หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“สัตว์โลก” กับพฤติกรรมที่ “เหมือนมนุษย์” อย่างไม่น่าเชื่อ

โพสท์โดย I sea u

บางครั้งพฤติกรรมที่เราคิดกันว่าน่าจะมีแต่มนุษย์ที่ทำ กลับมีสัตว์บางชนิดที่ดูธรรมดาๆ แต่กลับมีนิสัยเหมือนพวกเราอย่างไม่น่าเชื่อ

นกปกป้องรังตัวเองด้วยการตั้งรหัสผ่าน

Superb_fairy_wrens_mark_2นก Superb fairy wren

ที่มา wikipedia

 

เหมือนกับที่คุณต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของตัวเองด้วยการตั้งรหัสผ่านในเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นแหละ นกพันธุ์ Superb fairy wren ในประเทศออสเตรเลียก็มีการตั้งรหัสผ่านเพื่อปกป้องรังของมันจากผู้บุกรุกเช่นกัน แต่สำหรับมนุษย์อย่างเราที่มีรหัสผ่านไว้เพื่อไม่ให้ใครแอบมาดูของอยู่ในเครื่อง หรือป้องกันไม่ให้ใครมาแอบดูประวัติการค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่างทางอินเตอร์เน็ต (แต่เรารู้นะว่าคุณแอบดูอะไร) นกเหล่านี้ตั้งรหัสผ่านไปเพื่อให้แน่ใจว่า ลูกนกน้อยในรังของมันเป็นลูกของตัวเองจริงๆ ไม่ใช่ลูกของนกขี้โกงที่แอบมาไข่ทิ้งไว้นั่นเอง

bevi_nest1

รังของนก Superb fairy wren ไข่ลายจุดในภาพคือไข่ที่แม่นกชนิดอื่นแอบมาทิ้งเอาไว้

ที่มา questionableevolution

 

จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology เมื่อไม่นานมานี้พบว่า แม่นกชนิดนี้จะร้องเพลงๆ หนึ่งให้ไข่ในรังฟังก่อนที่ไข่จะฟักตัวประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้น เมื่อลูกนกฟักออกมาแล้ว พวกมันจะต้องร้องเพลงนี้ให้แม่ของมันทุกครั้งจึงจะได้รับอาหาร แต่ถ้ามันร้องเพลงไม่ถูกแม่นกก็จะทิ้งรังไปแล้วปล่อยให้ลูกนกตายลง สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะนก Fairy wrens มักจะตกเป็นเหยื่อของนก Bronze cuckoo ซึ่งจะมาแอบวางไข่ในรังเพื่อให้เลี้ยงลูกแทนให้ ซึ่งลูกนกเหล่านี้นอกจากจะแย่งอาหารลูกนกตัวอื่นแล้ว ยังมีนิสัยเสียชอบเตะลูกนกตัวอื่นตกจากรังอีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า นก Fairy wrens นั้นวิวัฒนาการการจดจำรหัสผ่านโดยใช้เสียง เพื่อใช้ในการแยกลูกของตัวเองออกจากลูกนก Bronze cuckoo ถึงแม้ว่าลูกนกทั้งสองชนิดจะมีลักษณะ หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิดก็ตาม แต่ก็อย่างว่าคือ นกชนิดนี้เองก็ไม่ได้ฉลาดขนาดจะแยกแยะลูกนกด้วยการดูจากลักษณะได้

อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติแล้วลูกนก Bronze cuckoo จะพยายามทำการเลียนเสียงร้องเพลงขออาหารจากลูกนกจริงๆ แต่โดยส่วนมากแล้วพวกมันจะทำไม่สำเร็จ เนื่องจากเพลงที่ใช้เป็นรหัสผ่านนี้มีความซับซ้อนมาก อีกทั้งแต่ละรังก็จะใช้เพลงไม่เหมือนกันอีกด้วย นั่นก็หมายความว่า ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้รหัสผ่านเดิมทุกๆ ครั้งที่ลงทะเบียนใช้อะไรสักอย่างออนไลน์ แปลว่าคุณมีระบบความปลอดภัยน้อยกว่านกเสียอีก

 

 

หนูนาได้รับแรงกดดันจากเพื่อนให้ดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

prairievolePrairie vole

ที่มาภาพ mnn

 

ถึงแม้ว่าหนูนาขนปุยพวกนี้จะดูน่ารักน่าชังก็ตาม หนูนาที่อาศัยอยู่ในแถบอเมริกาตอนเหนือซึ่งมีชื่อว่า Prairie vole เหล่านี้ก็มีความลับน่าอับอายเหมือนกับมนุษย์อย่างเรา นั่นคือ การที่สายพันธุ์ของพวกมันเป็นพวกรักการดื่มจนถึงขั้นติดแอลกอฮอล์นั่นเอง ซึ่งเป็นโชคร้ายของหนูทั้งหลายที่เกิดมาแต่เป็นโชคดีของพวกนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการศึกษาเรื่องธรรมชาติของการได้รับแรงกดดันจากเพื่อนหรือคนรอบข้าง และพฤติกรรมการดื่มเพื่อเข้าสังคม

จากการทดลองโดยมหาวิทยาลัย Oregon Health & Science และศูนย์การแพทย์ Portland Veterans Affairs Medical Center ได้มีการนำหนูนาขังไว้ในกรงพร้อมกับขวด 2 ใบ ใบหนึ่งใส่น้ำเปล่าธรรมดา และอีกใบคือเหล้าดีกรี 6 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นก็ทำการสังเกตและพบว่า ถ้าหนูพวกนี้ถูกขังไว้ตัวเดียวมันจะเลือกกินน้ำเปล่าในปริมาณที่พอๆ เหล้า อย่างไรก็ตาม ถ้าจับหนูไปขังไว้กับหนูตัวอื่นๆ พฤติกรรมพวกมันจะเปลี่ยนไปเป็นหนูขี้เหล้าในทันที โดยมันจะเลือกกินเหล้ามากกว่าน้ำถึง 80 เปอร์เซ็นต์

206077_v1

ที่มาภาพ oregonlive

 

นอกจากนั้น ยังพบว่าหนูที่ถูกขังไว้จะพยายามดื่มเหล้าให้ได้ปริมาณเท่าๆ กับหนูอีกตัวที่ถูกขังไว้ด้วยกัน เหมือนกับว่าจะเป็นการเสียชื่อถ้าดื่มได้น้อยกว่า ซึ่งก็เป็นแบบเดียวกับพฤติกรรมมนุษย์เวลาไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงแล้วแข่งกันดื่มนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ก็มีความสงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ หรือไม่ก็หนูพวกนี้อาจจะแค่เลือกกินตามเพื่อนมันโดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแอลกอฮอล์อย่างเดียวก็ได้ นักวิทยาศาสตร์เองก็เลยทำการทดลองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคราวนี้แทนที่จะเป็นขวดบรรจุเหล้า ก็เป็นขวดบรรจุนำหวานแทน (ซึ่งเป็นของกินที่หนูชอบมาก) ซึ่งผลก็ปรากฏว่า หนูเลือกกินน้ำหวานมากกว่าน้ำธรรมดาก็จริง แต่พฤติกรรมการพยายามดื่มเพื่อให้ได้ปริมาณเท่ากับเพื่อนร่วมกรงของมันหายไปเลย ซึ่งคงเป็นไปด้วยเหตุผลเดียวกับที่พวกเราเลือกแข่งกันดื่มเหล้ามากกว่าแข่งกันดื่มน้ำอัดลมในงานปาร์ตี้นั่นเอง

 

 

ลูกสุนัขยอมให้ตัวเมียชนะในการเล่นเกม

basket-of-puppies

ที่มาภาพ petkaria

 

สมัยเรายังเด็กๆ และเริ่มเล่นกับเพื่อนเพศตรงข้าม บางคนอาจจะพอจำได้ว่าบางครั้งพวกเด็กผู้ชายก็ยอมให้เด็กผู้หญิงชนะบ้าง เช่นแกล้งทำเป็นพลาดเพื่อให้เพื่อนสาวได้เล่นเกมชนะ ซึ่งเหตุผลก็เพราะเมื่อเรายังเด็ก เราก็อยากจะเล่นเกมไปได้นานๆ และถ้าเราชนะแค่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายก็อาจจะงอแงไม่ยอมเล่นด้วย แต่ก็อาจจะเป็นเพราะอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งนายแพทย์ P. Anka เรียกว่า อาการ “Puppy love”ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้บ่อยๆ ของลูกสุนัข

จากการศึกษาแสดงว่า เวลาที่เล่นต่อสู้กัน ลูกสุนัขตัวผู้จะปฎิบัติกับลูกสุนัขตัวเมียต่างออกไป มีการเผยจุดอ่อนเช่น คอ และยอมให้คู่ต่อสู้ (ที่เป็นตัวเมีย) กัดได้ ซึ่งสำหรับสุนัขแล้วนี่คือการยอมให้อีกฝ่ายชนะ ทั้งๆ ที่มีการบันทึกไว้ว่า ลูกสุนัขตัวผู้เกือบทั้งหมดจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่ามาก แต่เมื่อสู้กับตัวเมียกลับอ่อนปวกเปียกเสียอย่างนั้น ในขณะที่ถ้าเป็นการต่อสู้กับตัวผู้ด้วยกัน ทั้งสองฝ่ายกลับโจมตีกันอย่างจริงจังโดยไม่แสดงความปราณีเลย

tumblr_l92jfjlp6l1qzegudo1_500

ที่มาภาพ animalabuseisbad

 

Camille Ward จากมหาวิทยาลัย Michigan กล่าวไว้ว่า สาเหตุที่ลูกสุนัขยอมแพ้ให้กับตัวเมีย ก็เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นที่รักใคร่ ซึ่งนำไปสู่การเล่นกันต่อไปอีกเป็นเวลานาน (และอาจจะโชคดีได้รางวัลดีๆ จากตัวเมียด้วย)

ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะปกติแล้วธรรมชาติมักจะสร้างให้ตัวผู้ที่โตเต็มวัยแสดงพฤติกรรมข่มตัวเมีย หรือพยายามผสมพันธุ์ให้ได้มากที่สุด (สร้างฮาเร็ม) แต่กับลูกสุนัขกลับแสดงพฤติกรรมตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น

 

 

นกพิราบติดการพนัน

Pigeon_11.jpg6d6faa57-fe2c-40ed-94f3-fe3b53aaedf3Larger

ที่มาภาพ turbosquid

 

การพนัน คือหนึ่งในกิจกรรมของมนุษย์ที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย มันเป็นการเอาของมีค่าอย่างเช่น เงิน ไปลงความหวังน้อยนิดว่าถ้าชนะจะได้เงินเยอะขึ้นอีก ซึ่งส่วนมากผลก็คือคนที่พนันไปมักจะจนลง และไม่ได้ฉลาดขึ้น แต่ที่น่าแปลกคือ นกพิราบเองก็มีพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ด้วย

นักจิตวิทยา Thomas Zentall จากมหาวิทยาลัย Kentucky ได้ทำการทดลองเพื่อค้นหาว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจึงเลือกที่จะมุ่งเป้าไปยังการชนะที่เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ โดยไม่สนใจว่าจะต้องสูญเสียไปมากแค่ไหน ในการทดลองนี้ จะมีไฟให้นกพิราบเลือกจิกอยู่สองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือฝั่งไฟ “ปลอดภัย” คือ ไม่ว่าจะได้ไฟสีอะไร นกก็จะได้รับอาหาร 3 เม็ด ในขณะที่อีกฝั่งจะสุ่มระหว่างไฟสีแดงและสีเขียว ไฟสีเขียวมีโอกาสปรากฎออกมา 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนกจะไม่ได้รับอาหารอะไรเลย แต่ถ้าไฟออกมาเป็นสีแดงซึ่งมีโอกาสอยู่ 20 เปอร์เซ็นต์ นกจะได้รับรางวัลใหญ่เป็นอาหาร 10 เม็ด ซึ่งหมายความว่าในระยะยาวแล้ว ถ้านกเลือกที่จะกดแต่ฝั่งไฟ “ปลอดภัย” มันก็จะได้รับอาหารทุกครั้ง ในขณะที่ถ้ามันเลือกจะเสี่ยงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรถึงจะได้รางวัลใหญ่บ้างตามสถิติมันก็จะได้อาหารน้อยกว่าอยู่ดี

skinnerbox

ที่มาภาพ mumtazticloft

 

หลังจากการทดลองไปนับครั้งไม่ถ้วนพบว่า นกพิราบเลือกที่จะเสี่ยงพนันถึง 82 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่สนใจว่ามันจะได้อาหารน้อยกว่าการเลือกข้างที่ปลอดภัย ซึ่งนายแพทย์ Zentall เองก็บอกไว้ว่า นกพิราบยอมที่จะได้รับอาหารน้อยกว่าเพื่อเสี่ยงกับการถูกรางวัลใหญ่โดยไม่ได้คาดหมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปรับการทดลองให้ไม่ว่าจะเป็นไฟสีเขียวหรือไฟสีแดง ก็มีโอกาส 20 เปอร์เซนต์ที่จะให้อาหาร 10 เม็ดเท่าๆ กัน นกพิราบก็จะหันมาเลือกไฟ “ปลอดภัย” อย่างเดียวแทน

 

 

ปลวกมีการรณรงค์หาเสียง

Marvelous-Coptotermes-Termite-550x370

ที่มาภาพ animalpictures123

 

มนุษย์เราน่าจะเป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวที่มีการหาเสียงทางการเมือง ในขณะที่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ เรากลับเดินไปรอบๆ เมือง จับมือกับชาวบ้าน แล้วพยายามทำตัวให้ดูดีกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ เพื่อให้ได้ตำแหน่งมา อย่างไรก็ตาม มีสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งที่มีพฤติกรรมแบบนี้ นั่นคือ ปลวกพันธุ์ที่มีชื่อว่า Cryptotermes secundus ซึ่งมีการหาเสียงเพื่อให้ได้ตำแหน่งราชินี

ปลวกพันธุ์นี้มักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดเล็ก คือ 50-100 ตัวเท่านั้น ทำให้ปลวกทุกๆ ตัวมีโอกาสที่อาจจะได้เป็นราชินี อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา จะมีปลวกประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายเพื่อให้เหมาะแก่การเป็นผู้นำ หลังจากนั้นก็จะเป็นการชิงตำแหน่งแบบสัตว์ทั่วๆ ไป คือ มีการต่อสู้กันและตัวที่แพ้ก็จะถูกปลวกตัวอื่นๆ กิน ที่แปลกคือหลังจากการต่อสู้ห้ำหั่นกันจบลงแล้ว ปลวกผู้ลงสมัครที่เหลือรอดอยู่ก็จะทำการหาเสียงกัน

ปลวกผู้ลงสมัครจะเปลี่ยนจากปลวกดุร้ายกลายเป็นปลวกเข้าสังคมแทน มันจะใช้เวลาทั้งวันในการเดินไปทั่วแล้วใช้หนวดแตะปลวกงานตัวอื่นๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกันมากขึ้น นอกจากนั้น บางครั้งยังมีการแจกอาหารให้แก่ปลวกงาน (ซึ่งอาหารที่ว่านี้คือของเหลวที่ผลิตออกมาจากก้นของมันเอง) หลังจากนั้น ปลวกที่ได้รับการยอมรับจากปลวกงานก็จะได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นราชินีของอาณาจักร ซึ่งกระบวนการทั้งหมดทั้งมวลนี้กินเวลาอย่างมากแค่ 11 วันเท่านั้น

 

ที่มา Cracked

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: I sea u
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
72 VOTES (4/5 จาก 18 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ ขีดเส้น 15 วัน ขอข้อมูล อสส. ปมร้อง ‘ทักษิณ’ ครอบงำเงินดิจิทัล 10000 บาท คนทั่วไป ได้เงินวันไหน?ประโยชน์ของการเดินเท้าเปล่า ธรรมชาติบำบัด สามารถทำเองได้ที่บ้านงานบ้านช่วยลดน้ำหนัก สำหรับคนไม่อยากไปฟิตเนส บ้านสะอาด แถมยังได้ออกกำลังกายด้วยน้ำแข็ง ประโยชน์ของ “น้ำแข็ง” ที่คุณอาจไม่เคยรู้กินให้หายเครียด อาหารแก้เครียดส่งผลดีต่อสุขภาพประโยชน์ของแสงแดด ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตแจ่มใสลุงชาญ อดีต นายก อบจ.ปทุมธานี กับพวก รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน ยื่นหลักทรัพย์คนละ 5 แสนบาทผัก ผลไม้ วิตามินซีสูง พร้อมคุณประโยชน์อีกมากมายข้อดีและข้อเสียของการเป็น Introvertสื่อฮ่องกง แฉ “บอสเหล่าดารา” เอี่ยวคดี “ดิไอคอน” โยงนักการเมือง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
‘ลีน่าจัง’ เมินกระเเส ถูกร้านก๋วยเตี๋ยว ติดป้ายห้ามเข้า คนทำระวังติดคุกตำรวจบุกค้นกุฏิวัดดัง ย่านนนท์ เจอพระฉี่ม่วง 5 รูปจบแล้ววิจารณ์ "ทองประกายแสด 2024" แนวคิดถูกถ่ายทอดค่อนข้างล้าสมัยมากข้อดีและข้อเสียของการเป็น Introvertไร้ชื่อสิทธิเงินหมื่น เมาสุราน้อยใจ ตัดสินใจเผาบ้านประชด
ตั้งกระทู้ใหม่