้าก็ไม่มีทางต้านทานคนของข้าได้"
นี่คือคำพูดของชาง หยูตอนปีนกำแพงเมืองจีนมาเพื่อรุกราน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกกันซื่อๆตรงๆเลย กำแพงเมืองจีนไปสะกิดต่อม ความทรนงของพี่แกเต็มๆ
แกเลยยกทัพมา say hello ชาวจีนกันซะหน่อย ซึ่งพี่แกทั้งปปราบกองทัพ(ฆ่าพ่อพระเอกซะด้วย) ทำลายหมู่บ้าน แม้กองทัพแกจะถูกหิมะ บดขยี้ไปแล้ว(ฝีมือ มู่หลาน) แกก็ยังไม่ยอมตายง่ายๆ โคตรทรนง วางแผนกะลูกน้องคนสนิท(ที่ดั๊นไม่ตายด้วยนะ) ไปสังหารฮ่องเต้ต่อ แต่ก็โดน มู่หลาน หยุดแผนอยู่ดี การกระทำของเฮีย ผมคิดว่ามันเหมาะสมกับบาปข้อนี้มากกว่าใครๆครับ
5. Gluttony บาป แห่งความตะกละ : Banzai ShenZi Ed (Lion king)
บาปประการนี้ ยอมรับว่า ผมคิดอยู่นานมากเลยครับ เพราะว่าเท่าที่ดูแล้ว บาปที่ส่วนใหญ่ พลักดันและเป็นแรงขับเคลื่อนตัวร้ายต่างๆนั้น มักมาจาก
ความริษยา,ความโลภ (แม่เลี้ยงใจร้ายของ น้องซิน,จาฟา อาละดิน, ฮาน Frozen และท่านอื่นอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง)
พอความคิดของผมมาสะดุดที่ scar แห่ง lion king แล้ว พมก็นึกได้ว่า สิ่งที่สะท้อนถึง บาปแห่งความตะกละได้ ก็คือ ไฮยีน่า หน้าตา กวนส้น 3 ตัวนี้
และฝูงของมันนั้น scar ใช้ความตะกละอันไม่มีที่สิ้นสุดของ พวกมัน(เอาน่องม้าลายมาโยนใส่ และวางแผนการร้าย) เราจะเห็นได้ว่า ทำไม มูฟาซ่า พ่อของซิมบ้า ได้สอนถึงเรื่องความสมดุล และ วัฎจักรแห่งชีวิต(Circle of life ) นั้น ทุกอย่างมีระบบ และความพอดีจะทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
แต่ถ้าเราไม่ยับยั้งชั่งใจและปล่อยไปตามความตะกละ ของเราเองนั้น จะเป็นดั่งเช่นยุคสมัยที่สการ์ปกครอง ผาทรนงที่ มีแต่ความแห้งแล้งและอดยยาก (ขนาดอีพวกไฮยีน่า เสวยสุขกันเต็มที่แล้วก็ยังไม่พอนะ บันไซ ยังถาม สการ์อยู่เลย ว่า ข้ายังไม่อิ่มเลยนะ)
6. Wrath บาปโทสะ : Queen of Heart (Alice in wonderland)
อย่า อย่า.... อย่าทำให้เธอโกรธ ทุกคนใน อาณาจักรต่างรู้ดีว่า ถ้าไม่อยากถูกตัดหัว อย่าทำให้ ราชินี โพธ์แดง โกรธ
ทุกครั้งที่ราชินีเจอเรื่องที่ขัดใจนาง มันจะลงเอยด้วย วาจา อาญาสิทธ์ " off With the Head "
น่ากลัวขนาดไหนทหารไพ่ในราชสำนัก ถึงกับต้องทาดอกกุหลาบสีขาวให้กลายเป็นสีแดงเพื่อทำให้องค์ราชินีพอใจ
ฉะนั้นแล้ว ตัวร้ายที่เหมาะสมกับบาปแห่งโทสะ ก็คือ องค์ราชินี โพธ์แดง นั่นเอง อย่าคิดหือเชียวนะ
7. Greed บาปแห่งความโลภ : Governor Ratcliffe (Pocahontus)
นี่เป็นบาปอีกข้อนึงที่ผม ค่อนข้างลังเลมากว่าจะเลือกใครที่จะเป็นตัวร้ายที่เหมาะสมดี แต่ก็มีเพื่อนๆในพันทิปที่คิดเหมือนผมอยู่นะครับ อิอิ
แต่สุดท้ายที่ผมเลือก เฮียเข้ามาเพราะว่า ความโลภของแกเห็นเป็นรูปธรรมเด่นชัดสุด (ไม่มีบาปข้ออื่นๆเข้ามาผสมปนเปด้วย อย่าง จาฟา เอซูล่า หรือ ฟัสซิลิเยครับ) ความโลภที่อยากได้ดินแดน ทองคำ เพื่อสร้างความมั่งคั่งรำ่รวยและชื่อเสีงยให้แก่ตัวเอง โดยการหลอกชาวบ้านตาสีตาสาคนหนุ่มมาขึ้นเรือเดินทางฝ่าอันตรายมาเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้อง ไม่พอ ยังไปช่วงชิงมาจากผู้ที่เป้นเจ้าของดินแดนเดิมอยู่แล้วอย่างพวกอินเดียแดง
ดั่งที่เราจะเห็นได้ว่า Pocahontus ด่า john smithและผองเพื่อน ในเพลง Colour of the wind ได้ตามนี้ครับ