หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 อันดับบุคคลขาย วิญญาณ ให้กับ ปีศาจ เพื่อได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่

โพสท์โดย เขาบอกชื่อ อาตี๋

มนุษย์เป็นผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าโลภมาก หาหนทางให้ได้มาซึ่งความต้องการของตน ด้วยการโกงบ้าง ทางลัดต่างๆ นานาแม้กระทั้งยอมขายวิญญาณของตัวเอง วันนี้เรานำเสนอบุคคลที่ทำสัญญากับเหล่าปีศาจมาดูกันว่าจุดจบของบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างไร

10. สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2 (Pope Sylvester II)

สมเด็จพระสันตะปาปา ซิลเวสเตอร์ที่ 2 (ราว ค.ศ.945 – 1003) เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความรู้กว้างขวาง มีความหลงใหลวิทยาศาสตร์ของโลกอาหรับ รอบรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ และท่านยังเป็นผู้ประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้ม ลูกโลกดารา (armillary sphere) และยังนำเลขอารบิกไปเผยแพร่ในยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ท่านยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ดนตรี เทววิทยา และปรัชญา หลังจากการตายของท่านก็เริ่มมีข่าวลือแพร่กระจายว่า ท่านเป็นนักเวทมนต์ อีกทั้งเบื้องหลังอัจฉริยบุคคลและความสามารถในการประดิษฐ์ของท่านเป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากการทำข้อตกลงกับปีศาจ บางตำนานเล่าว่าท่านได้ทำสัญญากับปีศาจหญิงสาวที่ชื่อลาเมอริเดียนา (Meridiana) ที่ช่วยเหลือท่านให้ขึ้นครองบัลลังก์ของสมเด็จพระสันตะปาปา (อีกตำนานบอกว่าท่านได้รับเลือกเป็นสันตะปาปาจากการเล่นลูกเต๋ากับปีศาจ)

9. นิคโคโล ปากานินี (Nicolo Paganini)

นิคโคโล ปากานินี (ค.ศ.1782 - 1840) เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีพรสวรรค์ไวโอลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก ในช่วงที่เขามีชีวิต เขาสามารถเล่นแมนโดลินเมื่ออายุเพียง 5 ปี และเริ่มเล่นไวโอลินเมื่ออายุ 7 ปี ต่อมาก็เริ่มเล่นต่อหน้าสาธารณชนในขณะอายุ 12 ปีและเป็นที่รู้จักในฐานะนักไวโอลินวิโอลา แต่เมื่ออายุ 16 เขามีอาการเจ็บป่วยและโรคพิษสุราเรื้อรัง ก่อนที่จะกลับมาเล่นอีกครั้งจนมีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายไปทั่ว ด้วยเทคนิควิธีการเล่นไวโอลินแบบแปลกๆ ชนิดที่เรียกว่าไม่มีนักไวโอลินคนไหนเหนือกว่าเขาในเวลานั้นได้ ด้วยภาพลักษณ์ของปากานินีที่ผอมซีดและชอบใส่ชุดสีดำ ทำให้หลายคนเชื่อว่านิคโคโลทำสัญญากับปีศาจเพื่อแลกพรสวรรค์และความสามารถ ซึ่งผู้ชมบางคนได้อ้างว่าเห็นปีศาจช่วยเหลือเขาในระหว่างการแสดงของเขา ซึ่งข่าวลื่อดังกล่าวอาจเป็นเพราะเขาปฏิเสธพิธีรับศีลครั้งสุดท้ายของคริสตจักร ทำให้หลังเขาเสียชีวิตทางโบสถ์ได้ปฏิเสธทำพิธีฝังศพทางศาสนาในเจนัว ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 4 ปีในการอุทธรณ์โดยตรงต่อองค์พระสันตะปาปาเพื่อขอให้ขนส่งศพไปเจนัว แต่ยังไม่ได้รับการฝัง จนกระทั้งปี 1876 จึงมีพิธีฝังศพเขาที่โบสถ์แห่งหนึ่งในสุสานปาร์มา

8. กิลล์ เดอ เรยส์ (Gilles de Rais)

กิลล์ เดอ เรยส์ (ค.ศ.1404 – 1440) เป็นอัศวินที่กล้าหาญของประเทศฝรั่งเศส ที่มีจุดเด่นคือมีหนวดเคราสีดำค่อนไปทางสีน้ำเงิน (จนเป็นที่มาของเคราสีน้ำเงิน) เขาเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเบรเตญ เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตลง เขาก็มีฐานะมั่งคั่งและมีอำนาจ ต่อมาก็ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในกองทัพและต่อสู้ร่วมกับโจน ออฟ อาร์ค (Joan of Arc) ได้รับชัยชนะในการต่อสู้กับประเทศอังกฤษหลายครั้ง จนกลายเป็นวีรบุรุษของฝรั่งเศส
หลังโจน ออฟ อาร์คเสียชีวิตลง กิลล์ก็ออกจากการเป็นทหาร และชีวิตของเขาก็เริ่มตกต่ำลง ในความสิ้นหวังเขาเริ่มหลงใหลไสยศาสตร์ภายใต้คำแนะนำของชายคนหนึ่งชื่อฟรานคอยส์ เปรลาติ (Francesco Prelati) ที่สัญญาจะช่วยกิลล์ในการชดใช้หนี้สิน โดยบอกเขาว่าให้สังเวยเด็กจำนวนมากเพื่อบูชาปีศาจที่ชื่อ “บารอน” (Baron) ส่งผลทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องข่มขืนทรมานและฆ่าเด็กจำนวนประมาณ 80 - 200 คน สุดท้ายเขาก็ถูกจับและตัดสินให้ประหารชีวิตโดยการแขวนคอและนำศพไปเผาไฟ

7. โจนาธาน มอลตัน (Jonathan Moulton)

โจนาธาน มอลตัน (ค.ศ.1726 – 1787) เป็นบุคคลในตำนานของนิวแฮมป์เชียร์ เขาเริ่มต้นเป็นเด็กฝึกงานทำตู้ แต่ในปี 1745 เขาก็ทิ้งงานและเริ่มต้นอาชีพเขาในกองทัพที่นิวอิงแลนด์ เข้าร่วมรบในสงครามพระเจ้าจอร์จ (King George's War ) และสงครามฝรั่งเศส-อเมริกันอินเดียน (French and Indian War) เขาแต่งงานในปี 1749 เป็นพ่อเด็ก 11 คน และกลายเป็นหนึ่งในชายที่ร่ำรวยที่สุดในนิวแฮมป์เชียร์ เนื่องจาก ความร่ำรวยของโจนาธาน ทำให้เกิดข่าวลือว่าเขาได้ทำสัญญากับปีศาจ ในคฤหาสน์ที่เขาสร้างขึ้นบนพื้นที่ของคนจนเมื่อปี 1769 มีความเชื่อว่าปีศาจจะปรากฏตัวเพื่อใส่เหรียญทองเต็มรองเท้าบู๊ตของเขาที่แขวนไว้หน้าเตาผิงในวันแรกของเดือนล่ะครั้ง แต่โจนาธานโลภมากเลยคิดอุบายหลอกปีศาจด้วยการตัดพื้นรองเท้าบูตให้เป็นรูใหญ่เพื่อให้ปีศาจใส่เหรียญยังไงก็ไม่เต็มเสียที และเมื่อปีศาจรู้ว่าโดนโจนาธานหลอก จึงแก้แค้นด้วยการเผาบ้านของเขาและทำให้เหรียญทองหายไป เล่ากันว่าเมื่อโจนาธานเสียชีวิตลง ศพของเขาก็หายไปจากโลงศพและถูกแทนที่ด้วยกล่องใส่เหรียญประทับตรามาร โลงของโจนาธานถูกฝังในหลุมฝังศพที่ไม่มีเครื่องหมายและที่ตั้งยังไม่มีใครทราบ

6. หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ (Father Urbain Grandier)

หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ (ราว ค.ศ.1590 – 1634) เป็นนักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศสที่ถูกเผาทั้งเป็น หลังถูกตัดสินในข้อหาใช้เวทมนต์คาถา เขาทำหน้าที่เป็นนักบวชในโบสถ์ เซนต์ครอย (Saint Croix) ในลูดอง (Loudun) นิกายโรมันคาทอลิก ในสังฆมณฑลแห่งปัวตีเย (Roman Catholic Diocese of Poitiers) เขาเป็นนักบวชที่รู้จักในเรื่องละเมิดคำสาบานรักษาพรหมจรรย์ เป็นคนมักมากในกามมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงและมีชื่อเสียงในเรื่องเจ้าชู้ ในปี 1632 กลุ่มแม่ชีจากสำนักแม่ชีเออซูลิ (Ursuline) ได้กล่าวหาว่า เขามีเวทมนต์เรียกปีศาจอัสโมดาอี (Asmodai) หนึ่งในปีศาจเจ็ดบาปราคะเพื่อใช้ทำความชั่ว หลังจากเขาถูกจับและถูกนำตัวไปทรมาน ก็ได้พบหลักฐานใบสัญญาที่เขาทำไว้กับปีศาจหลายตัวเป็นภาษาลาติน รวมถึงลายเซ็นที่เชื่อว่าเป็นของซาตาน สัญญาระบุว่าเขาจะจงรักภักดีต่อปีศาจและสละความเชื่อต่อศาสนาเพื่อบรรลุข้อตกลงเพื่อให้ได้ผู้หญิงที่ตนต้องการ รวมไปถึงความมั่งคั่งและชื่อเสียง ปัจจุบันใบสัญญาของเขายังคงเก็บอยู่ในหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส (Bibliothèque nationale de France) จนถึงปัจจุบัน

5. จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ (Giuseppe Tartini)

จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ (ค.ศ.1692 – 1770) เป็นนักแต่งเพลงและนักไวโอลินชาวอิตาเลียน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนักประพันธุ์เพลงดนตรีบรรเลงที่มีผลงานมากกว่า 400 ผลงาน ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ใช้ในโบสถ์ไม่ก็โอเปร่า และผลงานที่โดดเด่นมีชื่อเสียงที่สุดคือ เพลงที่ชื่อ “เดวิด ทริล โซนาต้า” (Devil's Trill Sonata) ที่ใช้เดี่ยวไวโอลินด้วยท่วงทำนองอันร้อนแรง จุดเริ่มต้นของเพลงดังกล่าว จูเซปเป้ได้เล่าให้เฌโรม ลาล็องด์ (Jérôme Lalande) นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสฟังว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากปิศาจที่ปรากฏตัวต่อเขาในความฝันบนเตียงนอน จากนั้นก็ปีศาจก็บรรเลงไวโอลินโซนาต้าที่มีความไพเราะมากบทหนึ่ง ซึ่งเมื่อเขาฟังแทบหมดเรี่ยวแรงจนลืมหายใจ แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเขากลับไม่สามารถจดจำบทเพลงนั้นได้เลย เขาจึงลองแต่งโซนาต้าเพื่อเลียนแบบเพลงในฝัน แม้ว่าเพลงจะสร้างประทับใจแก่ผู้ชมมากเท่าใดก็ตาม แต่จูเซปเป้ยังคงผิดหวังที่ผลงานเพลงยังห่างไกลจากเพลงที่เขาได้ยินในความฝันของเขา ถึงกับกล่าวภายหลังว่า “ผมยอมพังไวโอลินทิ้งและเลิกเล่นดนตรีตลอดไปถ้าผมได้เป็นเจ้าของบทเพลงนั้น”

4. คอร์นีเลียส อะกริปป้า (Cornelius Agrippa)

คอร์นีเลียส อะกริปป้า (ค.ศ.1486 - 1535) เป็นนักเขียนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เขาศึกษากฎหมายและยารักษาโรค ที่ไม่เคยได้รับปริญญา อีกทั้งเขายังเป็นจอมเวทย์ นักเขียนลึกลับ นักบวช โหราจารย์และนักเล่นแร่แปรธาตุ เป็นผู้นำสิทธิสตรีที่มักจะปกป้องผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด อีกทั้งยังเขียนสามหนังสือแห่งปรัชญาลี้ลับ (Three Books of Occult Philosophy) หนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์พิธีกรรมที่ยังใช้จนถึงทุกวันนี้ ในปี 1535 เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนนอกรีตและพิพากษาประหารชีวิต เขาหนีออกมาและเขาก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต หลังจากการตายของเขาก็มีข่าวลื่อไปทั่วว่าเขาได้อัญเชิญปีศาจ ตำนานที่ได้รับความนิยมที่สุดคือในขณะที่เขากำลังขวนเจียนตายเอาได้ปล่อยปีศาจสุนัขดำซึ่งเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งสุนัขดำดังกล่าวปรากฏในตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเฟาสท์ (Faustus) และในวรรณกรรมของโยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่ (Johann Wolfgang von Goethe) กลายเป็น “ชวาสเซอ พูเดิล” (Zschwarze Pudel) หัวหน้าปีศาจ

3. โรเบิร์ต จอห์นสัน (Robert Johnson)

โรเบิร์ต จอห์นสัน (ค.ศ.1911 – 1938) เป็นนักดนตรีบลูส์ที่ยิ่งใหญ่ของอเมริกัน ติดอยู่ในอันดับ 5 จาก 100 รายการ ในนิตยสาร สโตนส์ โรลลิ่ง (Stones Rolling) มือกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล มีตำนานเล่าว่าเขาต้องการเป็นนักกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่และถูกแนะนำให้มุ่งหน้าไปที่สี่แยกที่อยู่ใกล้ด็อคเคอรี่ แพลนเทชัน (Dockery Plantation) เวลาเที่ยงคืน ที่นั่นเขาได้พบปีศาจที่มาปรับจูงกีตาร์ของเขา พร้อมกับสอนให้เขาเล่นสองสามเพลง โดยแลกเปลี่ยนชีวิตของจอห์นสันหากเขากลายเป็นคนชื่อเสียงในดนตรีเพลงบลุส์ ข่าวลือที่หลายคนเชื่อว่าเขาทำสัญญากับปีศาจนั้นมาจากการที่ช่วงแรกๆ นั้นโรเบิร์ตเป็นเพียงนักดนตรีธรรมดาที่ไม่ประสบผลสำเร็จอะไรเลย ต่อมาเขาก็ได้หายตัวไปและกลับมาพร้อมเทคนิคและการเล่นที่เหนือชั้นที่ไม่รู้ว่าเขาฝึกฝนมาจากที่ไหน อีกทั้งเนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับซาตานเป็นส่วนมาก
โรเบิร์ต จอห์นสันสร้างสรรค์ผลงานถึง 29 บทเพลงก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปีด้วยอาการป่วยลึกลับที่ยังเป็นที่ถกเถียงไม่เลิก หลายคนเชื่อว่าปีศาจได้เอาวิญญาณเขาไป แต่ข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเขาถูกวางยาพิษในแก้ววิสกี้โดยภรรยาจับได้ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ เขาถูกฝังในหลุมฝังศพที่ไม่มีเครื่องหมายและที่ตั้งไม่มีใครทราบ

2. โจฮัน เกออร์ก เฟาสต์ (Johann Georg Faust)

ด็อกเตอร์โจฮัน เกออร์ก เฟาสต์ (ราว ค.ศ.1480 - 1540) เป็นนักเล่นแร่ธาตุพเนจร โหราจารย์และจอมเวทย์จากเยอรมัน ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (หรือยุคเรอเนสซองซ์) ในขณะที่เขาเรียนอยู่มหาลัยคราคูฟ (Krakow) สองเพื่อนสนิทของเขามาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) และ ฟิลิป เมลแอชตัน(Philip Melachton) ได้เป็นพยานในพิธีสัญญาผูกพันเฟาสท์กับปีศาจ จนเป็นทำให้เขาถูกประณามจากคริสตจักรว่าเขาดูหมิ่นศาสนาและทำสัญญาปีศาจ ชีวิตของเขากลายเป็นตำนานที่ได้รับความนิยมในเรื่อง “เฟาสต์” (Faust) จากหนังสือ “ประวัติโศกเศร้าของด็อกเตอร์เฟาสต์” (The Tragical History of Doctor Faustus : 1604) และ “ห้องละครชีวิตของฟาสต์” (closet drama Faust : 1808) ตำนานมีอยู่ว่าเฟาสท์อยากมีชีวิตสุขสบายจึงเรียนรู้ไสยศาสตร์เรียกปีศาจ และมีการกระทำข้อตกลงกับซาตานเพื่อทำให้เขากลับมาหนุ่ม 24 ปีอีกครั้ง หากแต่น่าเสียดายต่อมาเขาก็ไม่รู้สึกพอใจชีวิตที่เป็นอยู่และพยายามที่จะยกเลิกข้อตกลง ปีศาจจึงได้ฆ่าเขาอย่างทารุณ ส่วนการตายของเฟาสต์ในชีวิตจริงคือเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดในขณะทำการทดลองเล่นแปรธาตุ

1. ทีโอฟิลุสแห่งเอดานา (St. Theophilus of Adana)

นักบุญทีโอฟิลุสผู้สำนึกผิดหรือทีโอฟิลุสแห่งเอดานา (เสียชีวิตราว 538) เป็นบาทหลวงในศริสต์ศตวรรษที่ 6 ที่มีการกล่าวถึงว่าได้ทำข้อตกลงกับปีศาจเพื่อให้ได้รับตำแหน่งของนักบวช อีกทั้งเรื่องราวของท่านยังเป็นเรื่องที่เก่าเก่าที่สุดของการทำสัญญากับปีศาจ ทีโอฟิลุส เป็นบาทหลวงแห่งอาดานา, คิลีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตุรกีในปัจจุบัน ท่านได้รับเลือกเป็นเอกฉันท์ที่จะเป็นบิชอป แต่เพราะความอ่อนน้อมถ่อมตนท่านจึงสละลงออกจากตำแหน่ง จนชายคนหนึ่งถูกรับเลือกแทนเขา แต่แล้วบิชอปคนใหม่กลับตัดสินใจถอนตำแหน่งรองบิชอปของเขาออกอย่างไม่ยุติธรรม เป็นเหตุทำให้ท่านเสียใจกับความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมาก จึงได้ทำการติดต่อหมอผีช่วยให้เขาได้ติดต่อกับซาตาน เพื่อทำสัญญาปีศาจ ลงนามด้วยเลือดของตนเอง โดยแลกกับการละทิ้งพระเยซูคริสต์ (Christ) และพระแม่มารี (Virgin Mary) และต่อมาปีศาจก็ช่วยทำให้เขาดำรงตำแหน่งเป็นบิชอป ปีต่อมา ทีโอฟิลุสเริ่มหวาดกลัวว่าปีศาจจะเอาดวงวิญญาณไป ท่านจึงสำนึกผิดและได้อธิษฐานต่อพระแม่มารีเพื่อขอให้อภัย หลังจากที่ 40 วันนับจากวันอดอาหาร พระแม่มารีก็ได้ปรากฏตัวและกล่าวตำหนิ ที โอฟิลุสขอร้องให้อภัยและพระแม่มารีสัญญาว่าจะไกล่เกลี่ยกับพระเจ้าให้ จากนั้นเขาก็อดอาหารต่อไปอีก 30 วันพระแม่มารีก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้งและเขาก็ได้รับการอภัยโทษ อย่างไรก็ตาม ซาตานไม่เต็มใจที่จะปลดปล่อยทีโอฟิลุสเป็นอิสระ สามวันต่อมาทีโอฟิลุสตื่นขึ้นมาพบคำสาปแช่งบนหน้าอกของเขา จากนั้นเขาก็เอาสัญญาไปให้บิชอปและสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ บิชอปจึงทำลายเอกสารและเมื่อทีโอฟิลุสหมดอายุไขลง ท่านก็ถูกปลดปล่อยจากภาระข้อสัญญาทั้งหมด

ที่มา: ทีมงาน toptenthailand,prontera.in.th
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักโรเซ่ในลุค number one girl ของไต้หวันรีวิวหนังดัง SAVAGES คนเดือดท้าชนคนเถื่อน50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025พนักงานสตาร์บัคส์[อเมริกา] ประท้วงหยุดงานจนถึงคริสต์มาสอีฟ เพื่อต่อรองค่าจ้างและเวลาทำงานหนุ่มจีนหน้าเหลี่ยมเพราะ "เคี้ยวหมากฝรั่ง" หนักมาก เผยภายใน 8 ปี เสียค่าหมากฝรั่งไปกว่า 2 ล้านบาทคนไหนดี Sold out ไปทีละคนๆ แก๊งพระเอก แก๊งคนดีที่ไหน แต่งงานไปแล้ว2 มีแฟนรักแฟนมากไปอีก2 เหลือหนึ่งเดียวคนนี้คือพี่เกรท วรินทรเพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้งซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพจอีซ้อขยี้ข่าว เผย มีกระแสคนโพสต์ ขอรับซื้อลูกอัณฑะคู่ละ12ล้าน...เมื่อฉันไปบาหลี EP.6 Tirta Empul Templeเพชรปากปลาร้าหน้าเป๊ะ ลองทาลิปสติกบนปาก ทำเอาทัวร์ลงสนั่น ร้านค้ารับเรื่อง สั่งให้โละยกแผงเลย!Labubu คอลเลคชั่นใหม่ เปิดขายไทย แต่คนจีนเหมาเกลี้ยง!โรเซ่ในลุค number one girl ของไต้หวันรีวิวหนังดัง SAVAGES คนเดือดท้าชนคนเถื่อน
ตั้งกระทู้ใหม่