หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

The Lord of The Ring ( Part 1 )

เนื้อหาโดย salimz

 

  The Lord of The Ring   

 โครตอภิมหาสงครามที่ครองใจคนทั้งโลก !! 

 

 คำเตือน !.. กระทู้นี้มีการสปอยเนื้อหาของหนัง 

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

       

      สวัสดีครับชาวโพสจัง !! หลังจากหายหน้าหายตาไปหลายวัน วันนี้ผมขอมารีวิวมหากาฬเรื่องยักษ์ของปี 2000 The lord of the ring กว่าจะตัดสินใจจะรีวิวเรื่องนี้ก็ใช้เวลาทำใจ และรวบรวมข้อมูลพอสมควร เนื่องด้วยผมชอบเรื่องนี้มาก(ส่วนตัว) แต่เนื้อหามันเยอะโครตๆ ยังไงสำหรับแฟนๆเรื่องนี้คงจะชอบใจกันไม่มากก็น้อย กระทู้นี้จะขอแนะนำตั้งแต่ ยุคที่ 1 - ยุคที่ 3(แบบคร่าวๆ) จะเป็นยังไงมีเนื้อหายังไงก็ลองไปดูก็แล้วกันนะครับ ถ้าผิดพลาดหรือขาดตกเนื้อหาส่วนไหนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลย กระทู้จะไม่ขอรีวิวเรื่อง The Hobbit แบบละเอียดนะครับกลัวจะเป็นการสปอย เพราะหนังยังฉายไม่จบเด๋วจะเสียอรรถรสในการรับชม

       ก่อนจะเริ่มชมภาพยนต์เรื่องนี้ผมขอ รีวิวหนังสือ The Silmarillion ซึ่ง เป็นหนังสือโหมโรง ตั้งแต่ยุคแรกๆ แบบคราวๆ เสมือนโครงสร้างทั้งหมดใน Middle earth สำหรับผู้ที่อยากจะอ่านแบบเจาะลึก แนะนำให้หซื้ออ่าน มีแบบแปลไทยแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน และก็ผมจะไม่เรียงลำดับตาม ภาค 1 - 3 จะเรียงเป็นยุค ยุคที่ 1 - 3 โดยส่วนมากจะเน้นไปที่ยุคที่ 3 ตามหนัง การเดินทางของโฟรโด้และคณะ ยังไงก็เชิญรับชมเลยครับผม

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 The Silmarillion 

 

 The Silmarillion 

       ตำนานแห่งซิลมาริล เป็นนิยายจินตนิมิต แต่งโดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (ผู้แต่งเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์) เริ่ม  ประพันธ์โครงเรื่องตั้งแต่ปี ค.ศ. 1917 และมีการเขียนเพิ่มเติมมาโดยตลอด จนเมื่อ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน สิ้นชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1973 วรรณกรรมเรื่องนี้ก็  ยังเขียนไม่เสร็จ และยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ คริสโตเฟอร์ โทลคีน บุตรชายคนที่สามของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ได้สานต่องานประพันธ์ของพ่อ โดย  รวบรวมงานเขียนที่ยังคั่งค้างอยู่ ทั้งส่วนที่เขียนรายละเอียดแล้ว และส่วนที่มีเพียงแนวคิด โครงเรื่อง มาประพันธ์ต่อจนสำเร็จสมบูรณ์ เดอะ ซิลมาริลลิ  ออน จึงได้ตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1977 

 

 ตำนานซิลมาริลจะประกอบด้วยเนื้อหา 5 ส่วนดังนี้ 

 

 1 . ไอนูลินดาเล (Ainulindalë) มหาคีตาแห่งไอนัวร์ , . วาลาเควนตา (Valaquenta) ตำนานแห่งวาลาร์  

       ไอนูลินดาเล เป็นเนื้อหาส่วนแรกของหนังสือ ตำนานแห่งซิลมาริล เล่าถึงเหตุการณ์การสร้างโลกในลักษณะตำนาน กล่าวคือ อิลูวาทาร์ ("พระบิดา  แห่งสรรพสิ่ง") ทรงสร้างไอนัวร์ขึ้นก่อนทุกสิ่ง เป็นดวงจิตที่ถือกำเนิดขึ้นจากดำริ หรือความคิดของพระองค์เอง จากนั้นอิลูวาทาร์ทรงแสดงดนตรีให้    เหล่าไอนัวร์ชม แล้วโปรดให้พวกเขาบรรเลงดนตรีให้พระองค์ฟังบ้าง การบรรเลงดนตรีของเหล่าไอนัวร์นี้เรียกว่า "มหาคีตาแห่งไอนัวร์" (คำแปลของ    ไอนูลินดาเล) ในระหว่างการบรรเลงนั้น เมลคอร์ ไอนัวร์องค์หนึ่งคิดอยากบรรเลงตามใจตัวเอง ทำให้เสียงดนตรีเพี้ยนผิดพลาดไปหมดจนล่มลง แต่  องค์อิลูวาทาร์ทรงสำแดงฤทธิ์เป็นเสียงดนตรีไม่สิ้นสุด แล้วจากนั้นจึงแสดงภาพของโลกอาร์ดา ให้เหล่าไอนัวร์ได้เห็น โลกอาร์ดานั้นคือสิ่งที่บังเกิดขึ้น  จากการบรรเลงดนตรีนั่นเอง จากนั้นอิลูวาทาร์จึงสร้าง เออา หรือโลกอาร์ดาขึ้นให้เป็นจริง แล้วโปรดให้เหล่าไอนัวร์ที่ทรงพลังอำนาจ ลงไปสถิตอยู่ใน  โลกนั้น เพื่อสร้างโลกให้เป็นไปตามที่พวกเขาได้บรรเลงบทเพลงเอาไว้

       เหล่าไอนัวร์ที่ลงมาในโลก กลุ่มที่มีฤทธิ์มากเรียกว่า วาลาร์ กลุ่มที่มีฤทธิ์รองลง  มา เรียกว่า ไมอาร์ พวกเขาทั้งหมดพากันสร้างโลกให้พร้อมรอรับการมาถึงของเหล่าบุตรแห่งอิลูวาทาร์ โดยที่มีเมลคอร์คอยขัดขวางการก่อสร้างอยู่  ตลอด บท วาลาเควนตา เป็นเนื้อหาส่วนที่สองของหนังสือ กล่าวถึงรายละเอียดของวาลาร์ทั้ง 14 พระองค์ และรายละเอียดของไมอาร์องค์สำคัญบาง  องค์ สุดท้ายกล่าวถึงเทพอสูรเมลคอร์ คือไอนัวร์ที่จิตใจหันไปสู่ความชั่วร้าย กับบรรดาไมอาร์ที่ยอมเป็นสมุนของเขา เช่นเซารอน และบัลร็อก         

                                           

 3 . เควนตา ซิลมาริลลิออน (Quenta Silmarillion) ตำนานว่าด้วยเรื่องของดวงมณีซิลมาริล 

        คือดวงมณีสามดวงที่เฟอานอร์ เจ้าชายเอลฟ์ ชาวโนลดอร์ ประดิษฐ์ขึ้น แต่ถูกมอร์กอธขโมยไปหลังจากสังหารกษัตริย์ฟินเว บิดาของเฟอานอร์ เฟ   อานอร์กับโอรสทั้งเจ็ดและชาวโนลดอร์จึงติดตามไล่ล่าเพื่อล้างแค้น เรื่องราวส่วนใหญ่ในตอนนี้จะเกี่ยวกับการทำสงครามของพวกเอลฟ์กับมอร์กอธใน   แผ่นดินเบเลริอันด์ เพื่อชิงซิลมาริลกลับคืน

  เควนตา ซิลมาริลลิออน ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 24 บท ในจำนวนนี้ เรื่องที่ถือว่าเป็นเอกในตำนานซิลมาริลลิออน ได้แก่

          3.1 :ว่าด้วยเบเรนและลูธิเอน

          3.2 :ว่าด้วยทูริน ทูรัมบาร์ (เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งใน ตำนานบุตรแห่งฮูริน คริสโตเฟอร์ โทลคีนได้รวบรวมตำนานนี้และประพันธ์ขึ้น เป็นเล่มต่างหาก                                                 เมื่อปี พ.ศ. 2550 ใช้ชื่อหนังสือว่า ตำนานบุตรแห่งฮูริน)

          3.3 :ว่าด้วยทูออร์ และการล่มสลายของกอนโดลิน ว่าด้วยการเดินทางของเออาเรนดิล และสงครามแห่งความโกรธา

 

 4 . อคัลลาเบธ (Akallabêth) 

      เนื้อหาส่วนนี้กล่าวถึงการกำเนิดและการล่มสลายของอาณาจักรมนุษย์ชาวนูเมนอร์ ซึ่งเป็นเกาะแห่งหนึ่งกลางมหาสมุทรใหญ่ที่เหล่าวาลาร์สร้าง  ประทานให้เป็นของรางวัลแก่ชาวมนุษย์สามตระกูลที่เป็นสหายเอลฟ์ และได้ช่วยเหลือการศึกต่อต้านเมลคอร์มาโดยตลอด อาณาจักรนูเมนอร์ต้องล่ม  สลายลงก็ด้วยความเจ้าเล่ห์ของไมอาผู้ชั่วร้ายชื่อ เซารอน ซึ่งเคยเป็นสมุนมือขวาของเมลคอร์มาก่อน เซารอนสร้างสมอำนาจของตนขึ้นใหม่ในยุคที่  สอง หมายจะครองมิดเดิลเอิร์ธทั้งหมด แต่ชาวนูเมนอร์ยกทัพมาปราบปรามลงได้

      เมื่อเซารอนไม่สามารถเอาชนะชาวนูเมนอร์ด้วยกำลัง เขาจึงแสร้งเป็น  ยอมจำนนและให้ชาวนูเมนอร์จับตัวไปเป็นเชลย เซารอนหาทางเข้าไป  ใกล้ชิดกษัตริย์ อาร์-ฟาราโซน แล้วทำให้พระองค์หลงเชื่อคำยุยงจนตั้งให้เขา  เป็นหัวหน้าที่ปรึกษา และเหิมเกริมถึงขนาดคิดยกทัพไปต่อสู้กับเหล่าวา  ลาร์เพื่อช่วงชิงความเป็นอมตะ ครั้นเมื่อทัพเรือของอาร์-ฟาราโซนยกไปถึงแผ่น  ดินอามัน อิลูวาทาร์ก็บันดาลให้มหาสมุทรใหญ่แยกเป็นเหวลึก ดูดเอา  เกาะนูเมนอร์และกองเรือทั้งหมดจมหายไปในห้วงอเวจี ทว่าดวงจิตของเซารอน  สามารถหนีรอดกลับมายังแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ธได้ และชาวนูเมนอร์  จำนวนหนึ่งที่ยังคงภักดีต่อวาลาร์และอิลูวาทาร์ ก็หนีรอดมายังมิดเดิลเอิร์ธได้เช่นกัน

 

 5 . ว่าด้วยแหวนแห่งอำนาจ และยุคที่สาม (Of the Rings of Power and the Third Age) 

      เนื้อหาส่วนสุดท้ายของหนังสือเป็นบทสรุปเหตุการณ์ในวงล้อประวัติศาสตร์โลกอาร์ดาของโทลคีน กล่าวถึงการปรากฏตัวของจอมมารเซารอน ที่  เรืองอำนาจขึ้นมาแทนที่ เมลคอร์ นายเก่าของตน เซารอนสร้างแหวนแห่งอำนาจขึ้น และก่อสงครามกับศัตรูเก่า คือเหล่าเอลฟ์และมนุษย์ผู้เป็นสหาย  เอลฟ์ (ชาวนูเมนอร์) จนกระทั่งถึงสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้ายซึ่งเป็นอันสิ้นสุดยุคที่สอง

      จากนั้นเล่าถึงเหตุการณ์ในยุคที่สามที่เกี่ยวข้องกับแหวนแห่งอำนาจของเซารอน การกำเนิดสภาขาว การรุ่งเรืองและเสื่อมสลายของอาณาจักร    กอนดอร์ ไปจนถึงการสูญสิ้นอำนาจของเซารอนในปลายยุคที่สาม เนื้อหาในส่วนนี้เพียง 1 ย่อหน้า ขยายเป็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่อง "เดอะ  ลอร์ดออฟเดอะริงส์" ว่าด้วยความพยายามทำลายแหวนเอกของเซารอน โดยชาวเพเรียนนัธ (ฮอบบิท) ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีชื่อปรากฏ

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 ยุคที่ 1 

       

     ในยุคที่ 1 นั้นพวกเอลฟ์ที่เป็นอมตะเป็นบุตรของวาทาซึ่งเปรียบเสมือนพระเจ้า ภายหลังพวกเอล์ฟได้รวมตัวกันที่วาลินอร์ ดินแดนสวรรค์ที่สร้างโดยวาลาซึ่งเปรียบเสมือนเทพเจ้า ในการสร้างทวีปอาด้าร์ Arda นั้น พวกวาลาทำหน้าที่เหมือนกับตัวแทนแห่งสวรรค์ เป็นสักขีพยานในการสร้างมากกว่าเป็นผู้สร้าง พวกเอล์ฟที่เดินทางไปวาลินอร์ ซึ่งอยู่ทางทะเลตะวันตกของดินแดนตงง้วน ภายหลังเรียกกันว่าพวกเอลด้า ส่วนเอล์ฟที่ยังอยู่ในดินแดนตงง้วนนั้นมีชื่อว่าพวกซินด้า

 

          ในดินแดนแห่งวาลินอร์ พวกเอลด้าได้เรียนรู้ทั้งศิลปะ และ หัตถกรรมจากพวกวาลา ฟีนอร์ จ้าวแห่งเอลด้า ได้สร้างอัญมณีที่งดงามขึ้นสามชิ้น มีชื่อว่าซิลมาริล แต่สุดท้ายซิลมาริลได้ถูกขโมยโดยชาววาลาที่ชั่วร้ายที่มีชื่อว่า มอร์กอธ ซึ่งเป็นศตรูที่ชั่วร้ายของโลก มอร์กอธนำซิลมาริลหนีมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ ฟีนอร์ได้นำเอลด้าจำนวนหนึ่งติดตามมอร์กอธมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ และได้พบว่า ที่นี่มีมนุษย์ซึ่งมีชีวิตที่ไม่เป็นอมตะ และเป็นทายาทรุ่นที่สองของอีลูวาทา ที่นี่ เอลฟ์ และมนุษย์ได้ร่วมกันต่อสู้กับกองทัพของมอร์กอธ ซึ่งมีพวกออร์ค โทรล และมังกร แต่ก็หาซิลมาริลไม่พบ ในที่สุด เบเรน (มนุษย์) และ ลูเทียน ทินูวีล (เอล์ฟ) ได้บุกเข้าไปยังอังบาน ดินแดนมอร์กอธ และสามารถช่วงชิงซิลมาริลมาหนึ่งชิ้นจากมงกุฎของมอร์กอธ ในยุคที่ 1 นี้ได้จบลงด้วยการที่อังบานถูกทำลาย ดินแดนส่วนใหญ่ของทวีปได้ถูกรวบรวมเข้าด้วยกัน และมอร์กอธได้ถูกชาววาลาจับกุมตัวได้ และจองจำไว้ชั่วนิจนิรันดร์ 

เครตดิตเนื้อหาส่วนนี้ : http://loveaura.blogspot.com/2013/02/lord-of-ring.html

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 ยุคที่สอง 

 

     ยุคที่สองเป็นยุคของนูเมนอร์ซึ่งเป็นชื่อดินแดนที่เป็นเกาะอันเกรียงไกรของมนุษย์ เกาะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของวาลินอร์ เอรินดิลมีลูกชายสองคนชื่อ เอลรอนด์ กับ เอลรอส ซึ่งเป็นลูกครึ่งเอลฟ์ เอลรอนด์เลือกที่จะเป็นเอลฟ์ซึ่งมีชีวิตเป็นอมตะ ในขณะที่เอลรอสเลือกที่จะเป็นมนุษย์ที่มีอายุขัย (แต่มีอายุยืนยาว) เอลรอสได้เป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งนูเมนอร์ ย้อนกลับไป ณ มิดเดิ้ลเอิร์ธ เมืองเอเรเจี้ยน มีช่าง 11 คนภายใต้การนำของเซเลบริมบอร์ซึ่งเป็นหลานของฟีนอร์ ได้สร้างแหวนกายสิทธิ์ขึ้น ซึ่งแหวนนี้จะทำให้ผู้ใส่มีอำนาจพิเศษ (ซึ่งความสามารถในการหายตัวเป็นอำนาจที่น้อยที่สุดของแหวนนี้)

 

 

 Three Rings for the Elven-kings under the sky, 
 Seven for the Dwarf-lords in their halls of stone, 
 Nine for Mortal Men doomed to die, 
 One for the Dark Lord on his dark throne 
 In the Land of Mordor where the Shadows lie. 

 One Ring to rule them all, One Ring to find them, 
 One Ring to bring them all and in the darkness bind them 
 In the Land of Mordor where the Shadows lie. 
 
 สามธำมรงค์  องค์เอลฟ์ได้   ใต้นภา 
เจ็ดวงกษัตริย์แคระ ประสาทศิลา   ท่านได้  
 เก้าวง แด่มนุษย์ผู้มรณา   ตัวต่าง วางวาย   
อัครธำมรงค์สถิตย์ท้าว   จ้าวแห่ง นิลกาฬ   
 
 เงามัจจุราช สถิตย์แคว้น   แดนมอดอร์  
 แหวนเอก เสกผู้ครอง   ก้องโลก 
แหวนหนึ่ง ซึ่งเฝ้ามอง   วงอื่น อื่นนา 
หนึ่งวงผูกต่างวงไว้   ภายใต้ มนต์ดำ  
 

       ซารอน ทหารเอกของมอร์กอธ ได้ช่วยพวกเอลฟ์สร้างแหวนนี้ เมื่อพวกเอลฟ์สร้างแหวนเสร็จ ซารอนได้หลอมแหวนวงหนึ่งด้วยไฟแห่งภูเขาดูม แหวนวงนี้ทำให้ซารอนมีอำนาจเหนือผู้สวมแหวนวงอื่นๆ และทำให้พวกนั้นทรยศต่อเอลฟ์ มีเพียงแค่แหวนสามวงของพวกเอลฟ์เท่านั้นที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของซารอน แหวนสามวงนี้สร้างโดนเซเลบริมบอร์เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อไรก็ตามที่แหวนสามวงนี้แสดงพลัง ซารอนก็จะรับรู้ถึงการใช้แหวนนี้ ดังนั้นพวกเอลฟ์จึงไม่ได้ใช้แหวนสามวงนี้ การหลอมแหวนครองพืภพนี้ ทำให้พวกเอลฟ์ได้เห็นธาตุแท้ของซารอน และได้ประกาศสงครามกับซารอน ซารอนได้ยึดดินแดนแห่งมอร์ดอร์เป็นฐานที่มั่น

 

           ในขณะนั้นเอง ทายาทของเอลรอสที่มีชื่อว่าเอเดน ได้เป็นเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษย์ พวกนูเมนอร์มีอำนาจมากและในที่สุดก็เกิดความริษยาในความเป็นอมตะของพวกเอลฟ์ ทำให้หลงกลซารอน และในที่สุดก็ถูกซารอนทำลาย และจมลงสู่ก้นบึ้งของทะเล พวกที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ภายใต้การนำของเอเลนดริล และบุตรที่ชื่อว่า อิซัลเดอร์ และ อานาเรี่ยน รอดจากการทำลายล้างของซารอนได้หลบหนีมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ เอเลนดริลได้สร้างดินแดนแห่งใหม่ในภาคเหนือ มีชื่อว่า อาร์นอร์ ในขณะที่ อิซัลดอร์ และ อานาเรียน ได้สร้างเมืองกอนดอร์ที่ตอนใต้ เชื่อกันว่า ซารอนได้ถูกทำลายลงพร้อมกับการล่มสลายของนูมานอร์ แต่แท้ที่จริง วิญญาณของซารอนยังคงอยู่ และได้กลับไปยังดินแดนแห่งมอร์ดอร์ ซารอนจะไม่ถูกทำลาย หากแหวนครองพิภพยังคงอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

           

    เพื่อต่อสู้กับความชั่วร้ายของซารอน เอเลนดิล ได้ร่วมกับกิลการาด (กษัตริย์องค์สุดท้ายของเอลด้า) กองทัพพันธมิตรของเอลฟ์และมนุษย์ได้จู่โจมกองทัพของมอร์ดอร์ เอเลนดิล และกิวการาดถูกฆ่าตาย แต่ไอซัลดอร์สามารถตัดมือซารอน และชิงแหวนครองพิภพมาได้ ในขณะที่ดาบของพ่อไอซัลดอร์ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆกัน แต่ซารอนก็ไม่ได้ถูกทำลาย เพราะไอซัลดอร์เลือกที่จะเก็บแหวนไว้ แทนที่จะทำลายทิ้ง ยุคที่สองสิ้นสุดลงพร้อมกับความพ่ายแพ้ของซารอน

       

     

   ในระหว่างที่ไอซัลดอร์เดินทางกลับจากสงคราม ไอซัลดอร์ถูกซุ่มโจมตีจากพวกออร์ค เขาได้ว่ายน้ำหนี และใช้พลังแห่งแหวนอำพรางตัว แต่ระหว่างที่ว่ายน้ำ แหวนได้ลื่นหลุดจากนิ้วของเค้า ทำให้พวกออร์คมองเห็น และใช้ธนูยิงไอซัลดอร์จนตาย แหวนครองพิภพได้จมลงสู่ก้นบึ้งของแม่น้ำนับศตวรรษ

                 

 

 

 

    จนกระทั่งถูกพบโดยบังเอิญโดยบุคคลทั้งสองที่เป็นเพื่อนกันชื่อ ดีกอล และสมีกอล สมีกอลฆ่าดีกอลเพื่อช่วงชิงแหวน และใช้แหวนในการล่องหนเพื่อแอบเรียนวิชาต่างๆ และขโมยสิ่งของ พวกชาวบ้านต่างเรียกเค้าว่า กอลัม ซึ่งมาจากเสียงที่เค้าชอบทำในลำคอ กอลัมรู้สึกเบื่อหน่ายพวกชาวบ้าน จึงได้หลบสู่หุบเขาเมฆา ที่ซึ่งกอลัมเชื่อว่า เค้าสามารถเรียนรู้ความลับของการสร้างโลกได้ ตอนนั้นเป็นปี 2470 แห่งยุคที่สามของมิดเดิ้ลเอิร์ธ

     

 

   แล้วแหวนก็ถูกพบในยุคที่ 3 ระหว่างที่ บิลโบ แบ๊กกิ๊น เดินทางผจญภัยกับ ธอริน โอเคนชิล ในเรื่อง The Hobbit ซึ่งผมจะขออธิบายคร่าวๆบิลโบไปพบแหวนที่ถ้ำ กอบลิน บิลโบได้แหวนมาจาก สมีกอล(แบบบังเอิญ) แหวนได้ช่วย บิลโบไว้หลายครั้ง จนสิ้นสุดและกลับบ้านมาโดยที่แหวนยังอยู่กับตัวบิลโบ และยังไม่มีใครรู้ว่าแหวนอยู่กับบิลโบ จน ......

เครตดิตเนื้อหาส่วนนี้ : http://loveaura.blogspot.com/2013/02/lord-of-ring.html

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ขอโหมโรงเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไม่รู้ว่ามีผู้ที่สนใจเรื่องนี้มากหรือน้อย เพราะผมจะรีวิวแบบโครตระเอียด เนื้อหาจะมีส่วนของหนังสือมาเพิ่มในส่วนที่สำคัญบ้าง ถ้าสนใจมากก็จะทำ พาท2 ต่อ ถ้ามันน้อยผมก็ขอผ่านดีกว่า มันเยอะยุบยิบไปหมด ฮ่าๆๆ ช่วยโหวดหน่อยนะครับ !!! 

Bye .. 

 

เนื้อหาโดย: salimz
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
salimz's profile


โพสท์โดย: salimz
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
84 VOTES (4/5 จาก 21 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกสอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายAPC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคตมิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อกัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
ตั้งกระทู้ใหม่